‘บมจ.วีรันดา รีสอร์ท’ หรือ VRANDA ประเมินแนวโน้มธุรกิจท่องเที่ยวครึ่งหลังปี 2567 เติบโตสดใส หลังเห็นสัญญาณบวกจากรายได้ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทเครือวีรันดาฯ ในเดือน ก.ค. และ ส.ค. 2567 เติบโตจากไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกันเล็งเห็นทำเลที่นักท่องเที่ยวต่างชาติสนใจ ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา สมุย เชื่อว่าธุรกิจท่องเที่ยวจะเติบโตต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 4 จากสัญญาณนักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE และ Leisure แห่จองห้องพักคึกคักในช่วงปลายปีหนุนรายได้กลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทของวีรันดาฯ ทั้งในไตรมาส 3 และ 4 เติบโตดี และรายได้รวมทั้งปีเติบโต 20%ตามเป้าหมาย
นายภวัฒก์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ผู้นำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจไลฟ์สไตล์ เปิดเผยว่า มองภาพรวมสถานการณ์ธุรกิจท่องเที่ยวของไทย ในปี 2567 ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจ โดยเชื่อว่าธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมในครึ่งปีหลัง 2567 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 3 (กรกฎาคม-สิงหาคม) ซึ่งเติบโตกว่าไตรมาสที่ผ่านมา โลเคชั่นที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูง ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา และสมุย โดยเทรนด์การเติบโตนี้ยังต่อเนื่องไปถึงไตรมาสที่ 4 ซึ่งพบสัญญาณการจองห้องพักของนักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE และ Leisure อย่างคึกคักในช่วงปลายปี ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของรายได้ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทของวีรันดาฯ ในปีนี้
จากสัญญาณผลประกอบการธุรกิจโรงแรมในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 3 ทั้งจากยอดการเข้าพักและค่าห้องพักเฉลี่ย
ที่ฟื้นตัวจากไตรมาส 2/2567 อย่างชัดเจน ซึ่งได้รับแรงหนุนยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2567 จึงเป็นโอกาสให้ วีรันดาฯ เดินหน้ากลยุทธ์ดึงนักท่องเที่ยวดังกล่าว โดยการขยายตลาดในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งในยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง ประกอบกับการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ และมอบบริการที่ลูกค้าประทับใจอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังนำเสนอโปรโมชันและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า เป็นปัจจัยหลักในการหนุนการเติบโตของธุรกิจโรงแรมในช่วงครึ่งปีหลังอย่างชัดเจน
ด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลังสามารถโอนกรรมสิทธ์โครงการ วีรันดา พูล วิลล่า หัวหิน ชะอำ ได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2567 ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกเติบโต 130% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเราจะเห็นภาพการเติบโตนี้ตลอดทั้งปี จากคาดการณ์การโอนกรรมสิทธ์ในไตรมาสที่ 3 ที่จะเติบโตจากทั้งไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับปัจจัยบวกจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ วีรันดา วิลล่า แอนด์ สวีท ภูเก็ต ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้วีรันดาฯ มีรายได้รวมเติบโต 20% ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้
โดยปัยจัยบวกหนุนการเติบโตของ วีรันดาฯ ดังกล่าวจะต่อเนื่องและชัดเจนยิ่งขึ้นในปี 2568 จากการเปิดให้บริการเต็มปีของโรงแรมแห่งใหม่ “วีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต-ออโต้กราฟ คอลเลกชัน” จำนวน 159 ห้อง บนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ บริเวณพื้นที่ของพันวา-อ่าวยน มูลค่าโครงการกว่า 1.3 พันล้านบาท ภายใต้เชนการบริหารระดับพรีเมียม ‘ออโต้กราฟ คอลเลกชัน’ ในเครือโรงแรมแมริออท อินเตอร์เนชันแนล ประกอบกับการให้บริการห้องพักส่วนขยายของโรงแรม วีรันดา คอลเลกชัน สมุย – ร็อคกี้ รีสอร์ท เพิ่มอีก 20 ห้อง ซึ่งจะทำให้โรงแรมที่เกาะสมุยมีห้องพักให้บริการรวมเป็น 70 ห้อง โดย ขณะที่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย วีรันดาฯ จะมีโครงการ วีรันดา วิลล่า แอนด์ สวีท ภูเก็ต มูลค่าโครงการประมาณ 860 ล้านบาท จะทยอยโอนกรรมสิทธ์ต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2568
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ได้ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัทวีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA โดยแนะนำซื้อราคาเหมาะสมเป็น 10.07 บาทต่อหุ้น ปัจจุบันซื้อขายด้วย PER 19.5 เท่า และคาดการณ์ปี 2568 ที่ 17.2 เท่า เนื่องจากประเมินว่าแม้ภาพรวมตลาดท่องเที่ยวในไตรมาส 2 อยู่ในช่วงโลว์ซีซัน แต่คาดว่า VRANDA จะมีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการอสังหาฯ และการเปิดตัวโรงแรมใหม่จะช่วยหนุนการเติบโตของกำไรให้โดดเด่นเมื่อเทียบผลการดำเนินงานรายไตรมาสและครึ่งปีแรกของปีนี้กับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ บล.หยวนต้า ประเมิน VRANDA สมควรกลับไปซื้อขาย+/- 6.00 บาทต่อหุ้นเป็นอย่างน้อย