นับตั้งแต่บริษัท Meta หรือ Facebook ประกาศลงทุนในเทคโนโลยี Metaverse นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาคำว่า Metaverse ได้กลายเป็น Buzz Word หรือคำเรียกติดปากทั้งในวงการคริปโตและการลงทุนไปในที่สุด ประกอบกับแบรนด์ดังๆและบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งได้กระโดดเข้ามาร่วมลงทุนในเทคโนโลยีนี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้คนทั่วไปที่ไม่เคยอยู่ในโลกคริปโตมาก่อนยังต้องให้ความสนใจ
การเป็นกระแสฮอตในโลกออนไลน์ทำให้เหรียญที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของ Metaverse ได้รับความนิยมในการเทรดของนักลงทุนไปด้วย แม้ช่วงที่ผ่านมาตลาดคริปโตอาจจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่แต่เหรียญในสายนี้ยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างดี
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่าบทความนี้ไม่มีเจตนาเป็นคำแนะนำการลงทุนเป็นเพียงการยกตัวอย่างเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตเท่านั้น
เหรียญที่ปรับตัวขึ้นดีในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือ Decentraland หรือเหรียญ MANA,The Sandbox หรือเหรียญ SAND รวมถึง Gala Games หรือ GALA ทั้งสามเหรียญนี้ถือเป็นดาวเด่นที่ได้รับการจับตาในฐานะโปรเจกต์ที่ใกล้เคียงกับ Metaverse มากที่สุด แม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกยังพัฒนาตามไม่ทัน
อย่างเช่น Decentraland ที่ได้พาร์ทเนอร์ระดับบริษัท Samsung เข้ามาร่วมเปิดพื้นที่ภายในเกมส์ ทำให้ราคาเหรียญพุ่งกว่า 20% ล่าสุดยังเป็นเจ้าภาพจัดงานแต่งงานในโลกเสมือนจริงที่มีผู้คนเข้าร่วมกว่า 2,000 คน
ขณะที่ The Sandbox มีแบรนด์ดังอย่าง Adidas,Atari,Snoop Dog และ ล่าสุดกับ Gucci เข้ามาซื้อที่ดินในเกมส์ แม้แต่ SCB 10X ของไทยยังเข้าไปเปิด Virtual Office อยู่ในนั้น เรียกได้ว่าหากมีข่าวพารท์เนอร์ใหม่ๆราคาเหรียญก็จะถูกเก็งกำไรขึ้นมาทันที
ทางด้าน Gala Games จากเดิมที่เปิดตัวเป็น Marketplaces ของ NFT Games ล่าสุดได้กระโดดเข้าสู่วงการบันเทิงอื่นอย่างเช่น Gala Music ซึ่งสามารถสร้างผลงานเพลงในรูปแบบ NFT ได้และยังมีแผนที่จะลงทุนในธุรกิจภาพยนต์แบบ NFT โดยสัปดาห์ก่อนหน้านี้ราคาเหรียญ GALA พุ่งแรงกว่า 50% ภายในวันเดียวจากการที่ Snoop Dogg ศิลปินชื่อดังประกาศเข้ามาร่วมงานกับ Gala Games
เห็นได้ว่าเหรียญที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Metaverse จะปรับตัวขึ้นแรงทุกครั้งที่มีข่าวจากแบรนด์ดังๆหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงกระโดดเข้ามามีส่วนร่วมใน Metaverse และน่าจะยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ตลอดทั้งปีคาดว่าจะได้เห็นกระแสข่าวแบบนี้มาอย่างต่อเนื่อง เหรียญที่เป็นตัวนำในตลาดน่าจะได้รับอานิสงเชิงบวกไปด้วยแม้ว่าตลาดคริปโตในภาพรวมจะยังไม่ใช่ขาขึ้นก็ตาม
แต่ต้องเข้าใจก่อนว่า Metaverse ยังถือว่าอยู่ในช่วง Early Adoption หรือเพิ่งจะเริ่มต้นเพียงเท่านั้น คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการพัฒนาเทคโนโลยีจนสมบูรณ์แบบและเกิด Mass Adoption หรือคนทั่วไปเข้ามาใช้งานอย่างจริงจัง
การเก็งกับกระแส Buzz Word อาจจะทำให้ราคาเหรียญในกลุ่มนี้ถูกเก็งกำไรขึ้นมามากจนเกินความเป็นจริงรวมถึงราคา Land และ NFT ที่อาจจะเฟ้อจนเสี่ยงเป็นฟองสบู่ด้วยเช่นกัน
หากมองระยะยาวถึงอย่างไร Metaverse จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอินเทอร์เนตในยุค 3.0 อย่างแน่นอน แต่ในระยะสั้นความคาดหวังว่าจะเป็นกระแสฮิตอาจจะเป็นความเสี่ยงของนักเก็งกำไรได้เช่นกัน