CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: Globlex มองกรอบดัชนีตลาดหุ้นไทยปี 68 ที่ระดับ 1,330 – 1,530 จุดและกรอบราคาทองคำที่ 39,500 – 44,500 บาท 
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Economy > Globlex มองกรอบดัชนีตลาดหุ้นไทยปี 68 ที่ระดับ 1,330 – 1,530 จุดและกรอบราคาทองคำที่ 39,500 – 44,500 บาท 
Economy

Globlex มองกรอบดัชนีตลาดหุ้นไทยปี 68 ที่ระดับ 1,330 – 1,530 จุดและกรอบราคาทองคำที่ 39,500 – 44,500 บาท 

CTD admin
Last updated: 2025/01/09 at 4:25 AM
CTD admin Published January 9, 2025
Share

บล. โกลเบล็ก (GBS) ชี้ดัชนีหุ้นไทยปี 2568 เทรดในกรอบ 1,330-1,530 จุด โดยได้แรงหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดอกเบี้ยขาลง พร้อมส่งซิกธีมกลยุทธ์ Upside หุ้นน่าลงทุน แนะ  ช็อป 7 หุ้น CK-BCH-ATP30-D-AU-TNP-HL น่าจับตา 

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 2568 ไว้ที่ 1,330 – 1,530 จุด อ้างอิง จาก PE ที่ระดับ 13-15 เท่า ด้วยสมมติฐานคาดกาณ์ตัวเลข GDP ในปี 2568 ที่ 2.8% ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่เคยใช้ในกรอบ PE 14-16 เท่า โดยในไตรมาสแรกฝ่ายวิจัยมองว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากปัจจัยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ easy e -receipt, เงินหมื่นบาทให้ผู้สูงอายุ รวมถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลง ขณะที่ประเทศจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่

แต่ทั้งนี้ ยังคงต้องจับตาปัจจัยด้านความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง และสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐที่จะเป็นปัจจัยกดดันยอดส่งออก ขณะที่ปัญหาหนี้ครัวเรือนก็ยังสูงขึ้น จนส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค

นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัย ยังประเมินกรอบดัชนีการลงทุนในครึ่งปีแรกอยู่ในกรอบ Sideway 1,330-1,400 จุด  พร้อมทั้งมองปัจจัยเรื่องอัตราดอกเบี้ย ค่าเงินบาท และน้ำมัน  โดยรวมว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้ง ตาม FED ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2568 ประกอบค่าเงินบาทอยู่ในทิศทางอ่อนค่าเนื่องจากเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่า ซึ่งคาดว่าค่าเงินบาทจะอยู่ที่ระดับ 34-36 บาทต่อดอลลาร์

ขณะที่คาดว่าราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบอยู่ที่ 76 ดอลลาร์  ซึ่งลดลงจากปี 2567 เนื่องจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ และการผลิตเพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตรายอื่นนอกกลุ่ม OPEC+ ขณะเดียวกันความต้องการใช้น้ำมันเติบโตช้าลง ซึ่งเป็นผลจากผู้บริโภครถยนต์ไฟฟ้า (EV) มากขึ้น

สำหรับธีมหุ้นน่าลงทุนรับปีมะเส็ง ทางฝ่ายวิจัยได้คัด 2 กลุ่มเด่นน่าลงทุน ได้แก่

  1. กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยมีมุมมองบวกต่อกลุ่มรับเหมา โดยคาดว่าปี 2568 จะมีงานประมูลเพิ่มขึ้น อาทิ รถไฟฟ้าสายสีแดง 3 สาย รถไฟรางคู่ 6 เส้นทาง มอเตอร์เวย์ 2 สาย ทางด่วน Double Deck และการขยายสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิและเชียงใหม่ มูลค่ารวม 4.9 แสนล้านบาท โดยทางบล.โกลเบล็ก แนะนำ ซื้อหุ้น CK (ซึ่ง Consensus ให้ราคาเหมาะสมที่ 26.50 บาทต่อหุ้น)

2. กลุ่มโรงพยาบาล มองว่าได้ประโยชน์จากเป้าหมายสู่การเป็น “ศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ” (Wellness and Medical Hub) สนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) จากกรณีการเข้ามาท่องเที่ยวของต่างชาติ จึงแนะนำหุ้น BCH ที่ราคาเหมาะสม Consensus 21 บาทต่อหุ้น   

ขณะที่หุ้นในกลุ่ม mai  แนะนำซื้อหุ้น  ATP 30 โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 1.25 บาทต่อหุ้น จากการเติบโตของรายได้และกำไร เพราะมีจำนวนลูกค้าเดิมให้บริการเพิ่ม และมีการรับลูกค้าใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังแนะนำ หุ้น D ให้ราคาเหมาะสมที่ 5.06 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเติบโตเพิ่มขึ้น และที่ได้ประโยชน์จากมาตรการ Easy e-receipt ได้แก่ หุ้น AU ราคาเหมาะสมที่ 13.50 บาทต่อหุ้น , TNP ราคาเหมาะสมที่ 5 บาทต่อหุ้น และ HL (อยู่ระหว่างทบทวนราคาใหม่)

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินราคาทองคำมีโอกาสพักฐาน เนื่องจากเฟดส่งสัญญาณชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2568 จากเดิมคาด 4 ครั้ง เหลือ 2 ครั้ง ประกอบกับรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำโดย “ทรัมป์” จะช่วยทำให้สงครามในภูมิภาคตะวันออกกลาง และสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ชะลอลง เนื่องจากทรัมป์ ไม่สนับสนุนการทำสงคราม ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำถูกลดความน่าสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

นอกจากนี้ นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่สหรัฐฯ มีแนวโน้มทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม เงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าจากปัจจัยข้างต้นจะช่วยพยุงราคาทองคำไทย โดยให้กรอบราคาทองคำ Gold Spot ในปี 2568 ไว้ที่ระดับ 2,420-2,740 $/Oz  (-7% หรือ +5%) และเมื่อเทียบเป็นราคาทองคำไทยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 39,500 – 44,500 บาท

You Might Also Like

Pi ยกระดับการลงทุนในหุ้นไทยและ TFEX ผ่านแพลตฟอร์ม MT5 มอบโซลูชันการเทรดสุดล้ำให้กับนักลงทุน

AOT ราคาเท่าไหร่ถึงเรียกว่าถูก?

สงครามการค้า อเมริกาเมาหมัด คู่ชกซัดกลับ เศรษฐกิจ ฟื้น? หรือ ฟุบ?

“เอกา โกลบอล” ประเมินธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร รับมือนโยบาย ‘ทรัมป์’

TAGGED: Globlex, ตลาดหุ้นไทย, ราคาทองคำ, หุ้น, เศรษฐกิจ

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin January 9, 2025
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article เพลงชาติไทยมีลิขสิทธิ์จริงไหม? 
Next Article ป้าเก็บโทรศัพท์ได้ เรียกสินน้ำใจ 300 ไม่งั้นไม่คืน คอมเมนต์เชียร์แจ้งตำรวจ สรุปแล้วสินน้ำใจต้องให้หรือเปล่า?
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?