ปี 2568 ถือเป็นปีที่หลายอุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมอาหารให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น โดยมุ่งเน้นการลดขยะ ลดการใช้พลาสติก และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือย่อยสลายได้ เช่น ไบโอพลาสติก (Biodegradable Plastic) แม้ว่าจะมีราคาสูง แต่ผู้บริโภคยินดีจ่ายเพื่อความยั่งยืน
นอกจากนี้ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งในกระบวนการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบ การเลือกวัตถุดิบ และการควบคุมคุณภาพ ส่งผลให้บรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) ต้องคำนึงถึงความยั่งยืน ความสะดวก และนวัตกรรมใหม่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั่วโลก
จึงเป็นโจทย์สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) ที่จะต้องใส่ใจในด้านของความยั่งยืน ความสะดวก และนวัตกรรมใหม่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและทำให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลก
นายชัยวัฒน์บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด (EKA GLOBAL) ผู้นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) แบรนด์คนไทยเบอร์ใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก เปิดเผยว่า ปี 2568 เป็นปีแห่งการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี AI อย่างเต็มรูปแบบของ เอกา โกลบอล เพื่อยกระดับองค์กร ‘ทรานส์ฟอร์ม’ ธุรกิจเข้าสู่ยุคดิจิทัล โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในทุกมิติ ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และการผลิต ฯลฯ ซึ่งน่าจะเห็นการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เป็นรูปธรรมภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ไม่หยุดนิ่งในการวิจัยและพัฒนา (R&D) บรรจุภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ทั้งเรื่องของความปลอดภัย สุขภาพ รสชาติ หรือ แม้แต่ความยั่งยืน ฯลฯ
“บริษัทฯ ศึกษาการนำ AI มาใช้ในธุรกิจเป็นเวลากว่า 7 – 8 เดือนแล้ว เพราะมองเห็นความสำคัญของการทรานส์ฟอร์มสู่ยุค AI เราจำเป็นต้องเตรียมความพร้อม และก้าวนำอุตสาหกรรม เพื่อรับมือกับสงครามการค้าและเทคโนโลยีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ที่เก่งด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ มีโอกาสเข้ามากดดันผู้ประกอบการไทยอย่างแน่นอน”
ส่วนเป้าหมายยอดขายในปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1,400 ล้านบาท เป็นการเติบโตจากทั้งตลาดในไทย และต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอินเดียที่คาดว่าจะมียอดขายเติบโตกว่า 30 – 40% จากการรับรู้รายได้เต็มปีจากโรงงานผลิตแห่งใหม่ที่เมืองปูเน่ ขณะที่คำสั่งซื้อล่วงหน้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเกือบเต็มกำลังการผลิตรวมโรงงานไทยและอินเดียแล้ว กว่า 2,850 ล้านชิ้นต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการวิจัยและศึกษา (R&D) ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม ร่วมกับบริษัทลูกค้า ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการและเริ่มผลิตได้ภายในปีนี้