CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: YLG ชี้ทองคำยังรักษาเทรนด์ขาขึ้น หลังพุ่งทำจุดสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ 2,234 ดอลลาร์ต่อออนซ์รับโมเมนตัมแกร่ง เฟดเริ่มวงจรดอกเบี้ยขาลงปีนี้ บวกปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์เสริม
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Investment > YLG ชี้ทองคำยังรักษาเทรนด์ขาขึ้น หลังพุ่งทำจุดสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ 2,234 ดอลลาร์ต่อออนซ์รับโมเมนตัมแกร่ง เฟดเริ่มวงจรดอกเบี้ยขาลงปีนี้ บวกปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์เสริม
InvestmentNews

YLG ชี้ทองคำยังรักษาเทรนด์ขาขึ้น หลังพุ่งทำจุดสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ 2,234 ดอลลาร์ต่อออนซ์รับโมเมนตัมแกร่ง เฟดเริ่มวงจรดอกเบี้ยขาลงปีนี้ บวกปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์เสริม

CTD admin
Last updated: 2024/03/29 at 11:29 AM
CTD admin Published March 29, 2024
Share

วายแอลจีประเมินทองคำยังรักษาทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดราคาพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลอีกครั้งที่ระดับ 2,234 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์  เหตุโมเมนตัมยังแข็งแกร่ง ปัจจัยพื้นฐานยังหนุน รวมไปถึงนักลงทุนมีความกังวลประเด็นความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มากขึ้น  พร้อมแนะนำนักลงทุนหากมีกำไรควรขายออกไปก่อน เหตุทุกครั้งที่ทองคำปรับขึ้นรอบใหญ่จะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา ส่งผลระยะสั้นอาจย่อตัวสลับลงบ้าง แต่ภาพระยะยาว 2-3 ปี เทรนด์ยังแข็งแกร่ง ตามแนวโน้มเฟดวงจรดอกเบี้ยขาลง ซึ่งหลังจากนั้นจะอยู่ในระดับต่ำไปอย่างน้อย 2-3 ปี  พร้อมแนะแนวรับที่ 2,144-2,075 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวต้านที่ 2,266-2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์  ทองไทยมองกรอบแนวรับที่ 36,600-35,500 บาทต่อบาททองคำ แนวต้านที่ 38,750-39,300 บาทต่อบาททองคำ  เผยปีนี้การเทรดผ่านฟิวเจอร์สมาแรง วายแอลจีเพิ่มช่องทางลงทุนผ่าน Tradingview เพิ่มการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก รู้ทันทุกจังหวะการลงทุน

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดตลอดกาลอีกครั้งที่ระดับ 2,234 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ณ วันที่ 28 มี.ค. 2567  ส่งผลให้นับจากต้นปี หรือในไตรมาสที่ 1/2567 ราคาทองคำปรับขึ้นมาแล้วกว่า 8% ซึ่งการปรับขึ้นมาในรอบนี้ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มเกิดความไม่มั่นใจว่าราคาทองคำขึ้นมาสูงจนจะเป็นภาวะฟองสบู่หรือไม่ ในกรณีนี้หากวิเคราะห์ตามปัจจัยพื้นฐานจะเห็นว่า การปรับตัวขึ้นมาของทองคำในตลาดโลกในภาพใหญ่ปรับตัวมาอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยพื้นฐานนับจากการระบาดของโควิด -19 และต่อเนื่องมาจากปัจจัยหนุนด้านภูมิรัฐศาสตร์หลายพื้นที่ อาทิ ในตะวันออกกลาง จากอิสราเอล-ฮามาส และทะเลแดง  รวมไปถึง รัสเซีย-ยูเครน  นอกจากนี้ ทางการจีนที่ได้ตั้งเป้าเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม 7.2% สู่ระดับ 1.67 ล้านล้านหยวนในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นด้วยอัตราสูงสุดในรอบ 5 ปี  สถานการณ์เช่นนี้ ส่งเสริมให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น  เมื่อทองคำย่อตัวลง จึงเป็นแรงซื้อทองคำที่เข้ามาคอยช่วยให้ราคายกระดับต่ำสุดขึ้น  และแน่นอนว่าจะได้ปัจจัยหนุนหลักมาจากการเข้าสู่วงจรดอกเบี้ยขาลงของเฟดอย่างเต็มรูปแบบในปีนี้

อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นนี้ทองคำยังมีความเสี่ยง เนื่องด้วยราคาที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างไกลแล้ว จึงอาจเกิดแรงขายสลับเข้ามาได้  โดยในส่วนของแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายจากเฟดนั้น หากพิจารณาข้อมูลในรายงานประมาณภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ในเดือน มี.ค. อย่างถี่ถ้วน พบว่า สำหรับปี 2567 มีการปรับขึ้นของคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อสหรัฐ แต่ทำการปรับลดอัตราการว่างงานลง นอกจากนั้น แม้ว่าคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (Dot Plot) จะอยู่ที่การลดดอกเบี้ยได้ 3 ครั้งเท่าเดิมในปีนี้ แต่มีการปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปี 2568 และ 2569  ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มระดับอัตราดอกเบี้ยที่อาจคงไว้ที่ระดับสูง ทำให้นักลงทุนยังคงไม่วางใจต่อแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในรอบนี้ที่ชี้ว่า เฟดยังไม่อาจสามารถระบุถึงช่วงเวลาในการเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้


ดังนั้นแล้ว ในระยะสั้นทองคำอาจมีความเสี่ยงอยู่บ้าง จากทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐรวมไปถึงอัตราเงินเฟ้อ ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับแรงขายทำกำไรเมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง  อย่างไรก็ดี ในระยะถัดไปแม้ราคาทองคำอาจมีช่วงปรับฐานลงมาบ้าง แต่จะมีแรงซื้อเข้ามาพยุงในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และหากกลางปีนี้เฟดทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และคงนโยบายดอกเบี้ยต่ำไปอีก 2-3 ปี วายแอลจีจึงมั่นใจว่าภาพใหญ่ของทิศทางทองคำในปีอีก 2-3 ปี จะยังเป็นเทรนด์ขาขึ้น  

อย่างไรก็ดีวายแอลจีแนะนำว่าหากนักลงทุนที่มีทองคำอยู่ในมือและมีกำไรในช่วงนี้ควรแบ่งขายทำกำไร เนื่องจากปกติหากทองคำปรับขึ้นรอบใหญ่จะต้องมีการขายทำกำไรออกมาทุกครั้ง ดังนั้นในระยะสั้นราคาทองคำอาจจะปรับตัวลดลงมาก่อน แต่ระยะยาวยังคงรักษาทิศทางขาขึ้นไว้ได้ โดยให้แนวรับที่ 2,144-2,075 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แนวต้านที่ 2,266-2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ส่วนราคาทองคำในประเทศมองแนวรับที่ 36,600-35,500 บาทต่อบาททองคำ แนวต้านที่ 38,750-39,300 บาทต่อบาททองคำ  (คำนวณด้วย ค่าเงินบาท 36.02 บาทต่อดอลลาร์  *อัตราถัวเฉลี่ยย้อนหลัง 4 สัปดาห์*)

ปัจจุบันนักลงทุนนิยมลงทุนทองคำในรูปแบบการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) โดยมี ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เติบโตอย่างรวดเร็วเนื่องจากตลาดฟิวเจอร์สเป็นการเข้าถึงการเทรดในตลาดระดับโลก เช่นการซื้อขายผ่าน Tradingview ด้วยบัญชี YLG Futures ที่นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนฟิวเจอร์สในตลาด CME Group ตลาดฟิวเจอร์สอันดับหนึ่งของโลกจากสหรัฐฯ ที่มีสินค้าที่สำคัญต่อเศรษฐกิจโลกครอบคลุม ทองคำ น้ำมันดิบ ดัชนีหุ้นสหรัฐ สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง  อีกทั้ง สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชม. ไม่เว้นวันหยุดของประเทศไทย  ซึ่งจุดเด่นของการลงทุนทองคำในฟิวเจอร์สคือสามารถลงทุนได้ทั้งในช่วงตลาดขาขึ้นและขาลง

You Might Also Like

ครบ 2 ทศวรรษของการเปลี่ยนแปลง บ้านปู x มหิดล ส่งเยาวชนลุยภารกิจ “ลดคาร์บอนให้โลกคูลล์” ใน Power Green Camp ครั้งที่ 20 

“เอกา โกลบอล” ประเมินธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร รับมือนโยบาย ‘ทรัมป์’

ราคาทองพุ่งทยาน! ทองรูปพรรณ ขายออก 55,500 บาท

บ้านปู ชวนร่วมงาน “ดีค้าบ เฟสติวัล” ฉลอง 20 ปี Power Green Camp 2-3 พ.ค. นี้ ที่อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ

TAGGED: การลงทุน, ทองคำ, ราคาทอง, ลงทุน, เศรษฐกิจ

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin March 29, 2024
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article Merkel Capital งัดกลยุทธ์ M-Next ทางเลือกสำหรับการลงทุนในโทเคนดิจิทัล
Next Article Adidas แพ้คาบ้าน! เสียทีมชาติเยอรมนีให้ Nike สิ้นสุดดีลประจำชาตินานกว่า 70 ปี 
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?