EA หรือ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หุ้นไทยที่มีความโดดเด่นต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จากเทรนด์พลังงานสะอาด และการเติบโตของรถ EV จากจุดสูงสุดที่ราคาพุ่งทะยานแตะเกือบ 100 บาท/หุ้น หรือมี Market Cap ราว 3 แสนล้านบาท วันนี้หุ้น EA ร่วงติด Floor ลดลงไปต่ำสุดที่ 12.20 บาท/หุ้น Market Cap หายวับหลักหมื่นล้าน เกิดอะไรขึ้นกับ EA
สมโภชน์ อาหุนัย ซีอีโอ ของ EA ตั้งโต๊ะชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้น EA ที่ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยอมรับว่านำหุ้นในสัดส่วนประมาณ 3% ไปค้ำประกันเงินกู้ ซึ่งมูลค่าขณะนั้นอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท เมื่อราคาหุ้นดิ่งลงแรงจากเคยสูงสุดแตะ 100 บาท เหลือเพียงหลักสิบ ทำให้เจ้าหนี้ต้องเรียกหลักประกันเพิ่ม หรือ Matgin Call เมื่อไม่สามารถเจรจากับเจ้าหนี้ได้ จึงถูกบังคับขาย หรือ Force Sell และเขายอมรับว่าเป็นผู้เสียหายมากที่สุดจากกรณีนี้
หุ้น EA สะท้อนถึงปัญหาความเชื่อมั่นในตลาดหลักทรัพย์ไทย หลังนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถหาเงินมาชำระคืนหุ้นกู้รวมมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท โดยจะครบกำหนดชำระคืนในปีนี้ราว 5,500 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีกรณีของ NEXบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทลูก ที่ EA ปล่อยเงินกู้เพื่อใช้ทำโครงการ EV BUS ซึ่งไม่อยู่ในแผนของบริษัท ทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นอย่างหนักในช่วงสัปดาห์ทีผ่านมา
รวมทั้งหุ้น EA ยังเป็นหลักทรัพย์ที่มีการขายผ่าน Program Trading สูงสุด เมื่อวันที่ 1ก.ค. 2567 ที่ผ่านมา เป็นมูลค่า 1,154.93 ล้านบาท เช่นเดียวกับหุ้น NRF บริษัท อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) และ YGG บริษัท อิ๊กดราซิลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ก่อนหน้านี้ผู้บริหารถูก Force Sell เช่นเดียวกัน และเป็นภาพสะท้อนของมันนีเกมที่เกิดขึ้นในแวดวงตลาดทุนไทย
กรณีที่เกิดขึ้นกับ SABUY บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ก็เช่นเดียวกัน ราคาหุ้นดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเดือนเม.ย. 2567 ที่ผ่านมา ปัจจุบันราคาหุ้นอยู่ที่ 0,85 บาท/หุ้น จากเคยสูงเกือบ 25 บาท/หุ้น ซึ่งบริษัทออกมาชี้แจงว่าราคาหุ้นที่ปรับลดลงอย่างหนัก มาจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ถูกบังคับขายหุ้น (Forced Sell) ออกมา ซึ่งเป็นธุรกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของ SABUY ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะตัวของผู้ถือหุ้นที่ใช้บัญชีมาร์จิ้นในการซื้อขายหุ้น
“ผู้ถือหุ้นใหญ่ถูก Forced Sell ซึ่งเราไม่รู้ว่าจะหยุดเมื่อไหร่ เพราะเป็นพอร์ตที่เราไม่รู้ว่ามีมาร์จิ้น หรือจะถูก Call ที่เท่าไหร่ สิ่งเดียวที่ SABUY จะทำคือ พยายามเรียกความเชื่อมั่นให้ธุรกิจว่าจะเดินหน้าต่อไปได้” วิรัช มรกตกาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABUY ออกมาให้ข้อมูลกับสื่อในขณะนั้น
รวมทั้งกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยเอกสารรายงานแจ้งข้อเท็จจริง กรณีพบราคาของหลักทรัพย์ NRF และ NEX ลดลงอย่างมากจากช่วงก่อนหน้า โดยระบุว่า การที่ราคาหลักทรัพย์ปรับลดลงอย่างมากผิดปกติ กล่าวคือ ปรับลดลง Floor ต่อเนื่อง และบางวันไม่เหลือปริมาณ Bid ให้สามารถส่งคำสั่งขายได้ (Floor หมด Bid) และมีข่าวว่าการที่ราคาหลักทรัพย์ลดลงเกิดจาก Short sell และ Program trading ข้อเท็จจริง คือ
1. พบว่าผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนนำหุ้นไปเป็นหลักประกันกับบริษัทหลักทรัพย์ในจำนวนสูงเมื่อเทียบกับทุนจดทะเบียนชำระแล้ว (paid up) ณ เม.ย. 67 NEX และ NRF อยู่ที่ประมาณ 20% และ 38% ตามลำดับ
2. จากภาวะโดยรวมของตลาดในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับ fundamental ของบริษัทจดทะเบียน เช่น ผลประกอบการที่ลดลง หรือ P/E ติดลบ ส่งผลให้ราคาปรับลดลง จนแตะระดับต้องเรียกหลักประกัน Call และ Force sell หุ้นที่ผู้ถือหุ้นใหญ่นำมาวางเป็นหลักประกัน
3. ในช่วงที่ราคาปรับลดลง พบข้อมูล Short sell และ Program trading ดังนี้
กรณีของ NEX และ NRF เป็นกรณีเดียวกับหลายหลักทรัพย์ที่เกิดขึ้นช่วงก่อนหน้านี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงแจ้งข้อเท็จจริงเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน และสถานการณ์นี้ก็เกิดขึ้นกับ EA และ YGG เช่นเดียวกัน
สมโภชน์ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ไม่เพียงแต่สูญเสียมูลค่าตามราคาตลาดฯ เป็นหลักหมื่นล้านบาท ซึ่งไม่สำคัญเท่ากับผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท และผลกระทบต่อตลาดในภาพรวม
“ที่เราเคยเข้าใจกันว่า ตลาดหลักทรัพย์เป็นที่ระดมทุนให้กับบริษัท แต่สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ผมได้บทเรียนว่า การนำหุ้นไปค้ำประกันในสัดส่วนเพียงแค่ 3% ของทรัพย์สินทั้งหมด แต่พอเจอข่าวลือ ข่าวปล่อย และการทำ Short Sell เพื่อกดราคาหุ้นให้ต่ำ ซึ่งไม่สะท้อนผลการดำเนินงานของบริษัท ยังโดน Force Sell ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดทุนเป็นการทำลายธุรกิจ และขอให้ EA เป็นกรณีศึกษา และอย่าได้เกิดขึ้นกับใครอีกเลย”
ล่าสุด YGG เกิดปรากฎการณ์ร่วงติด Floor อย่างต่อเนื่องอีกระลอก ถือเป็นหุ้นที่ถูกจับตา เพราะเป็นหุ้นที่วางหุ้นค้ำประกันในตลาดหุ้นไทยมากถึง 54% ของหุ้นทั้งหมด และราคายังร่วงไม่หยุดหย่อน หลังถูก Program Trading กระหน่ำขายอย่างต่อเนื่อง และ CFO ได้แจ้งลาออกต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เรียบร้อย จุดจบจะเป็นอย่างไร ต้องติดตามต่อไป สิ่งสำคัญที่สุดคือนักลงทุนรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากมันนีเกมครั้งนี้ ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน