ก.ล.ต.ออกโรงสั่งให้ ‘บิทคับ ออนไลน์’ ส่งแผนแก้ไขระบบ และแก้ไขระบบงานที่เป็นประเด็นปัญหาให้เสร็จภายใน 5 วัน เพื่อคุ้มครองผู้ลงทุน โดยพบว่ามีกรณีที่ไม่สามารถให้บริการลูกค้าได้ตามปกติ และมีการหยุดชะงักของระบบงานสำคัญ วันที่ 2,3 และ 16 ม.ค. ทำให้มีเรื่องร้องเรียนจำนวนมาก
คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 2/2564 อาศัยอำนาจตามมาตรา 35 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 มีมติให้บริษัทส่งแผนการแก้ไขให้ ก.ล.ต. และดำเนินการแก้ไขระบบงานที่เป็นประเด็นปัญหาให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน โดยมีข้อกำหนดดังนี้
1) แก้ไขการดำเนินการตามระบบงานต่าง ๆ ได้แก่ ระบบการซื้อขาย ระบบการฝากถอนเงินและสินทรัพย์ดิจิทัล ระบบการแสดงข้อมูลทรัพย์สินลูกค้า ระบบการให้บริการติดต่อลูกค้า ระบบการรับลูกค้า การยืนยันและพิสูจน์ตัวตนลูกค้า (KYC) และการเปิดบัญชี ระบบการจัดการเรื่องร้องเรียน และการจัดการบุคลากรให้เหมาะสมและเพียงพอกับปริมาณลูกค้าและธุรกรรม
2) แก้ไขนโยบายการรับลูกค้าให้เหมาะสมกับระบบงานที่พร้อมให้บริการตามข้อตกลงระดับการให้บริการที่ตกลงไว้กับลูกค้า (Service Level Agreement)
3) แก้ไขระบบงานที่สามารถรองรับการประกอบธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan) ให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ระบบซื้อขายขัดข้อง สอดคล้องกับรูปแบบธุรกิจ ปริมาณลูกค้า และธุรกรรมในปัจจุบัน
4) แก้ไขการดำเนินการตามระบบงานที่ช่วยเสริมสร้างและรักษากลไกการทำงาน ของระบบซื้อขายให้มีความเรียบร้อย (Market Surveillance)
ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางเลือกการเทรดคริปโตไม่ได้มีแค่โบรกเกอร์ของไทย แต่ยังมี Exchange อื่นๆที่มีทั้งตัวเลือกจำนวนเหรียญ คู่เทรด และสินค้าอื่นๆที่มากกว่า รวมถึงมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าอีกด้วย ตัวอย่างเช่น bitazza.com, binance.com, FTX.com, zipmex.co.th หรือแม้แต่ satang.pro ก็เทรดได้ ซึ่งนักเทรดในวงการก็คงรู้จักกันอยู่แล้ว
แต่ถ้านักเทรดท่านไหนสนใจเทรดที่ไทยจริงๆกับคู่เงินบาท ก็คงแนะนำ bitazza.com ซึ่งเป็น Exchange ที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อปีที่แล้วโดยผู้ก่อตั้งทีมงานบิทาซซ่านำโดยคุณกวิน พงษ์พันธ์เดชา จากนั้นก็ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2562 อีกทั้งยังเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท Ledger และใช้ Ledger Vault ซึ่งเป็นระบบเก็บรักษาที่ออกแบบมาสำหรับสถาบันการเงิน เพราะฉะนั้นก็เป็นอีกเว็บหนึ่งที่น่าเชื่อถือเลยทีเดียว
โดยสาเหตุที่คุณกวินตัดสินใจมาทำโบรกเกอร์เนื่องจากในประเทศไทยมี Exchange อยู่แล้วแต่ Liquidity ที่อยู่ในไทยไม่พอสำหรับจำนวนผู้ประกอบการที่มีอยู่ในปัจจุบัน และการเป็นโบรกเกอร์จะช่วยส่งเสริม Exchange ในประเทศไทยและช่วยอุตสาหกรรมโดยรวมให้โตขึ้นด้วย
ข้อมูลที่หลายคนอยากทราบก็คงเป็นค่าธรรมเนียม โดยค่าธรรมเนียมการซื้อขายพื้นฐานของ bitazza.com ทั้ง Maker และ Taker นั้นเท่ากันคือ 0.25% ผู้ใช้มีสิทธิ์ได้รับส่วนลดการซื้อขายสูงถึง 70% หากใช้เหรียญ BTZ ของ Bitazza เพื่อใช้ลดค่าธรรมเนียม ซึ่งโมเดลจะคล้าย ๆ กับเหรียญ BNB ของ Binance
หวังว่าบทความนี้คงเป็นตัวช่วยและเสนอทางเลือกที่น่าจะมีประโยชน์กับผู้บริโภคในตอนนี้ไม่น้อยก็มาก
หากสนใจลงทุนเงินดิจิทัล
เปิดพอร์ตเงินดิจิทัลกับ Bitazza ซึ่งได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ประเทศไทย และส่วนลดซื้อขายสูงสุด 70% หากใช้เหรียญ BTZ คลิกเลย!!
แหล่งที่มาข้อมูล :
#CISThai
Line Official: https://lin.ee/jO65rNq
Website : https://connectthedotsth.com/
FB Fangage: https://www.facebook.com/CreativeInvestmentSpace