ในทุกวันนี้ หรือจริง ๆ ก็อาจจะเป็นมาตลอด ในที่ทำงานเรามักเจอปัญหาที่น่าอึดอัดใจอย่าง Generation Gap ที่ทำให้คนต่างวัยในองค์กรไม่เข้าใจกัน จนเป็นประเด็นที่หลายองค์กรพยายามหาทางแก้ไข ถึงขนาดเป็นจุดขายให้กับบางที่ได้ แต่หากไม่ได้ใส่ใจที่จะเปิดโอกาสและรับฟังคนรุ่นใหม่อย่างจริงจัง ก็อาจเป็นเพียงแค่ Youthwashing หรือการเอาคนรุ่นใหม่มาเป็นจุดขายในองค์กรเท่านั้น
Session: Overcome the Generation Gap in Leadership ในงาน People Performance Conference 2024 โดย พริษฐ์ วัชรสินธุ์ สส. บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล จึงได้แนะนำ 3 Steps และ 7 คุณสมบัติสำหรับผู้นำในปัจจุบัน เพื่อการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่และก้าวข้าม Generation Gap เอาไว้ดังนี้
3 Steps
Step1: ได้ยิน
ขั้นแรกต้องได้ยินเสียงของเขาก่อน เป็นการเริ่มเปิดโอกาสให้กับความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่
Step2: รับฟัง
สิ่งที่สำคัญกว่าการได้ยินคือเราต้องฟังเสียงของเขาจริง ๆ รับฟังในสิ่งที่เขาต้องการสื่อสารและทำความเข้าใจ
Step3: ให้มีส่วนร่วม
สุดท้ายแล้วเหนือกว่าการได้ยินและรับฟัง คือการเปิดโอกาสให้เขาได้มีส่วนร่วมอย่างมีความหมาย
คุณพริษฐ์ยังแนะนำว่าหากต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ลองทำอะไรที่แตกต่าง แต่กลัวว่าจะต้องเจอกับความผิดพลาด กระทบองค์กร ก็อาจลองเปิดโอกาสให้ในงานที่แบกรับความเสี่ยงน้อยกว่า และหากเกิดความผิดพลาดอะไรเขาก็จะได้เรียนรู้ในแบบที่คนรุ่นก่อนเคยเจอมา
ส่วน 7 คุณสมบัติที่ผู้นำยุคปัจจุบันควรมีในการก้าวข้าม Generation Gap คือ
1.ฟังให้กว้าง
ปัจจุบันแต่ละคนมีความเห็นที่แตกต่างกันมากขึ้น และใน Socia Media เราจะพบความคิดเห็นที่หลากหลาย จึงควรฟังให้กว้างเพื่อได้ฟังความเห็นที่หลากหลายจริง ๆ
2.พูดให้ชัด
ในฐานะผู้นำทุกคำพูดของเรามีความหมาย อาจถูกตีความและใช้ในหลากหลายบริบท ต้องพูดให้ชัดเพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกันมากที่สุด
3.ทำให้ดู
ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการเป็นผู้นำ หากเราสามารถลงมือทำให้เขาเห็นได้มากกว่าแค่บอกว่าทำอะไรได้บ้าง ก็จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย
4.ยืดหยุ่นให้ได้
โลกนี้มีแต่ความไม่แน่นอน อย่างการมาถึงของโควิด ที่กระทบทุกธุรกิจ ควรปรับตัวให้ยืดหยุ่นอยู่ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
5.ตามให้ทัน
โลกหมุนเร็วมาก ควรทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว เพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และตามกระแสโลกให้ทัน
6.นำให้เป็น
แน่นอนว่าการเป็นผู้นำก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของคนหมู่มาก แต่จะทำทุกอย่างตามที่ทุกคนต้องการเลยไม่ได้ ต้องรวบรวมข้อมูลมาไตร่ตรอง และคิดถึงการตัดสินใจในสิ่งที่ดีที่สุดให้ได้ด้วย
7.ลุกให้เร็ว
ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดคือเวลา เมื่อล้มแล้วลุกได้เร็วจะได้เอาเวลาไปทำสิ่งใหม่ สภาพจิตใจเองก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้วิ่งต่อไปได้ไกลขึ้น ไม่ใช่แค่วิ่งได้เร็วเท่านั้น