เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ออกมาแถลงถึงการประชุมคณะกรรมการ ว่า ตลท. มีมติเป็นเอกฉันท์เลือก “นายอัสสเดช คงสิริ” ให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการและผู้จัดการ คนที่ 14 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะเริ่มงานในวันที่ 1 สิงหาคม 2567 เพื่อเตรียมการก่อนเข้ารับตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 กันยายน 2567
โดย นายอัสสเดช เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถและมีความเชี่ยวชาญตลาดทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ รวมทั้งด้านการเงินเป็นอย่างดี มีประสบการณ์การทำงานกับองค์กรชั้นนำในตลาดทุนและองค์กรระดับสากลกว่า 30 ปี รวมถึงมีประสบการณ์ในด้านวาณิชธนกิจ เคยเป็นที่ปรึกษาทางการเงินแก่ธุรกิจหลากหลายทั้งในและนอกประเทศ และล่าสุดทำงานในตำแหน่ง Lead Partner for Financial Advisory ให้กับ Deloitte Thailand ซึ่งเป็นหนึ่งใน ‘Big4’ ของประเทศไทย เคยดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ฟินันซ่า จำกัด โดยได้สร้างผลงานที่โดนเด่นอย่างการเสนอแผนจัดหาเงินทุนแปลงหนี้เป็นทุน หรือเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเดิม หรือเปิดรับทุนจากพันธมิตรใหม่ ส่งผลให้ได้ร่วมงานกับกระทรวงการคลัง และศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษากฎหมายของ THAI และปัจจุบันได้รับเลือกเป็นประธาน ตลท. คนปัจจุบันเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2567 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังเคยเป็น Head of Thailand ที่ Bank of America Merrill Lynch และ VP Investment Banking ที่ J.P. Morgan ประเทศไทย รวมทั้งเคยมีประสบการณ์ทำงานด้านการเงินในบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ ที่ บมจ. ปตท. ในส่วนบทบาทในองค์กรภาคสังคม คือ รองประธานกรรมการมูลนิธิหมอเสม พริ้งพวงแก้ว อีกด้วย
ด้วยความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่หลากหลายของนายอัสสเดช ทำให้ทางคณะกรรมการเล็งเห็นถึงศักยภาพและเชื่อมั่นว่าจะผลักดันนโยบายต่าง ๆ ของตลากหลักทรัพย์ฯ ให้เดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว จึงมีความเห็นตรงกันที่จะให้ นายอัสสเดช คงสิริ ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการ คนที่ 14 แทน นายภากร ปีตธวัชชัย ที่จะครบวาระตำแหน่งในกลางเดือน มิ.ย.นี้
โดยประธาน ตลท. ได้ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าวไว้ว่า ผู้ที่จะมารับตำแหน่งนี้นั้นถือว่า “มีความท้าทายอย่างมาก” จึงต้องมีทั้งความกล้า วิสัยทัศน์ เข้าใจในตลาดทุน รวมถึงต้องสามารถสื่อสารกับภายนอกและขายของได้
นายอัสสเดช คงสิริ ที่มีคุณสมบัติดังกล่าว จึงมีความเหมาะสมที่จะได้รับตำแหน่งคณะกรรมการและผู้จัดการ คนที่ 14 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย