CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: ‘ไทยยูเนี่ยน’ ทำกำไรสุทธิไตรมาส 3 ทะลุ 1.4 พันล้านบาท
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Business > ‘ไทยยูเนี่ยน’ ทำกำไรสุทธิไตรมาส 3 ทะลุ 1.4 พันล้านบาท
Business

‘ไทยยูเนี่ยน’ ทำกำไรสุทธิไตรมาส 3 ทะลุ 1.4 พันล้านบาท

CTD admin
Last updated: 2024/11/06 at 7:56 AM
CTD admin Published November 6, 2024
Share

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ประจำปี 2567 ด้วยอัตรากำไรสุทธิที่ 1,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วในไตรมาส 3 ปี 2566 ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นแตะระดับสูงสุดที่ 19.5% จากความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรต่อหุ้นปรับตัวแข็งแกร่งถึง 8.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน คิดเป็น 0.30 บาทต่อหุ้น สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ดีขึ้นใน 3 ธุรกิจหลัก คือ กลุ่มธุรกิจอาหารกระป๋อง  กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และกลุ่มธุรกิจสินค้าเพิ่มมูลค่าและอื่น ๆ

เมื่อพิจารณาอัตราการเติบโตในไตรมาส 3 ปีนี้เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่า ไทยยูเนี่ยนสามารถทำผลงานได้อย่างดี โดยมียอดขายอยู่ที่ 34,840 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7% โดยเป็นผลจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจ ขณะที่ปริมาณการขายยังขยายตัวแข็งแกร่งถึง 10.4% จากความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และกลุ่มธุรกิจสินค้าเพิ่มมูลค่าและอื่น ๆ นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวสูงสุดที่ 19.5% โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงเหนือระดับ 30% ต่อเนื่อง 2 ไตรมาส ซึ่งเป็นผลมาจากการมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง ขณะเดียวกัน อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปและอาหารทะเลแช่แข็งก็ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าเช่นกัน

นอกจากนี้ ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ไทยยูเนี่ยนจะแถลงข่าวเปิดตัวกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ปี 2573 มุ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก สร้างคลื่นลูกใหม่ของการเติบโต พร้อมเปิดน่านน้ำใหม่สู่ความสำเร็จในอนาคต ผ่านสองโปรเจกต์ ได้แก่ โปรเจกต์ Sonar ที่มุ่งวางรากฐานให้แข็งแกร่ง และโปรเจกต์ Tailwind ที่มุ่งเร่งการเติบโตในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง โดยทั้งสองโปรเจกต์จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคตให้กับบริษัท

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสสามปี 2567 บริษัทฯ ยังคงมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง จากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ในเกณฑ์ที่ดีที่ 0.79 เท่า โดยปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสสองที่ 0.82 เท่า ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA อยู่ที่ระดับ 3.59 เท่า ซึ่งสะท้อนถึงความพร้อมและความสามารถในการปรับตัวของไทยยูเนี่ยนในการแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคงอันดับความน่าเชื่อถือจากทริส เรทติ้ง ที่ระดับ “A+” อีกด้วย

“การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ นำไปสู่ผลการดำเนินงานที่ดีในไตรมาสที่ผ่านมา และเรายังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ปี 2573 หรือ Strategy 2030 ซึ่งเป็นเป้าหมายระยะยาวของเรา ที่จะช่วยให้เรามั่นใจว่าจะเดินหน้าสร้างมูลค่าและก้าวสู่การเป็นผู้นำของโลกในอุุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการเพื่อสุุขภาพจากท้องทะเล” นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าว

จากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของความต้องการซื้อในไตรมาส 3 ส่งผลให้ยอดขายกลุ่มสินค้าอาหารทะเลแปรรูป อยู่ที่ 17,920 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ประกอบกับปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นควบคู่กับสถานการณ์ต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป เพิ่มขึ้นเป็น 20.1% ขณะที่ยอดขายกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง อยู่ที่ 4,352 ล้านบาท หรือเติบโต 15.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนเป็นผลจากกลยุทธ์เพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าพรีเมียม รวมถึงปริมาณความต้องการสินค้าอย่างต่อเนื่องในตลาดหลัก เช่น ยุโรป สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงขยายตัวดีถึง 30.6% ส่วนกลุ่มสินค้าเพิ่มมูลค่าและอื่น ๆ  ทำยอดขายได้ 2,732 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเติบโตจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ สินค้าเพิ่มมูลค่า และผลิตภัณฑ์พลอยได้

ในทางกลับกันแม้ว่าธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งจะปรับตัวลดลง 15.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากกำลังซื้อที่ชะลอตัวในสหรัฐอเมริกา แต่อัตรากำไรขั้นต้นยังคงอยู่ที่ 12% อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอาหารสัตว์น้ำและสัตว์บกของไทยยูเนี่ยน ที่อยู่ภายใต้ธุรกิจอาหารแช่แข็งได้มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยในไตรมาสที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดขายได้ 1,390 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตถึง 6.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของอาหารกุ้งในประเทศอินโดนีเซีย ส่งผลให้ธุรกิจอาหารสัตว์มีอัตรากำไรขั้นต้นถึง 19.2% สะท้อนถึงความสำเร็จของกลยุทธ์การเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีความสามารถในการทำกำไรให้มากขึ้น

ทั้งนี้ สัดส่วนยอดขายของไทยยูเนี่ยนตามภูมิภาคในไตรมาส 3 ปี 2567 มาจากสหรัฐอเมริกาและแคนาดา คิดเป็น 38.3% ของรายได้รวมทั้งหมด รองลงมาเป็น ยุโรป 29.3% ประเทศไทย 11.5% และอื่น ๆ อีก 20.9%

นอกจากผลประกอบการที่ดีแล้ว ไทยยูเนี่ยนยังมีนวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตในอนาคต ล่าสุดเราได้เปิดศูนย์นวัตกรรม Innovation Hub อย่างเป็นทางการ ณ เมืองวาเกนิงเงน ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อขยายเครือข่ายนวัตกรรมระดับโลกของบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์นวัตกรรมแห่งใหม่นี้ มีนักวิทยาศาสตร์กว่า 20 คน มุ่งเน้นไปที่การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์สำหรับแบรนด์อาหารทะเลแปรรูปของกลุ่มบริษัท

“เราไม่ได้มุ่งเพียงแค่การเติบโต แต่การเดินหน้ากลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ปี 2573 ภายใต้คอนเซปต์ Turning the Tides ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 คือการสร้างรากฐานเพื่อธุรกิจในระยะยาวเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร และโภชนาการเพื่อสุขภาพจากท้องทะเล เราเชื่อมั่นว่าความตั้งใจและความมุ่งมั่นในครั้งนี้จะสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืน ผ่านการขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่ม นับเป็นกุญแจสำคัญในการกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมและยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของเราไปทั่วโลก” นายธีรพงศ์ กล่าว

You Might Also Like

เอพี ไทยแลนด์ โชว์ผลประกอบการ Q1/68 ยอดขายพุ่งทะลุ 12,110 ล้าน ย้ำศักยภาพทางการเงินแข็งแกร่ง

SET – Nasdaq ลงนาม MOU เสริมศักยภาพตลาดทุนไทยด้วยเทคโนโลยี

การบินไทยเผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 สะท้อนการเติบโตต่อเนื่อง เตรียมออกจากแผนฟื้นฟู พร้อมกลับเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์

ก.ล.ต. นับ 1 ไฟลิ่ง MASTEC พร้อมขาย IPO 79 ล้านหุ้น เข้าตลาด SET

TAGGED: thai union, ไทยยูเนี่ยน

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin November 6, 2024
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article อมตะ ยู ผนึกกำลัง อีสท์ วอเตอร์ ศึกษาแผนจัดการน้ำ พื้นที่ อีอีซี พัฒนาเป็นเขตอุตสาหกรรมหลักของประเทศ
Next Article จิตวิทยาการสื่อสาร สื่อตัวตนให้น่าสนใจ เพื่อสร้าง Personal Branding
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?