เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จัก “น้องหมีเนย” คาแรกเตอร์หมีสุดน่ารักจากแบรนด์ Butterbear ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบขอบชาวไทยและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วย โดยแฟนคลับของน้องหมีเนย จะเรียกกันว่า “มัมหมี” คอยตามไปดูน้องออกมาโชว์เต้นและพบปะผู้คนทุกสุดสัปดาห์ที่ร้าน Butterbear ห้าง Emsphere
[โดนก๊อป]
แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้มีการแชร์คลิปมาสคอตหมีจากจีนที่มีหน้าตาและการแต่งตัวคล้ายกับหมีเนย พร้อมทั้งสินค้าลอกเลียนแบบมากมาย และไม่ได้มีแค่ตัวเดียว แต่มีหลายตัวแบบสารพัดหมี ออกมาเต้น ๆ และเล่นกับผู้คน ทำเอามัมหมีไทยเดือด คอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์สนั่น
หลายคนเห็นตรงกันว่าหมีเนยก๊อปจากจีน “น่ารักไม่เท่า” เพราะบางตัวก็ผอมมาก ไม่จ้ำม่ำเหมือนหมีเนย แต่ดันติดผอมตามค่านิยมคนจีนเสียอย่างนั้น และแม้บางตัวจะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายมาก แต่อากัปกริยาของหมีเนยก๊อปนั้น ไม่น่ารักเอาเสียเลย ทั้งมีท่าทวงกวน ๆ แถมยังหยอกเล่นกับคนแบบไม่สุภาพ มีคลิปที่เดินไปแตะก้นผู้คนที่ยืนอยู่ รวมทั้งคลิปที่รับของมาแล้วขว้างลงพื้นอีก ซึ่งไม่เหมือนกับน้องหมีเนย Butterbear ที่นอบน้อมและอ่อนโยน
[ฟ้องไม่ได้?]
มีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียจำนวนไม่น้อยที่แสดงความคิดเห็นเรียกร้องให้ทางแบรนด์ Butterbear ฟ้อง เพื่อรักษาประโยชน์และภาพลักษณ์ของแบรนด์ แต่ในความเป็นจริง มันอาจไม่ได้เรียบง่ายอย่างนั้น
ถ้าเป็นแบรนด์อื่นในไทยมาก๊อปหมีเนย เชื่อว่าน่าจะโดนฟ้องไปเรียบร้อยแล้ว แต่นี่เป็นร้านที่ต่างประเทศ ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายคนละชุด ซึ่งครอบคลุมและคุ้มครองไม่เหมือนกัน จึงฟ้องที่ไทยไปจีนไม่ได้ แต่ครั้นจะไปฟ้องที่จีนก็ไม่ใช่ว่าทำได้เลยอีก เพราะ Butterbear ไม่ได้มีตัวแทนหรือประกอบธุรกิจที่ประเทศจีน ไม่ได้จดเครื่องหมายการค้าที่จีนด้วย จึงเท่ากับว่าไม่มีเจ้าของลิขสิทธิ์อยู่ในประเทศนั้น เพื่อฟ้องร้องตามกฎหมายของจีน
ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้เลย ทั้งไทยและจีนเป็นสมาชิกในข้อตกลงทริปต์ (TRIPS Agreement) เกี่ยวกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ทางแบรนด์จึงสามรถอ้างอิงข้อตกลงนี้เพื่ออ้างสิทธิ์ได้ ทั้งยังสามารถไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่จีน เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปดำเนินธุรกิจที่จีน จากนั้นก็สามารถรวบรวมหลักฐานและดำเนินการทางกฎหมายที่จีนได้
แม้จะมีทางให้ไปต่อ แต่ระยะเวลาก็อาจเป็นอุปสรรคสำคัญ เพราะกว่าสำนักงานเครื่องหมายการค้าจีนจะตรวจสอบเสร็จ ก็อาจใช้เวลานานถึง 12-18 เดือน อีกทั้งยังอาจมีค่าใช้จ่ายสูงในการดำเนินการตลอดขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งจะคุ้มกันไหม ก็เป็นเรื่องที่ทางแบรนด์ต้องพิจารณาดู
[ทำอย่างไรต่อ?]
หากพิจารณาแล้วว่าการดำเนินการฟ้องร้องในตอนนี้อาจไม่ใช่แนวทางที่เหมาะสมและคุ้มค่า สิ่งที่ Butterbear พอจะทำได้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของแบรนด์ คือ
ส่งหนังสือเตือนการละเมิดลิขสิทธิ์ และกำหนดระยะเวลาในการหยุดใช้มาสคอตหน้าตาคล้ายหมีเนย เพื่อไม่ให้ผุ้บริโภคเข้าใจผิด
จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในจีน อย่างน้อยก็เพื่อรักษาผลประดยชน์ของแบรนด์ในอนาคต
ประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคเข้าใจ ว่า ไอ้หมีเนยที่จีนนั่นมัน “ของปลอม” ถึงไม่โดนฟ้องก็ต้องมีอายบ้างแหละ
หาพาร์ตเนอร์และขยายธุรกิจสู่จีน ข้อนี้อาจเป็นแนวทางในอนาคต (ซึ่งเชื่อว่าทางแบรนด์ก็คงมีแผนแหละ) เพื่อให้สามารถเคลมสิทธิ์ของแบรนด์ที่จีนได้ตามกฎหมาย และยังเป็นโอกาสในการเติบโตมากขึ้น อาจเริ่มด้วยการหาพาร์ตเนอร์ในจีนเพื่อช่วยทำการตลาดและจัดจำหน่ายสินค้า แล้วค่อยเข้าไปเปิดร้านหลังจากนั้น ถ้าถึงตอนนั้นยังก๊อปอยู่ บอกเลยว่าหมายศาลไปเยือนแน่นอน