CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: หุ้นใหม่ PMC เคาะราคา IPO 1.82 บาท/หุ้น จองซื้อ 29 ส.ค. – 5 ก.ย. คาดเทรด mai 11 ก.ย.
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Business > หุ้นใหม่ PMC เคาะราคา IPO 1.82 บาท/หุ้น จองซื้อ 29 ส.ค. – 5 ก.ย. คาดเทรด mai 11 ก.ย.
Business

หุ้นใหม่ PMC เคาะราคา IPO 1.82 บาท/หุ้น จองซื้อ 29 ส.ค. – 5 ก.ย. คาดเทรด mai 11 ก.ย.

CTD admin
Last updated: 2024/09/12 at 8:16 AM
CTD admin Published August 28, 2024
Share

“บมจ.พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ หรือ PMC” เคาะราคาขาย IPO ที่หุ้นละ 1.82 บาท เตรียมเปิดให้ผู้ถือหุ้นของ SELIC ที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้นของบริษัทฯ จองซื้อวันที่ 29-30 ส.ค., 2 ก.ย. และนักลงทุนทั่วไปจองซื้อวันที่ 3-5 ก.ย.นี้ มั่นใจนักลงทุนตอบรับดี จากปัจจัยพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง ชูโอกาสการเติบโตและก้าวสู่ผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายสติ๊กเกอร์เปล่าในภูมิภาคอาเซียน ตอกย้ำ PMC เป็นผู้ผลิตสติ๊กเกอร์รายใหญ่ลำดับที่ 5 ของประเทศไทย พร้อมนำเงินระดมทุนขยายศูนย์กระจายสินค้าในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน  คาดเทรด mai  วันที่ 11 ก.ย. นี้ หมวดธุรกิจ สินค้าอุตสาหกรรม (INDUS)

ทั้งนี้ บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMC เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 115.72 ล้านหุ้น คิดเป็น 30% ของจํานวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ ได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น พร้อมด้วยผู้ร่วมจัดจำหน่ายอีก 5 ราย ประกอบด้วย บริษัท หลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด  บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่าย

นางรัชดา เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เปิดเผยว่า บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMC ได้กำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่หุ้นละ 1.82  บาท จะเปิดให้ผู้ถือหุ้นของ บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) หรือ SELIC ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 34,715,000 หุ้น ในช่วงระหว่างวันที่ 29-30 สิงหาคม, 2 กันยายน  และนักลงทุนทั่วไปวันที่ 3-5 กันยายน 2567 นี้  และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 11 กันยายน 2567 ในหมวดธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรม (INDUS)

สำหรับราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 1.82 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Trailing 12-month P/E Ratio) เท่ากับ 12.18 เท่า เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิที่ 0.1494 บาทต่อหุ้น ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ที่ 40.4 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ ก่อนการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 270,000,000 หุ้น (Pre-IPO Dilution) และคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) เท่ากับ 17.40 เท่า เมื่อเทียบกับกำไรต่อหุ้นที่ 0.1046 บาท หากพิจารณากำไรสุทธิต่อหุ้นที่คำนวณจากจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 385,715,000 หุ้น (Post-IPO Dilution หรือ Fully Diluted)

 ทั้งนี้ PMC พิจารณานำ P/E ของคู่เทียบในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงระยะเวลา 12 เดือน มาเป็นข้อมูลประกอบการเปรียบเทียบ

อย่างไรก็ดี PMC เดินหน้าจัดงานโรดโชว์ นำเสนอข้อมูลสรุปการเสนอขายหุ้น IPO ต่อนักลงทุนรายย่อย ชูปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของธุรกิจ โดยจุดเด่นของ PMC เป็นบริษัทชั้นนำด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทีมผู้บริหารที่มาจาก  SELIC มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปี และเป็นผู้ผลิตสติ๊กเกอร์รายใหญ่ลำดับที่ 5 ของประเทศไทย  

โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถจำหน่ายสติ๊กเกอร์ได้รวมกว่า 57 ล้านตารางเมตร โดยเป็นการจำหน่ายสินค้าในประเทศประมาณร้อยละ 66.5 และอีกร้อยละ 33.5 เป็นการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ และมีฐานลูกค้าที่มีรายการค้าต่อเนื่อง (Active Customers) กว่า 700 ราย ประกอบกับการได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์จากองค์กรต่างๆ ในระดับสากล ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯ ซึ่งได้แก่ กลุ่มธุรกิจโรงพิมพ์และผู้ผลิตฉลากสินค้า ให้ความไว้วางใจในคุณภาพสินค้า โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ สามารถแข่งขันได้ทั้งในเรื่องคุณภาพสินค้าและความคุ้มค่าของราคา สนับสนุนให้ผลประกอบการมีความแข็งแกร่ง รักษาความสามารถในการทำกำไรได้ต่อเนื่อง และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ได้ดี ภายหลังการ IPO ในครั้งนี้ มองว่าจะสนับสนุนโอกาสการเติบโตให้แก่บริษัทฯ ในอนาคต  

นายเอก สุวัฒนพิมพ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMC ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สติ๊กเกอร์หรือฉลากกาวรายใหญ่ของประเทศ กล่าวว่าการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 210,601,300 บาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) เพื่อใช้ลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับสายการผลิตใหม่ และชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน รวมถึงลงทุนขยายธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการขยายศูนย์กระจายสินค้าในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย และเวียดนาม สนับสนุนให้ PMC ก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายสติ๊กเกอร์เปล่าในภูมิภาคอาเซียน

ปัจจุบัน PMC เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สติ๊กเกอร์ (Sticker) หรือฉลากกาว (Self-Adhesive Label) รายใหญ่ของประเทศ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ สติ๊กเกอร์กระดาษ สติ๊กเกอร์ฟิล์ม และสติ๊กเกอร์ชนิดพิเศษ โดยจัดจำหน่ายสติ๊กเกอร์ให้แก่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศผ่านการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่ PMC Label Materials PTE., Ltd. หรือ “PMCS” ในประเทศสิงคโปร์ และ PMC Label Materials (Malaysia) SDN. BHD. หรือ “PMCM” ในประเทศมาเลเซีย ในงวดครึ่งปีแรกมีสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าในประเทศประมาณร้อยละ 70 ส่วนอีกร้อยละ 30 เป็นการจำหน่ายให้แก่ลูกค้าในต่างประเทศ ซึ่งมีกว่า 15 ประเทศทั่วโลก ฐานลูกค้าหลักอยู่ในประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม  

นอกจากนี้ PMC มีโรงงานผลิตสินค้า 1 แห่ง ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งอยู่ระหว่างการลงทุนขยายกำลังการผลิต เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสติ๊กเกอร์อีก 110 ล้านตารางเมตรต่อปี จากปัจจุบันกำลังการผลิตสติ๊กเกอร์อยู่ที่ 75 ล้านตารางเมตรต่อปี โดยสายการผลิตใหม่อยู่ระหว่างการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4/2567 เป็นต้นไป ภายหลังจากที่สายการผลิตใหม่ติดตั้งแล้วเสร็จ บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตสติ๊กเกอร์รวมทั้งสิ้น 185 ล้านตารางเมตรต่อปี ซึ่งถือเป็นกำลังการผลิตที่ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่ 3 ของผู้ประกอบการในประเทศไทย ช่วยปลดล็อคศักยภาพการผลิต รองรับการขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ พร้อมที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายฉลากกาวในภูมิภาคอาเซียนต่อไป

โดย PMC เป็นบริษัทย่อยในสัดส่วนร้อยละ 100 ของบริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) หรือ SELIC ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกาวอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ โดย PMC ถือเป็นแกนหลัก (Flagship Company) ในกลุ่ม SELIC ที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสติ๊กเกอร์เปล่า ซึ่งเป็นวัตถุดิบต้นน้ำสำหรับการผลิตฉลากสินค้าและฉลากบรรจุภัณฑ์ อีกทั้งยังสามารถต่อยอดการใช้งานได้ในอีกหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น สติ๊กเกอร์บาร์โค้ด (Barcode) สติ๊กเกอร์ติดกระเป๋าเดินทาง (Luggage Tag) และฝาบิดบรรจุภัณฑ์ (Sealing Sticker) เป็นต้น

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 คือ บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่อยู่ที่ 269,999,600 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนเกือบร้อยละ 100 และภายหลัง IPO สัดส่วนการถือหุ้นจะอยู่ที่ร้อยละ 70 โดยผู้ถือหุ้นของ SELIC ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 34,715,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 9% ในราคาเดียวกันกับราคาที่เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)  ซึ่งมีจำนวน 81,000,000 หุ้น สัดส่วน 21%  ราคาเดียวกันกับราคาที่เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) นั้น

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 รายได้จากการขายอยู่ที่ 432.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 24 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนรายได้จากการขายอยู่ที่ 420.6 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 1 ล้านบาท โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตามราคาวัตถุดิบและอัตราค่าระวางเรือที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องและทรงตัวอยู่ในระดับต่ำตลอดช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 ประกอบกับความสามารถของบริษัทฯ ในการเพิ่มสัดส่วนการขายผลิตภัณฑ์กลุ่ม Premium ซึ่งได้แก่ สติ๊กเกอร์ฟิล์มและสติ๊กเกอร์ชนิดพิเศษได้ตามเป้าหมาย ขณะที่ ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2566 มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 824.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 17.4 ล้านบาท   

You Might Also Like

PTG โชว์ยอดขาย Non-Oil โต 32.2% กาแฟพันธุ์ไทย ขยายสาขาได้เฉลี่ย 1.5 สาขา/วัน

AOT ราคาเท่าไหร่ถึงเรียกว่าถูก?

เอพี ไทยแลนด์ โชว์ผลประกอบการ Q1/68 ยอดขายพุ่งทะลุ 12,110 ล้าน ย้ำศักยภาพทางการเงินแข็งแกร่ง

SET – Nasdaq ลงนาม MOU เสริมศักยภาพตลาดทุนไทยด้วยเทคโนโลยี

TAGGED: IPO, mai, PMC, SELIC, พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin August 28, 2024
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article ทำไม Telegram จึงเป็นแหล่งอาชญากรรม แอปโปรดของเหล่ามิจฉาชีพระดับสากล 
Next Article Thailand Focus 2024 ครั้งที่ 18 เชิญผู้ลงทุนทั่วโลกร่วมรับฟังข้อมูลเศรษฐกิจและตลาดทุนไทย
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?