ไม่นานมานี้เว็บไซต์ Deadline ได้นำเสนอข่าวภาพยนตร์ Coke vs Pepsi ที่จะถูกสร้าง ซึ่ง Sony ก็ได้เสนอเงิน 7 หลักประมูลเพื่อให้ได้สิทธิ์ในการสร้างมา
มูลค่าดีลนี้อยู่ที่ 1-1.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งแม้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องราวยังมีเพียงน้อยนิด แต่ในฐานะสื่อสายธุรกิจที่เขียนเรื่องสองแบรนด์นี้มาอย่างต่อเนื่อง Conenect the Dots จะพาทุกคนไปสำรวจกันว่าเหตุการณ์ไหนบ้างที่อาจถูกเล่าในภาพยนตร์เรื่องนี้
ตามรายงานข่าว บอกไว้คร่าว ๆ ว่าตัวภาพยนตร์จะเล่าความพยายามของ Pepsi ที่จะเอาชนะ Coca-cola ซึ่งครองตลาดโคล่ามานับร้อยปี จนเกิดเป็นสงครามโคล่าที่ยากจะลืมเลือนในยุค 1980S
ซึ่งอาจมีตั้งแต่เรื่องอุบัติเหตุร้ายแรงของดาวดัง ไมเคิล แจ็กสัน (Michael Jackson) ที่เป็นหายนะของ Pepsi ในปี 1984 จนถึงการขุดหลุมฝังตัวเองของ Coca-Cola ด้วย New Coke
อุบัติเหตุของไมเคิลแจ๊กสัน
เกิดขึ้นขณะที่ MJ กำลังถ่ายทำโฆษณาของ Pepsi อยู่ และการติดตั้งระบบเฟกต์ไฟที่ไม่ระวัง ทำให้เกิดไฟลุกคลอกผมของเขา จนต้องถูกหามขึ้นรถฉุกเฉินส่งโรงพยาบาล โดยคนทั้งประเทศเห็นฟุตเทจของเหตุการณ์ และภาพลักษณ์ของ Pepsi ป่นปี้ทันที เพราะอุบัติเหตุครั้งนั้นยังส่งผลต่อสภาพร่างกายและจิตใจของ MJ ในระยะยาว ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตของเขาในหลายปีต่อมา
New Coke รสชาติใหม่ที่ไปไม่รอด
เป็นความพยายามเปลี่ยนสูตรใหม่ของ Coke ในปี 1985 ที่คาดหวังให้รสชาติออกมาคล้าย Pepsi และทำยอดขายดีถล่มทลาย แต่กลายเป็นว่า คำว่า “ดี” ยังไม่มา ก็ “ถล่มทลาย” ก่อนแล้ว เมื่อผู้บริโภคไม่ชอบจนถึงเข้าขั้นเกลียด ซึ่งนับเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ แต่บ้างก็ว่าจริง ๆ แล้วมันเป็นแผนการให้คนผูกพันธ์กับ Coke มากขึ้นเมื่อแบรนด์ปล่อยสินค้าแก้เกมอย่าง Coca-Cola Classic ออกมา
แต่นอกจากสองเรื่องที่ว่ามา ในประวัติศาสตร์การต่อสู้ของทั้งสองแบรนด์ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจซึ่งอาจถูกเล่าในภาพยนตร์ได้อีก
Pepsi ส่งสารท้ารบ
ในปี 1975 Pepsi ปล่อยแคมเปญโฆษณาตัวดังที่ทำให้เห็นว่าผู้คนชอบรสชาติของ Pepsi มากกว่า Coke ผ่านการทำ ฺBlind Taste Test เป็นการจู่โจม Coke แบบซึ่งหน้า เอาชนะยอดขายและบดขยี้ชื่อเสียงของ Coke ไปพร้อม ๆ กัน ทั้งยังมีส่วนทำให้เกิด New Coke ด้วย
ยุทธการณ์โคล่าใสทำลายตัวเองของ Coke
ในยุค 90s Pepsi เคยออกโคล่าสีใส Crystal Pepsi ในปี 1992 ซึ่งขายดีจนเคยทำยอดขายได้กว่า 1% ของตลาดน้ำอัดลมในสหรัฐอเมริกา Coke จึงได้ออกโคล่าใสของตัวเองอย่าง Tab Clear ออกมา ซึ่งมีรสชาติแย่ ทำให้คนเกิดภาพจำว่าโคล่าใสรสชาติห่วยเหมือนกันหมด จนทำให้ทั้ง Crystal Pepsi และ Tab Clear ยอดตกและต้องเลิกผลิตไป
Pepsi ยกธงขาว
ก่อนจะสุด Pepsi เคยหยุดมาก่อน แม้ช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ทั้งสองแบรนด์จะแข่งขันกันอย่างดุเดือดแค่ไหน แต่ในช่วงก่อนหน้านั้น Pepsi เคยยื่นข้อเสนอขายบริษัทให้กับ Coca-Cola ถึงสามครั้งด้วยปัญหาทางการเงิน ครั้งแรกในปี 1922 ครั้งต่อมาในปี 1931 และครั้งล่าสุดปี 1950 ซึ่ง Coke ปฏิเสธทุกครั้ง
Yum Brands
เมื่อการแข่งขันโคล่าไม่ได้อยู่แค่ในตลาดเครื่องดื่ม แต่ลามไปถึงความนิยมในธุรกิจอาหารที่ Coke เป็นต่ออยู่มาก ทำให้ในจุดหนึ่ง Pepsi ตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหารดังอย่าง KFC, Taco Bell และ Pizza Hut เพื่อเสิร์ฟเครื่องดื่มของตัวเอง สร้างความคุ้นเคยให้ผู้บริโภคมากขึ้น จนเกิดเป็น Yum Brands เครือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เหตุการณ์ที่ว่ามานี้คือเรื่องราวสำคัญในการต่อสู้ระหว่างสองโคล่าที่น่าสนใจ ซึ่ง Connect the Dots คิดว่าอาจถูกเล่าในภาพยนตร์ Coke vs Pepsi ได้ แต่อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงแค่การคาดเดาจากประวัติศาสตร์ของทั้งคู่เท่านั้น ทีมผู้สร้างอาจมีแนวทางเฉพาะตัวที่ต่างไปในการเล่าเรื่องราวเหล่านี้ ซึ่งเหตุการณ์ไหนที่เราจะได้รับชมบ้าง คงต้องติดตามกันต่อไป
ที่มา: https://en.wikipedia.org/wiki/Pepsi
https://deadline.com/2024/02/cola-wars-movie-coke-vs-pepsi-1235835546/
https://en.wikipedia.org/wiki/New_Coke
https://juiceboxinteractive.com/blog/how-pepsi-won-the-battle-but-lost-the-challenge/