วันที่ 15-16 มิถุนายน ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้จัดอีเวนต์การลงทุนแห่งปี “SET in the City 2024” ขึ้น เพื่อให้คำแนะนำและวางแผนการลงทุนกับทั้งมือใหม่และมือเก๋า รวมถึงผู้ที่สนใจในการลงทุน ได้เข้าร่วมงานเพื่อหาโอกาสในตลาดหุ้น รวมถึงอัปเดตเทรนด์ลงทุนจากโบรกเกอร์ บลจ. และผู้เชี่ยวชาญมากมาย
Connect the dots มีโอกาสได้ไปฟังสัมมนามา จึงขอหยิบยกเรื่องของกองทุนรวม จากเวที “สแกนกองทุนรวม เทรนด์ฮิต ติดชาร์ต” ของคุณชยนนท์ รักกาญจนันท์ CEO และ Co-Founder ของฟินโนมีนา (Finnomena) ที่พูดถึงเรื่องของกองทุนรวมไว้ว่า กระแสกองทุนที่มีอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (Return On Equity) ที่ดีในช่วงนี้ ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เวียดนาม และเกาหลีใต้
จากการวิเคราะห์ของฟินโนมีนาเพิ่มเติม ทำให้ได้ข้อมูลว่าตลาดหุ้นจีนก็กำลังจะดีขึ้น และในอีกตลาดที่ได้รับการวิเคราะห์คือตลาดหุ้นฝรั่งเศสที่แม้เศรษฐกิจกำลังจะเริ่มมีปัญหา แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นแย่ลง ในส่วนของเศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อ ระบบเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะจีนและอินเดีย
แนะนำกองทุนรวม
- AI Theme การลงทุนเกี่ยวกับ AI
หลังจากที่ ChatGPT เปิดตัวไปไม่นาน และกำลังกลายเป็นกระแสดังไปทั่วโลก ก็ส่งผลให้ Artificial Intelligences หรือ AI กลายมาเป็นการลงทุนที่โดดเด่นที่สุดของปีนี้อย่างไร้คู่แข่ง AI จะเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตของคนเรา ต่อโลก และต่ออนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน โดย Bloomberg Intelligence ได้คาดการณ์ไว้ว่า Generage AI จะกลายเป็นตลาดที่มีมูลค่าถึง 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2032
กองทุนที่ทางฟินโนมีนาได้แนะนำในหมวดนี้ก็คือ กองทุนรวม TISCOAI
TISCOAI เป็นการลงทุนผ่านกองทุนหลัก Xtrackers AI and Big Data โดยจะคัดเลือกบริษัทที่มีสิทธิบัตรด้าน AI และ Big Data ทั้งหมด 88 บริษัทที่อยู่ในดัชนี Nasdaq Global Artificial Intelligence and Big Data (NYGBIG) เน้นหาหุ้นที่สร้างนวัตกรรมใหม่จากข้อมูลสิทธิบัตรใน 7 ธีม ได้แก่ Deep Learning, Image Recognition, Natural Language Processing (NLP) & Chatbots, Big Data, Cloud Computing และ Cybersecurity
ธีมการลงทุน : หาโอกาสลงทุนในหุ้นที่มีสิทธิบัตร AI และ Big Data โดยพิจารณาจากความแปลกใหม่และความโดดเด่นของสิทธิบัตร
จุดเด่น : ผลตอบแทนช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างโดดเด่น มีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตแต่ละครั้ง เพื่อรับโอกาสการเติบโตในเฟสถัด ๆ ไป
ความเสี่ยง : 6
- กองทุนที่ใช้ AI ในการซื้อ–ขายหุ้น (แต่หุ้นไม่ได้เกี่ยวกับ AI)
โดยกองทุนที่ทางฟินโนมีนาได้แนะนำในหมวดนี้ก็คือ กองทุนรวม UOBSA (UOB Smart Asia)
UOBSA (UOB Smart Asia) หรือ กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท เอเชีย เป็นกองทุนหุ้น Asia ex Japan ลงทุนในกองทุนหลัก United Asia Fund บริหารแบบ active โดยใช้ AI ช่วยคัดเลือกหุ้น เป็นกองทุนรวมตราสารทุน เน้นลงทุนแบบมีความเสี่ยงต่างประเทศในกลุ่ม Asia Pacific ex Japan ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน United Asia Fund มุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามกองทุนหลัก โดยกองทุนหลักใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรุก (active management)
ธีมการลงทุน : หาโอกาสลงทุนในหุ้นเอเชีย ผ่านกระบวนการคัดเลือกหุ้นโดย AI และ Machine Learning
จุดเด่น : มีการกระจายการลงทุนในกลุ่ม Emerging Asia ไม่หนักไปที่จีนเพียงประเทศเดียว มีการปรับพอร์ตการลงทุนตามสถานการณ์
ความเสี่ยง : ระดับ 6
- กองทุนรวม 1DIV
กองทุนเปิด ThaiDEX SET High Dividend ETF : 1DIV เป็นกองทุนที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด KGI และ บริษัทหลักทรัพย์อื่นๆ 5 แห่ง โดย 1DIV เป็นกองทุน Equity ETF กองที่ 5 ของไทย ประกอบด้วยหลักทรัพย์ที่มีขนาดมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูง (Market Capitalization) และมีสภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอ
ธีมการลงทุน : ลงทุนในหุ้นไทยปันผล ที่อ้างอิงกับดัชนี SET High Dividend ETF
จุดเด่น : มีสภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอ และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง
ความเสี่ยง : 6
ทั้งนี้ทั้งนั้นการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน