ทองคำ คือ หนึ่งในสินทรัพย์การลงทุนที่คนไทยให้ความนิยมสูง เพราะหาซื้อง่าย กลไกของมูลค่าไม่ซับซ้อน แค่ซื้อเก็บไว้อย่างไรก็เพิ่ม เมื่อถึงคราวต้องใช้เงินขึ้นมา ไม่ว่าด้วยเหตุอะไร ก็ยังสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดเพื่อนำไปใช้จ่ายได้ทันที แต่คำถามคือ ขายทองหรือจำนำทองคุ้มกว่า และใครเหมาะกับแบบไหนกันแน่
[จำนำทอง]
การจำนำทองคือการนำทองไปเป็นหลักค้ำประกันเงินกู้ เหมือนการจำนำของอื่น ๆ แต่มีหลักเกณฑ์และราคาเฉพาะตัว จำนำได้ตามโรงรับจำนำทั้งของรัฐและเอกชน หรือร้านทองที่เปิดรับจำนำทอง ซึ่งจะเป็นประเมินราคาและเก็บทองไว้ โดยจะให้ตั๋วจำนำกับผู้กู้เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อรับทองคืนเมื่อจ่ายเงินคืนครบ แต่หากผู้กู้ไม่สามารถไถ่ถอนคืนได้ตามระยะเวลาที่ตกลงไว้ ทองจะตกเป็นของผู้รับจำนำและจะถูกขายทอดตลาดต่อไป
สิ่งที่ต่างกันระหว่างโรงรับจำนำของรัฐและเอกชนคืออัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะคิดแยกกันเป็นส่วน ๆ ตามขั้นบันไดของเงินต้น (วิธีคิดอยู่ในคอมเมนต์)
โรงรับจำนำรัฐ
- เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท ดอกเบี้ย 0.25%/เดือน
- เงินต้น 5,001-10,000 บาท ดอกเบี้ย 0.75%/เดือน
- เงินต้น 10,001-20,000 บาท ดอกเบี้ย 1.00%/เดือน
- เงินต้น 20,001-100,000 บาท ดอกเบี้ย 1.25%/เดือน
โรงรับจำนำเอกชน
- เงินต้น 2,000 บาทแรก ดอกเบี้ย 2%/เดือน
- เงินต้นส่วนเกินจาก 2,000 บาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 1.25%/เดือน
*ข้อควรรู้
- โรงรับจำนำส่วนใหญ่จะรับจำนำเฉพาะทองรูปพรรณความบริสุทธิ์ 96.5% และ ทองคำแท่งความบริสุทธิ์ 99.99% เท่านั้น โดยทองคำแท่งจะสะดวกต่อการจำนำมากกว่าเพราะประเมิณมูลค่าจากน้ำหนักทองง่าย
- ระยะเวลาการไถ่ถอนอาจแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่ไม่เกิน 4 เดือน
- ที่สำคัญคือโรงรับจำนำแต่ละที่จะมีการกำหนดจำนวนเงินผ่อนชำระขั้นต่ำไว้ ซึ่งต้องพิจารณาว่าเราจ่ายไหวไหม แต่ที่หลายคนไม่รู้คือ เราไม่จำเป็นต้องกู้เต็มมูลค่าทองที่เราจำนำก็ได้ สามารถเบิกมาแค่จำนวนเงินที่เราต้องใช้ และสามารถจ่ายคืนไหว แบบนั้นเราก็จะไถ่ถอนคืนได้ง่ายขึ้นด้วย
[ขายทอง]
การขายทองก็เป็นการซื้อขายในประเภทที่มีหลักเกณฑ์และเรตราคาเฉพาะตัว ซึ่งราคาทองมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งในฝั่งรับซื้อ (ราคาที่ร้านรับซื้อจากลูกค้า) และขายออก (ราคาที่ร้านทองขายให้ลูกค้า) ซึ่งราคารับซื้อจะถูกกว่าราคาขายออกเสมอ
ร้านทองส่วนใหญ่จะรับซื้อแค่ทอง 96.5 % หรือ ทอง 99.9 % เท่านั้น หากเปอร์เซ็นต์ทองต่ำกว่านี้อาจไม่รับซื้อ และทองที่มีโลโก้ มีใบรับประกันมักจะได้ราคาดีกว่า เพราะน่าเชื่อถือและรู้ที่มาของทองชัดเจน
หากเราขายทองคำแท่งคืนร้านค้า โดยทั่วไปจะค่อนข้างสะดวก คิดราคารับซื้อตามน้ำหนักทองได้เลย จะไม่ค่อยโดยหักราคา เนื่องจากเป็นทองเน้นเก็บไม่เน้นใช้ จึงไม่เสียน้ำหนักทองจากการเสื่อมหรือชำรุดเสียหาย
แต่หากเราขายทองรูปพรรณคืนร้านทอง จะถูกหักค่าดำเนินการหรือที่เรียกกันว่า “ค่าหลอม” ตามหลักเกณฑ์ของสคบ. กำหนดให้หักจากราคารับซื้อคืนทองคำแท่งจากร้านเดียวกันได้ไม่เกิน 5% แต่หากขายคืนต่างร้านก็อาจถูกหักมากกว่านี้
[ขายหรือจำนำคุ้มกว่ากัน?]
ทองเป็นสินทรัพย์ที่สะสมมูลค่าได้ดี และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในระยะยาวการจำนำทองจึงนับว่าคุ้มค่ามากกว่า เพราะเรายังสามารถไถ่ถอนคืนมาเพื่อสะสมมูลค่าต่อไปในอนาคตได้ แต่หากเราขายทองออกไปแล้ว การจะกลับมาซื้อทองเก็บไว้อีกครั้ง อาจต้องซื้อในราคาที่สูงขึ้นหากราคาทองปรับตัวขึ้น
[จะขายหรือจำนำดี?]
แม้การจำนำทองจะคุ้มค่ากว่าเพราะยังสะสมมูลค่าต่อไปได้ แต่เงื่อนไขและความต้องการใช้เงินของแต่ละคนแตกต่างกัน
หากคุณเพียงต้องการเงินก้อนเล็ก ๆ มาหมุนใช้จ่ายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ชั่วคราวและมั่นใจว่าจะมีเงินมาไถ่ถอนคืนได้แน่นอน เช่น นำมาหมุนค่าใช้จ่ายช่วงปลายเดือนรอเงินออก หรือเติม Cash Flow ในธุรกิจเล็ก ๆ การจำนำทองคือตัวเลือกที่เหมาะกับคุณ
แต่หากคุณสะสมทองมาเป็นเวลานานแล้ว ต้องการเงินก้อนใหญ่มาใช้จ่ายหรือปรับพอร์ตการลงทุน โดยไม่ได้คาดหวังจะสะสมมูลค่าในทองต่อไป ไม่ต้องการภาระผูกพัน การขายทองก็อาจเป็นทางเลือกที่ใช่ที่สุด เช่น คุณต้องการเกินก้อนเพื่อมาลงทุนในที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ คุณอยู่ในวัยเกษียณแล้วอยากนำสินทรัพย์ที่สะสมไว้เปลี่ยนเป็นเงินออกมาใช้จ่ายสักที หรือคุณเก็บทองมานานต้องการเอาทองที่เก็บไว้แบ่งมาขายซื้อบ้านสร้างครอบครัว แบบนี้ขายเลยก็อาจเหมาะกว่า