สิ่งที่มาพร้อมกับกระแสความนิยมของเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ช่วยทำให้ ‘สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset)’ อย่างคริปโตเคอร์เรนซี่สามารถมีมูลค่าขึ้นมาได้ สินทรัพย์อีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือ NFT หรือ Non-Fungible Token ที่เปลี่ยนไฟล์ JPEG ธรรมดาบนอินเตอร์เน็ตให้มีลักษณะเฉพาะตัว จนสามารถซื้อขายกันได้ในราคามหาศาลเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการได้
.
ผลงานไฟล์ต่างๆ ที่ถูกบันทึกลงบนบล็อคเชนนั้นสามารถที่จะถ่ายโอนความเป็นเจ้าของกันได้ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางรายได้สำหรับศิลปินผู้สร้างสรรค์งานในยุคดิจิทัล อย่างครีเอเตอร์งานศิลปะ หรือนักดนตรี เพราะพวกเขาสามารถที่จะขายผลงานของเขาในรูปแบบของ NFT ได้นั่นเอง ทำให้อุตสาหกรรม NFT นั้นเต็มไปด้วยโอกาส และกาารเติบโตอย่างมากมายมหาศาล
.
Creative Investment Space ในฐานะที่เป็นสื่อที่พูดถึงเรื่องการลงทุน ในบทความก่อนหน้านี้เราได้มีการพูดถึงพื้นฐานของเทคโนโลยีบล็อกเชน และวิธีหารายได้จากคริปโตเคอร์เรนซี่ไปแล้ว ในครั้งนี้จึงอยากจะถือโอกาสพูดถึงกระแสการมาถึงของ NFT ว่านักลงทุนจะสามารถสร้างรายได้จากมันอย่างไร และแท้ที่จริงแล้วสิ่งนี้นั้นทำงานอย่างไร
NFT คืออะไร?
ก่อนหน้านี้นั้นพวกเราเข้าใจกันแล้วว่า บล็อกเชน คือระบบที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการโอนมูลค่าระหว่างกันโดยไม่ใช้ตัวกลางในการตรวจสอบ แต่จะใช้ผู้คนในระบบคอยตรวจสอบ และยืนยันความถูกต้อง ดังนั้นคริปโตเคอร์เรนซี่จึงมีมูลค่าที่สามารถโอนหากันได้อย่างปลอดภัย เพราะมีสามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนได้ตามการยอมรับที่กว้างขวางขึ้นเรื่อยๆ ของผู้ใช้งาน
.
หากคริปโตเคอร์เรนซี่คือสกุลเงินดิจิทัลที่มูลค่าเกิดขึ้นเพราะบล็อกเชน หากเรานำไฟล์บางอย่างไปบันทึกบนบล็อกเชนล่ะจะเป็นอย่างไร?
.
นี่จึงเป็นที่มาของสิ่งที่เรียกว่า Non-Fungible Token หรือไฟล์ดิจิทัลที่มีความเฉพาะตัว และมีเพียงหนึ่งเดียวเพราะสิ่งที่ถูกบันทึกลงบนบล็อกเชนนั้นไม่สามารถที่จะลบล้างลงไปได้ นอกเสียจากจะต้องใช้เสียงของผู้คนทั้งเครือข่ายมากกว่า 51% ในการตัดสิน หรือขึ้นอยู่กับระบบฉันทามติของบล็อกเชน แต่ละชนิด
.
ซึ่งทั้งคริปโตฯ และหรือ NFT นั้นมีแนวคิดในการกำเนิดมูลค่าที่เหมือนกัน เพียงแต่ว่าคริปโตฯ นั้นถูกสร้างขึ้นโดยใช้เป็น ‘เงิน’ ในกาถ่ายโอนมูลค่าทำให้ไม่ว่าจะเป็นเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เหรียญใด ย่อมจำเป็นที่จะต้องมีมูลค่าเท่ากัน ใช้งานได้เหมือนกัน หรือที่เราจะเรียกว่า Fungible Token นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น 1 Bitcoin ที่เราถือครองอยู่ ต้องมีลักษณะที่เหมือนกับ 1 Bitcoin ที่ผู้อื่นถือครองอยู่ด้วย
อะไรเป็น NFT ได้บ้าง
หากจะถามว่าสิ่งใดเป็น NFT ได้บ้างคงจะต้องตอบว่า ไฟล์ดิจิทัลทุกชนิดสามารถถูก มินท์ (Mint) หรือถูกบันทึกลงบนบล็อกเชนเพื่อสร้างเป็น NFT ขึ้นมาได้หมด ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เอกสาร ไฟล์เสียง ไฟล์ภาพ หรือไฟล์วิดีโอ โดยในปัจจุบันนั้นประเภทของ NFT ที่ได้รับความนิยม และมีมูลค่าสูงคือไฟล์ประเภทภาพ และวิดีโอสั้น
.
ซึ่งหลังจากที่ไฟล์ดังกล่าวได้แปรสภาพเป็น NFT เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าไฟล์ดังกล่าวจะถูกส่งต่อหรือทำซ้ำมากแค่ไหน ไฟล์ต้นฉบับจะถูกจารึกบนบล็อกเชนว่าไฟล์นี้คือไฟล์ NFT หนึ่งเดียว พร้อมทั้งระบุชื่อผู้ถือครอง โดยที่ไม่มีสิ่งใดสามารถมาเปลี่ยนแปลงได้นอกเสียจาก เจ้าของจะทำการโอนความเป็นเจ้าของ NFT นั้นไปให้ผู้อื่น การสร้างรายได้เสริมจาก NFT ในฝั่งของศิลปินคือการสร้างผลงานศิลปะ และขายต่อให้กับผู้ที่ต้องการครอบครองนั่นเอง
.
ดังนั้นคุณสมบัติของ NFT ต้องประกอบไปด้วย
- โครงสร้างภายในข้อมูลที่มีลักษณะเฉพาะตัว
- ความหายากของเหรียญโทเคน NFT หากไฟล์มีการสร้างออกมามากกว่าหนึ่งอาจทำให้มูลค่าของมันลดลงได้
- ไม่สามารถแบ่งขายเป็นหน่วยย่อยได้เหมือนกับคริปโตเคอร์เรนซี่ ต้องซื้อขายเต็มจำนวนเท่านั้น
ตลาด NFT มีมูลค่า และโอกาสมากแค่ไหน
จากข้อมูลในเดือนมกราคมปี 2565 พบว่าแพลตฟอร์มซื้อขาย NFT ชื่อดังอย่าง Opensea นั้นมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 13.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ Cryptopunks คือคอลเลคชั่นที่มีมูลค่าซื้อขายรวมสูงที่สุด อยู่ที่ 895,764.54 ETH หรือ 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันนั้นสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่ามีผู้เล่นน้อยรายที่โลดแล่นอยู่ในอุตสาหกรรมดังกล่าว ในแง่ของการเติบโตในภาพรวม NFT ยังสามารถไปได้อีกไกลมาก
.
อีกทั้งในปัจจุบันเรายังมีสิ่งที่เรียกว่า NFT Game ที่ทุกสินทรัพย์ในเกมจะถูกบันทึกไว้บนบล็อกเชน ทำให้เราสามารถได้รับ NFT จากกการเล่นเกมดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งหากคอมมูนิตี้ของเกมนั้นใหญ่มากพอ ย่อมมีผู้เช่นคนอื่นที่ต้องการจะซื้อ NFT ของไอเทมในเกมจากเราในราคาที่สูงอีกด้วย
.
ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นภาคธุรกิจ ศิลปิน หรือนักลงทุน ตลาด NFT เป็นสิ่งที่ต้องจับตามองว่าอนาคตของอุตสาหกรรม NFT นั้นจะหันเหไปในทิศทางใด และตัวคุณเองมีศักยภาพในการที่จะสร้างรายได้จากตลาดอย่างไร คุณอาจจะเป็นศิลปินผู้ผลิตงาน นักสะสมผลงานเพื่อเก็งกำไร หรือเป็นภาคธุรกิจที่ขยายผลิตภัณฑ์ของตัวเองผ่านการขาย NFT ก็สามารถทำได้เช่นกัน
Reference