ขายบ้านพ่วง EV Charging ปัจจัยเด่นการตัดสินใจซื้อยุคใหม่

มากกว่า ดีไซน์ ราคา ทำเลที่ตั้ง และสิ่งอำนวยความสะดวก ใกล้ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล จุดขายของโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมยุคนี้ต้องยกให้ EV Charging โครงการไหนมีสามารถดึงดูดใจลูกค้าได้มาก แต่ถ้าโครงการไหนขาดก็เป็นหน้าที่ของพนักงานขายที่คอยตอบคำถามลูกค้า

ทำไม EV Charging มีความสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อบ้านและคอนโดของผู้บริโภคยุคนี้

• ค่าน้ำมัน ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ภาครัฐปรับลดการอุดหนุนราคาพลังงาน และผลจากราคาน้ำมันโลกที่ผันผวนอย่างหนักจากความไม่สงบในต่างประเทศ เช่น รัสเซีย ยูเครน
• สถานการณ์ภาวะโลกร้อนที่รุนแรง ทำให้ทุกคนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม และหาวิธีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
• กระแสการใช้รถพลังงานสะอาดยังแรงไม่หยุด เพราะได้ประโยชน์ประหยัดเงินในกระเป๋าที่ต้องจ่ายค่าน้ำมัน และช่วย Save โลกได้ด้วย
• สะท้อนจากยอดจดทะเบียนรถไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) 100% ในไทย ปี 2566 มากถึง 76,314 คัน คิดเป็นอัตราเติบโต กว่า 600% จากปี 2565
• ttb analytics ประเมินยอดขายรถ EV มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยปีละ 28.8% (CAGR 2566-2573)

ttb analytics ประเมินว่า จุดชาร์จรถ EV สาธารณะทั่วประเทศสะสมทั้งแบบ AC และ DC จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 29.1%
ขณะที่ Electric Power Research Institute รายงานการศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้รถ EV กว่า 80% ชาร์จที่บ้าน และอีก 20% ชาร์จนอกบ้าน

แม้จะมีจุดให้บริการชาร์จไฟสาธารณะทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงในหัวเมืองต่างจังหวัด แต่ก็ยังเป็นปัญหากวนใจให้กับผู้ใช้รถ ทั้งกรณีที่จุดชาร์จไม่เพียงพอกับความต้องการ และ ระยะเวลาการต่อคิวรอชาร์จที่นาน

จุดชาร์จรถ EV ของต้องมีในโครงการ
จำนวนรถไฟฟ้าที่ขยายตัวอย่างมาก ทำให้ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา หลายโครงการอสังหาฯ เริ่มขยับเข้ามาให้บริการจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งเพื่อตอบสนองความต้องการ และ เป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กสำคัญที่ดึงดูดความสนใจลูกค้านอกจากจุดขายหลักด้านแบบบ้าน ราคา ส่วนกลาง และอื่น ๆ

ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น บริษัทด้านวิจัยและพัฒนาในเครือ แอล. พี. เอ็น. สะท้อนแนวโน้มการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันและอนาคต จำเป็นต้องมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในโครงการ ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตพลังงานที่เกิดขึ้น และการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน

นอกจากนี้ มีอีกหลายบริษัทฯ ที่ประกาศจุดยืนชัดเกี่ยวกับเรื่องนี้ พร้อมแผนติดตั้ง EV Charging ไว้อย่างชัดเจน

บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด หรือ LPP ที่ร่วมกับ ซลีปชาร์จ (ZLEEPCHARGE) นำร่องพัฒนาจุดชาร์จรถ EV สำหรับโครงการที่ LPP รับบริหารโครงการ เพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพการใช้ชีวิต และ ไลฟ์สไตล์ของสังคมเมือง รวมทั้งช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน

ในปี 2566 ติดตั้งสถานีชาร์จไปแล้วจำนวน 7 โครงการ จำนวน 14 เครื่องชาร์จ และเตรียมติดตั้งให้ครบ 20 โครงการ ในปี 2567

บมจ. แสนสิริ จับมือเป็น Strategic Partner กับ ชาร์จ แมเนจเม้นท์ (SHARGE) ติดตั้ง EV Charging Station ในโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริ

เริ่มติดตั้งแล้วกับโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 95 หัวชาร์จ (50 เครื่อง) ใน 28 โครงการ และโดยกำหนดเป้าหมายขยายการติดตั้ง EV Charging Station ให้ได้ประมาณ 1,500 เครื่อง ภายใน 3 ปี

ด้าน บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หรือ เอสซี แอสเสท ดึง บริษัท อรุณ พลัส จำกัด ในเครือ ปตท. ติดตั้ง EV Charging Station ในโครงการที่พัฒนา เช่น โครงการ เรฟเฟอเรนซ์ สาทร-วงเวียนใหญ่ (Reference Sathorn-Wongwianyai)

บมจ. ออริจิ้น ที่นำระบบ EV Charger เข้ามาติดตั้งในโครงการคอนโดมิเนียม เพื่อรองรับการใช้งานของลูกบ้าน เริ่มไปแล้วที่ พาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี , พาร์ค ออริจิ้น พญาไท และ เดอะออริจิ้น รามอินทรา 83

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายดีเวลอปเปอร์ที่เดินหน้ากับการติดตั้ง EV Charger ในโครงการ ทั้ง บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ที่วางระบบ EV Charger ในหลายโครงการ ได้แก่ เสนา พาร์ค แกรนด์ รามอินทรา และ เสนา แกรนด์ โฮม รังสิต – ติวานนท์ เป็นต้น ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียม เริ่มที่แบรนด์ Niche MONO

ด้าน บมจ.พฤกษา ที่ทำการติดตั้งชาร์จรถไฟฟ้าไปแล้ว เช่นที่เดอะ ทรี พัฒนาการ แชปเตอร์ เจริญนคร-ริเวอร์ไซด์

เทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ขยายตัวไม่หยุด ทำให้ดีเวลอปเปอร์หันมาโฟกัสเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะไม่ใช่แค่บ้านและทำเลที่ลูกค้าใส่ใจ แต่ยังรวมไปถึงมิติด้านสิ่งแวดล้อม พื้นที่สีเขียว สวนส่วนกลาง และจุดชาร์จรถไฟฟ้า ที่จะเข้ามาเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านและคอนโดต่อจากนี้