CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: เปิด 4 ปัจจัยหนุนราคาทยานต่อทั้ง ดอกเบี้ยขาลง-เทคนิคแกร่ง-แรงซื้อจากจีน-ธนาคารกลางสะสมต่อเนื่อง
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Investment (Closed) > ข่าวลงทุนรอบโลก > เปิด 4 ปัจจัยหนุนราคาทยานต่อทั้ง ดอกเบี้ยขาลง-เทคนิคแกร่ง-แรงซื้อจากจีน-ธนาคารกลางสะสมต่อเนื่อง
Businessข่าวลงทุนรอบโลก

เปิด 4 ปัจจัยหนุนราคาทยานต่อทั้ง ดอกเบี้ยขาลง-เทคนิคแกร่ง-แรงซื้อจากจีน-ธนาคารกลางสะสมต่อเนื่อง

CTD admin
Last updated: 2024/10/02 at 10:11 AM
CTD admin Published April 3, 2024
Share

ราคาทองคำยังคงแข็งแกร่งแม้ล่าสุดพุ่งทำสถิติใหม่ตลอดการณ์ครั้งใหม่และเกือบทะลุเป้าหมายเดิมที่ให้ไว้ที่ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เป้าหมายใหม่ปี 2567 ที่ 2,350 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ โดยมีปัจจัยบวก 4 ปัจจัย คือ 1. วงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟดสิ้นสุดลงแล้วและเตรียมปรับลดลง  2. สัญญาณทางเทคนิคแข็งแกร่งทะลุทุกแนวต้าน  3. ความต้องการทองคำจากจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกองทุน ETFs จีนซื้อสะสม 3 เดือนต่อเนื่อง  4. แรงซื้อจากธนาคารกลางทั่วโลกยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 

ราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงทำจุดสูงสุดตลอดกาลอีกครั้งที่ระดับ 2,288 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ในช่วงเช้า ณ วันที่ 3 เม.ย. 2567  ส่งผลให้นับจากต้นปีที่เปิดตลาดระดับ 2,062 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จนถึงระดับ All Time High ราคาทองคำปรับขึ้นมาแล้วถึง 226 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือ +10.93% ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% เปิดตลาดเมื่อต้นปีที่ 33,550 บาทต่อบาททองคำ และได้ปรับตัวขึ้นมาถึงบริเวณ 39,600 บาทต่อบาททองคำ ส่วนทองคำรูปพรรณล่าสุดราคาได้ทะลุ 40,000 บาท ความร้อนแรงของราคาทองคำในครั้งนี้ แม้ในระยะสั้นอาจเริ่มเห็นแรงขายทำกำไร แต่เมื่อราคาย่อตัวจะเป็นโอกาสเข้าซื้อใหม่ ในระยะยาวนั้นค่อนข้างมีความแข็งแกร่ง ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักๆมาจาก 4 ปัจจัยดังนี้

1. การคาดการณ์ที่ว่าวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สิ้นสุดลงแล้ว และเตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้  พร้อมคาดการณ์ตลาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งเป็นส่งผลกดดันดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐให้ร่วงลง  จนเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำให้ทะยานขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. เป็นต้นมา  และจากการประชุมเฟดรอบล่าสุดในเดือนมี.ค.  Dot Plot ระบุว่าเจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ 3 ครั้งในปีนี้เช่นกัน

2. โมเมนตัมทางเทคนิค  หลังจากราคาทะลุเป้าหมายของปีนี้

ราคาทะลุแนวสำคัญทางเทคนิคหลายประการ  ทั้งนี้  ในวันที่ 1 มี.ค. 2567 ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์  ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเป็นทิศทางขาขึ้น สามารถเบรกเส้นค่าเฉลี่ย และยังเคลื่อนไหวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้ทุกระยะ  พร้อมทั้งทะลุจุดสูงสุดเดิมของราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง เมื่อย่อตัวลงก็มีการยกระดับต่ำสุดขึ้นมาได้ ซึ่งทำให้ภาพรวมราคาทองคำเปลี่ยนจากแกว่งตัว (Sideway) เป็นปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง (Bullish)

3. ความต้องการทองคำที่แข็งแกร่งจากจีน

ราคาทองคำในจีนซื้อขายในระดับราคาที่สูงกว่าราคาทองคำในตลาดโลก (Premium) เป็นหนึ่งในตัวเลขที่สะท้อนปริมาณความต้องการทองคำในจีนได้เป็นอย่างดีในเวลาที่ปริมาณความต้องการทองคำในจีนที่เพิ่มสูงขึ้น แรงซื้อทองคำจากชาวจีนจะเป็นปัจจัยผลักดันราคาทองคำในประเทศจีนให้ปรับตัวสูงขึ้นตาม  นอกจากนี้  ยังเกิดมีการไหลเข้าของเงินทุนสู่กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำของจีน (ETFs) เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน  โดยมีกระแสเงินทุนไหลเข้า 778 ล้านหยวน (109 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และผลักดันสินทรัพย์ภายใต้การจัดการกองทุน (AUM) พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 3.1 หมื่นล้านหยวน (4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) 

4. แรงซื้อทองคำจากธนาคารกลางทั่วโลกที่ยังคงดำเนินต่อไปในปี 2567

ธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าถือครองทองคำเพิ่มอีก 39 ตันในเดือนม.ค. นำโดยตุรกีและจีนเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ โดยเพิ่มการถือครองทองคำ 12 ตัน และ 10 ตัน ตามลำดับ ส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อสุทธิทองคำเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน  ดังนั้นแล้ว แรงซื้อจากธนาคารกลางจึงจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ขณะที่ World Gold Council คาดว่าปี 2024 จะเป็นปีที่แข็งแกร่งอีกปีหนึ่งของความต้องการทองคำจากธนาคารกลาง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในตลาดเกิดใหม่

You Might Also Like

เอพี ไทยแลนด์ โชว์ผลประกอบการ Q1/68 ยอดขายพุ่งทะลุ 12,110 ล้าน ย้ำศักยภาพทางการเงินแข็งแกร่ง

SET – Nasdaq ลงนาม MOU เสริมศักยภาพตลาดทุนไทยด้วยเทคโนโลยี

การบินไทยเผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 สะท้อนการเติบโตต่อเนื่อง เตรียมออกจากแผนฟื้นฟู พร้อมกลับเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์

ก.ล.ต. นับ 1 ไฟลิ่ง MASTEC พร้อมขาย IPO 79 ล้านหุ้น เข้าตลาด SET

TAGGED: ทองคำ, ราคาทอง, เศรษฐกิจ

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin April 3, 2024
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article ไทยพร้อมแค่ไหน? เตรียมจัดเทศกาลดนตรีระดับโลก Summersonic Bangkok 2024
Next Article Emerging Market ถึงเวลาทะยานไปกับตลาดหุ้นเกิดใหม่ อัพไซด์สูง
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?