เผยปี 66 รายได้จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายกองทุนเติบโต 424% ปี 67 คาดโต 100%
บลจ.เอ็กซ์สปริง (XSpring) เปิดสถิติ 5 ประเภทกองทุนรวมที่ได้รับการตอบรับดีสุด ผ่านธุรกิจการเป็นตัวแทนจำหน่ายปี 2566 พบ กองทุน US Growth Equity มาแรงสุด ตามด้วย Global Blockchain และ China Equity
เชื่อปี 2566 ตลาดหุ้นไทยปัจจัยกดดันรุมเร้าจะส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนหันลงทุนผ่านกองทุน คาดปี 2567 รายได้จากธุรกิจการเป็นตัวแทนจำหน่ายกองทุนเติบโตต่อเนือง หลังได้รับใบอนุญาต LBDU ตั้งแต่ปี 2565 ลูกค้าเริ่มรับรู้บริการดีแบบ Personalized ทำให้เกิดการบอกต่อ
อีกทั้งมีพันธมิตรถึง 17 บลจ. มีทางเลือกหลากหลายให้นักลงทุน ส่งผลรายได้เติบโต 424% คาดปี 67 โตได้อีก 100% พร้อมคาดปีนี้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นเหตุราคาหุ้นต่ำ และมีลุ้นเงินทุนไหลออกจากสหรัฐฯหลังบอนด์ยิลด์เริ่มลด มองกรอบดัชนีหุ้นไทยที่ระดับ 1,350-1,480 จุด
นายยศกร ฟอลเล็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด หรือ XSpring AM (Mr. Yodsakorn Follett Chief Executive Officer, XSpring Asset Management Company Limited) เปิดเผยว่าในปี 2566 ที่ผ่านมาจากการสำรวจธุรกรรมผ่านธุรกิจการเป็นตัวแทนจำหน่ายกองทุนรวม (LBDU: Limited Broker Dealer Underwriter) พบว่าพฤติกรรมผู้ซื้อกองทุนรวมในปี 2566 ยังคงเติบโตจากปีก่อน โดย XSpring AM มียอดขายจากส่วนนี้เติบโต 424%
ทั้งนี้พบว่ากองทุนที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนของ XSpring AM มากที่สุด 5 ประเภทได้แก่กองทุนประเภท
1. US Growth Equity
2. Global Blockchain
3. China Equity
4. Global Energy
5. Vietnam Equity
*ข้อมูลการซื้อขายกองทุนรวม บลจ.เอ็กซ์สปริง ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 66)
โดยมองว่าปัจจัยสนับสนุนให้กองทุน 5 ประเภทดังกล่าวได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากปีที่ผ่านมา ภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคค่อนข้างถูกกดดันจากหลากปัจจัย จึงส่งผลให้นักลงทุนส่วนหนึ่งโยกเงินลงทุนมาไว้ที่กองทุนหุ้นสหรัฐฯซึ่งเป็นกลุ่มที่เติบโตสูง เพื่อกระจายความเสี่ยงพอร์ตลงทุน
โดยมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพเป็นผู้บริหาร นอกจากนี้การลงทุนในสินทรัพย์ใหม่ๆ เช่น Digital Blockchain รวมถึง Advance AI ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง รวมถึงกองทุนหุ้นต่างประเทศ อย่างกองทุนหุ้นจีนและเวียดนาม ก็มีกองทุนที่สามารถให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีได้
ทั้งนี้มองว่าในปี 2567 แม้ภาพรวมตลาดหุ้นไทยจะยังคงผันผวน และต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่ก็ถือว่ายังมีโอกาสที่จะกลับมาได้ เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มปรับตัวลดลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้เงินไหลออกจากสหรัฐไปยังภูมิภาคอื่นๆ รวมถึงตลาดหุ้นไทยก็มีโอกาสที่เม็ดเงินลงทุนจะไหลกลับมาเพราะราคาหุ้นไทยถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับหลายๆประเทศ โดยคาดว่าในปีนี้ดัชนีหุ้นไทยน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,350-1,480 จุด
ส่วนภาพรวมธุรกิจการเป็นตัวแทนจำหน่ายของ XSpring AM ปีนี้ในส่วนของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายกองทุนนั้น ตั้งเป้าเติบโต 100% เนื่องจากนักลงทุนเริ่มรับรู้การได้รับใบอนุญาต LBDU ของ XSpring AM ที่ได้รับมาตั้งแต่ปี 2565 มากขึ้น
อีกทั้งผลงานการให้บริการในรูปแบบการให้คำแนะนำการบริหารจัดการความมั่งคั่งกับลูกค้าแบบ Personalized นั้นก็ทำให้ลูกค้าเกิดการบอกต่อ นอกจากนี้ปัจจุบัน XSpring AM ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายกองทุนให้พันธมิตรกับ 17 แห่ง การที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ XSpring AM จึงเป็นเสมือน One Stop Service ที่มีบริการให้เลือกหลากหลาย
คำเตือน: ผลการดำเนินงานในอดีต ผลการเปรียบเทียบ และผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต นักลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน