“แม็คกรุ๊ป” เดินหน้าทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง 2567 ท็อปฟอร์มอีกครั้ง โชว์กำไร 713ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8 % โกยรายได้ 4,054 ล้านบาทนิวไฮ ในรอบ 7 ปี บอร์ดอนุมัติปันผลงวดครึ่งปีหลังอีกหุ้นละ 0.40 บาท หนุนทั้งปีปันผล หุ้นละ 0.90 บาท
2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้า รวม 4,054 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 384 ล้านบาท หรือ 10.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 3,670 ล้านบาท ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่รายได้จากการขายของบริษัทฯ ที่มาจากสินค้าประเภทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุ 4 พันล้านบาท
นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC องค์กรธุรกิจค้าปลีก ประเภทสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ “แม็คยีนส์” เปิดเผยว่า ผลการดําเนินงานของบริษัทฯ สำหรับปีบัญชี 2567 (1 กรกฎาคม 2566 – 30 มิถุนายน 2567) มีกำไรสุทธิ 713 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70 ล้านบาทหรือ 10.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 644 ล้าน โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 17.3% รวมทั้งยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ในระดับสูงที่ระดับ 64.2%
“สิ้นปี 2567 รายได้ของ บริษัทฯ ทะลุ 4,054 ล้านบาท เป็นผลจากการขยายช่องทางการขายออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะร้านค้าปลีก ส่งผลให้บริษัทฯ มีช่องทางในการจัดจำหน่ายทุกช่องทางรวมทั้งสิ้น 573 สาขาเพิ่มขึ้น 27 สาขาจากปีก่อนหน้า การขยายกลุ่มสินค้าในหมวดหมู่ Non-Denim ที่เติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งสินค้าท่อนบน ท่อนล่าง และแอกเซสซอรี ส่งผลให้สัดส่วน Non-Denim เพิ่มสูงขึ้นแตะ 70% ของยอดขายรวม และการขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีอายุน้อยลง มาจากกลยุทธ์ทางการตลาด การปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ ที่ส่งผลให้สัดส่วนกลุ่มลูกค้าที่มีอายุน้อยเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันฐานลูกค้าสมาชิกเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.7 ล้านราย รวมไปถึงการพัฒนารูปแบบการขายออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในแง่รายได้และกำไรที่เพิ่มสูงขึ้น” นายเจมส์ กล่าว
นายเจมส์ ริชาร์ด กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่เติบโตและมีกำไรสุทธิต่อเนื่อง ส่งผลให้ คณะกรรมการ (บอร์ด) มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับผลดำเนินงาน งวดครึ่งหลัง อีกหุ้นละ 0.40 บาท ทำให้ทั้งปีบริษัทฯ จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 0.90 บาท โดยในงวดครึ่งแรกของปีจ่ายปันผลไปแล้วหุ้นละ 0.50 บาท หรือจ่ายปันผลในอัตราเกือบ 100% ของกำไรสุทธิจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 31 ตุลาคม 2567
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2567 กลุ่มบริษัทฯ มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราวรวม 1,734 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7 ล้านบาท จากวันที่ 30 มิ.ย. 2566 จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น
นายเจมส์ ริชาร์ด กล่าวถึงแนวโน้มผลดำเนินงาน 2568 ว่าจะยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา บริษัทฯ จะดำเนินกลยุทธ์ตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้สามารถเติบโตได้ในเลขสองหลัก อีกทั้งการที่ประเทศไทยมีรัฐบาลใหม่มี นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 เรียบร้อยแล้วคาดว่ารัฐบาลน่าจะมีมาตรการต่าง ๆ ออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป