เอกา โกลบอล (Eka Global) บรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารสัญชาติไทย (Longevity Packaging) รายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย และเป็นบริษัทคนไทยที่สามารถสร้างแบรนด์จนติด Top 5 ของโลก โดยมีฐานลูกค้าทั่วโลก ที่ อเมริกา ยุโรป และทั่วภูมิภาคเอเชีย ฯลฯ
ภารกิจสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมในตลาดอินเดีย กำลังเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ ภายใต้การนำของ ชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด ผู้นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) ประกาศพร้อมบุกตลาดอินเดียอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยผลงานทุบสถิติผลิต 500,000 ชิ้นต่อวัน เพื่อชิงกำลังซื้อวอลุ่มระดับพันล้านบาท ตั้งเป้าเติบโตเฉลี่ย 30% ต่อปี พร้อมปักธงนำทัพธุรกิจทะยานสู่ตลาดหุ้นอินเดีย ใน 5 ปี
ที่ผ่านมา “เอกา โกลบอล” ขยายการลงทุนและสร้างการเติบโตในตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การเข้าซื้อกิจการ พริ้นท์แพค เอเชีย ในปี 2562 ทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 2,500 ล้านชิ้นต่อปี พร้อมกันนี้ได้ลงทุนและเพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานไทยอีก 350 ล้านชิ้นต่อปี รวมเป็นกำลังการผลิตที่ทำได้ประมาณ 2,850 ล้านชิ้นต่อปี
ส่วนแผนการผลิตและลงทุนนั้น ชัยวัฒน์ มองหาโอกาสอย่างต่อเนื่องในการเข้าไปลงทุนและสร้างโอกาสทางธุรกิจ โดยจัดตั้งโรงงานแห่งใหม่ที่เมืองปูเน่ (PUNE) ประเทศอินเดียอีก 1 แห่งเมื่อปี 2565 ซึ่งล่าสุดเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตกว่า 100% ต่อปี
ส่องแนวโน้มการบริโภคใหม่ตลาดอินเดีย
“เอกา โกลบอล” เข้ามาทำตลาดอินเดีย ตั้งแต่ปี 2562 ถึงวันนี้เริ่มเข้าสู่ปีที่ 5 ปี โดยช่วงแรกมีเพียงสำนักงาน สินค้าทั้งหมดนำเข้าจากโรงงานในไทย
ชัยวัฒน์ กล่าวถึงการตัดสินใจเลือกเมืองปูเน่ (PUNE) อินเดีย เนื่องจากเป็นตลาดดาวรุ่งของโลกที่มีแนวโน้มการขยายตัวที่ดีมากกว่าประเทศอื่นทั่วโลก เพราะเป็นมีเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และมีการบริโภคภายในประเทศในอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ตามจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน ปูเน่ (PUNE) เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 7 – 8 ของประเทศอินเดีย และขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอินเดียทางฝั่งตะวันตก รองจากเมืองมุมไบ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่เศรษฐกิจของประเทศที่ประชากรมีกำลังซื้อสูง และรสนิยมการบริโภคที่ทันสมัย พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ และเป็นเมืองที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากมุมไบขับรถเพียง 4.30 ชั่วโมงเท่านั้น
สิ่งแวดล้อมของเมืองมีความทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก สถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านอาหาร นับเป็นเมืองแห่งนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีบริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ปูเน่ยังเป็นเมืองศูนย์กลางด้านการศึกษาที่มีสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง และถูกเรียกขานว่าเป็น ออกซฟอร์ดแห่งอินเดีย ทางด้านวัฒนธรรม ปูเน่ยังคงเอกลักษณ์เก่าแก่และทรงคุณค่า และรักษาวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมไว้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ เศรษฐกิจที่ขยายตัวของเมืองปูเน่ ยังมาจากกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง เน้นการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าระดับพรีเมี่ยม โดยเลือกใช้บริการในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร รวมถึงการเข้าห้องพักโรงแรมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เทรนด์การบริโภคในกลุ่มสินค้าอาหารพร้อมทาน (Ready to Eat) เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อสินค้าคุณภาพดี ผ่านช่องทางจากห้างค้าปลีกสมัยใหม่ และอีคอมเมิร์ซ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลดีต่อธุรกิจของเอกา โกลบอล ที่ผลิตบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) โดยตรง
หลังจากทำตลาดในอินเดียไปได้สักระยะ ชัยวัฒน์ ก็เริ่มเห็นโอกาส จากยอดขายที่เติบโตทุกปี ขั้นต่ำปีละ 50% จึงตัดสินใจลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิต คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 400-500 ล้านบาท รวมค่าก่อสร้าง โดยนอกจากศักยภาพของตลาดและกำลังซื้อแล้ว ทางรัฐบาลได้ให้การสนันสนุนนักลงทุนจากต่างประเทศเป็นอย่างดี ทุกยอดเงินลงทุนสามารถนำไปหักภาษีเป็นระยะเวลา 10 ปี
“ตลาดอินเดีย มีกำลังการซื้อในประเทศที่แข็งแรงมาก ปีที่แล้วและปีนี้ ทำยอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ประมาณ 70-100%”
เจาะลึกกลยุทธ์ ‘เอกา โกลบอล’
ปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร(Longevity Packaging) ของ “เอกา โกลบอล” ลงทุนไปกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยมีงบลงทุนปีละ 2-3% ของยอดขาย เพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานระดับโลกในด้านความสะอาดและปลอดภัยในระดับสากล อาทิ ISO 9001 : 2015, FSSC 22000, GMP/HACCP ที่ได้รับการยอมรับและนำไปใช้บรรจุอาหารได้หลากหลาย ดังนี้ 1. FRUITS บรรจุภัณฑ์สำหรับผลไม้แปรรูป 2. BABY FOODS บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารเด็ก 3. RICE บรรจุภัณฑ์สำหรับข้าวหุงสำเร็จ 4. SEAFOOD/TUNA บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารปลาและอาหารทะเล 5. DAIRY PRODUCTS (YOGURTS) บรรจุภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์จากนม และ 6. PET-FOODS บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารสัตว์
โดยจุดเด่นสำคัญ คือ น้ำหนักเบา รักษาคุณภาพอาหาร คุณค่า รสชาติ สะอาดปลอดภัย และสามารถเก็บรักษาและยืดอายุอาหารโดยไม่ต้องแช่ตู้เย็นได้ยาวนานถึง 2 ปี ทำให้การขนส่ง ทั้งบรรจุภัณฑ์ที่ส่งไปยังผู้ผลิตอาหาร และ ผู้ผลิตที่ส่งไปยังผู้ซื้อทำได้อย่างสะดวก สะอาดปลอดภัย และมีมาตรฐานสูง สร้างการยอมรับเป็นอย่างมากในตลาดอินเดีย
พร้อมกันนี้ “เอกา โกลบอล” ยังพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ Bioplastic (PLA) บรรจุภัณฑ์ Biodegradable ที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมดและสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล (PCR) หรือ เรซิน รีไซเคิล เพื่อตอบโจทย์การบริโภคและการทำธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน
“นวัตกรรมการผลิต และคุณภาพของบรรจุภัณฑ์ของเราสามารถนำอุ่นในไมโครเวฟ ทำให้สะดวก และง่ายต่อการรับประทานจึงตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้ดีกว่าเทียบกับอาหารที่บรรจุในกระป๋อง”
จากโอกาสทางธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินเดีย คาดการณ์ GDP ในปี 2567 – 2568 เติบโตมากกว่าปีละ 7% ทำให้ ชัยวัฒน์ มั่นใจว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัทฯ
‘อินเดีย มาร์เก็ต’ เพิ่มโอกาสธุรกิจโตเร็วในตลาดโลก
“เอกา โกลบอล” เป็นผู้นำในตลาดอินเดีย จากจุดเด่นของเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ที่ รวมทั้งการทำ R&D ให้ลูกค้าองค์กรธุรกิจ ในกลุ่มผู้ผลิตอาหารและขนมหวานในประเทศอินเดีย จากปัจจุบัน 280 บริษัท คิดเป็นคำสั่งซื้อมากกว่า 1 หมื่นชิ้นต่อเดือน และตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าเพิ่มเป็น 800 บริษัท โดยมีเป้าหมายยอดขาย 1,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี
สำหรับภาพรวมยอดขายในตลาดอินเดีย ปี 2567 อยู่ที่ 450 ล้านรูปี ประมาณ 200 ล้านบาท ส่วนปี 2568 ตั้งเป้ายอดขาย 800 ล้านรูปี หรือ ประมาณ 400 ล้านบาท โดยแผนภายใน 5 ปี ตั้งเป้ายอดขายไว้ 2,400 ล้านรูปี ประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปในระดับเทียบเท่ากับตลาดในประเทศไทย
ขณะที่ภาพรวมการแข่งขันในตลาดอินเดียถือว่าไม่สูงมากนัก และมีการก็อปปี้สินค้าน้อย โดยเฉพาะเซ็กเมนต์บรรจุภัณฑ์พรีเมียมช่วยยืดอายุอาหารที่บริษัทฯ ทำอยู่ เรียกว่าเป็นทั้งผู้บุกเบิก และผู้นำตลาดอินเดีย
เป้า 5 ปี นำทัพเข้าตลาดหลักทรัพย์อินเดีย
ภายใต้การนำทัพของ ชัยวัฒน์ ยังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยสนับสนุน ผู้บริโภคมองหาสินค้าใหม่ที่ปลอดภัย ทันสมัย และสนับสนุนการใช้ชีวิตประจำวันที่ง่ายขึ้น ส่วนผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ต่าง ๆ มีความต้องการบรรจุภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมและดีไซน์ เพื่อสร้างแวลู (Value) ให้กับสินค้า
โดยวางแผนการเติบโตต่อจากนี้ไว้ที่ 5 ปี ในการสร้างความแข็งแกร่งทั้งด้านการผลิต นวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมถึงยอดขายที่เติบโตขึ้นทุกปี เพื่อนำ “เอกา โกลบอล” เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศอินเดีย ด้วยกำลังการผลิตประมาณ 500,000 ชิ้นต่อวัน และ ยอดขายเป็นหลักพันล้านบาทต่อปี