PepsiCo (PEP) บริษัทขนมและเครื่องดื่มเครือใหญ่ที่กุมแบรนด์มากมายไว้ในมือต้องถึงคราวสั่นสะเทือน เมื่อขนมขบเคี้ยวและน้ำอัดลมไม่ใช่ของโปรดผู้บริโภคเท่าที่เคย
รายงานว่าในไตรมาสที่สี่ของปี 2024 รายได้สุทธิลดลง 0.2% เนื่องจากความต้องการขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มในสหรัฐฯ ลดลง ปริมาณการขายของแบรนด์ Frito Lay ลดลง 3% และ Quaker Foods ลดลง 6% ขณะที่ปริมาณการขายเครื่องดื่ม PepsiCo ลดลง 3%
PepsiCo ตระหนักดีว่าสาเหตุที่ยอดขายลดลงมาจากผู้บริโภคที่มีความต้องการสุขภาพที่ดีมากขึ้น ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เริ่มมาตั้งแต่ยุคการแพร่ระบาดของโควิด19 ผู้บริโภคเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ยอดขายลดลง
การสำรวจจาก International Food Information Council พบว่า 79% ขอผู้บริโภคชาวอเมริกันพิจารณาเลือกซื้ออาหารจากการดูว่ามันถูกแปรรูปหรือไม่ 63% เลือกที่จะเลี่ยงอาหารแปรรูป
ส่วนผสมหลายอย่างของอาหารแปรรูปมีความเสี่ยงให้เกิดโรคร้ายแรงหากรับประทานในปริมาณมาก และสร้างความไม่สบายใจให้กับผู้บริโภค ทั้ง คาโนลา น้ำมันพืช น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด และสีผสมอาหาร ล้วนเป็นส่วนผสมที่พบได้ในผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของ PepsiCo
เพื่อรับมือและตอบสนองแนวโน้มนี้ PepsiCo วางแผนที่จะปรับปรุงธุรกิจโดยเติมส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น อย่างการทำผลิตภัณฑ์โซเดียมต่ำ ไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย ใช้โปรตีนพืชและธญพืชเต็มเมล็ด รวมทั้งออกผลิตภัณฑ์ขนาดเล็กเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างเหมาะสม
ล่าสุด PepsiCo ก็เพิ่งซื้อบริษัทสัญชาติเม็กซิกัน-อเมริกัน เซียเตฟู้ดส์ (Siete Foods) ที่มีผลิตภัณฑ์มากมายซึ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ ทั้งแบบไม่ผสมธัญพืช ไม่ตัดแต่งพันธุกรรม ปลอดกลูเตน ปลอดนมวัว ปลอดถั่วเหลือง รวมทั้งพาลิโอลิธิกและวีแกน ด้วยส่วนผสมแบบออร์แกนิค นับว่าเป็นก้าวสำคัญในการปรับพอร์ตธุรกิจให้ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยรายได้ที่หดหายในไตรมาสก่อนหน้าจากเทรนด์การบริโภคที่เปลี่ยนไป รายได้ในปี 2025 ของ PepsiCo อาจเติบโตได้แค่เลขหลักเดียว