หากพูดถึงสินค้าสักอย่างของไทยที่ประสบความสำเร็จในระดับโลกแล้ว เชื่อว่าแบรนด์แรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงคือ ‘Red Bull’ เครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่งของโลก สัญชาติไทย-ออสเตรเลีย ในมือของมหาเศรษฐีไทยอย่าง ‘เฉลิม อยู่วิทยา’ ผู้เติบโตมากับ ‘กระทิงแดง’
คุณเฉลิมคือทายาทตระกูลอยู่วิทยา เป็นลูกชายของผู้ให้กำเนิดกระทิงแดงอย่าง ‘เฉลียว อยู่วิทยา’ ภายใต้การดำเนินการของ ‘หจก. ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล’ ซึ่งหลังจากตีตลาดในไทยได้สำเร็จด้วยรสชาติที่ดีกว่าเครื่องดื่มชูกำลังอื่น ๆ ในตลาดช่วงนั้น ก็ได้ต่อยอดขยายสธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยเริ่มที่สิงคโปร์ ในปี 2521 ในชื่อแปลภาษาอังกฤษตรง ๆ อย่าง ‘Red Bull’ แต่ยังไม่ใช่ Red Bull เดียวกับที่เรารู้จักในปัจจุบัน
จนกระทั่ง ‘ดีทริช เมเทสซิทซ์ (Dietrich Mateschitz)’ นักการตลาดชาวออสเตรียมีโอกาสเดินทางมายังประเทศไทย และพอได้ลองเครื่องดื่มกระทิงแดงก็หายจากอาการเจ็ตแล็กเป็นปลิดทิ้ง และเห็นว่าในยุโรปยังไม่มีเครื่องดื่มประเภทนี้มากนัก จึงสนใจนำกระทิงแดงไปทำตลาดในโซนยุโรป และได้ร่วมทุนกับคุณเฉลียว ก่อตั้ง บริษัท เรดบูล จีเอ็มบีเอช (Red Bull GmbH) ในปี 2527 เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่ม Red Bull ในกว่า 70 ประเทศทั่วโลกในตอนนั้น โดยคุณเฉลียวถือหุ้น 49% คุณดีทริชถือ 49% และอีก 2% เป็นของคุณเฉลิม และหลังจากที่คุณเฉลียวเสียชีวิตในปี 2555 คุณเฉลิมก็เข้ามาถือหุ้นของ Red Bull รวม 51% นั่นทำให้เราอาจพอพูดได้ว่า Red Bull เป็นแบรนด์สายเลือดไทยที่ได้สัญชาติออสเตรเลีย
ในตอนแรกที่ Red Bull ทดลองตลาดฝั่งยุโรป เขาพบว่ารสชาติมันยังไม่โดนใจคนฝั่งนั้นนัก ทั้งกินแล้วยังรู้สึกเหนียวคออีกด้วย ภายหลังจึงได้ปรับสูตรแก้รสชาติ เพิ่มโซดาเข้าไปให้ดื่มง่ายขึ้น และกลายเป็นที่นิยมหลังออกจำหน่ายในปี 2530
สิ่งที่หลายคนสับสนคือ กระทิงแดง กับ Red Bull ว่าสรุปแล้วมันแบรนด์เดียวกันไหม คำตอบก็คือ “ไม่” แม้จะมีต้นกำเนิดมาจากคุณเฉลียวเหมือนกัน แต่ทั้งสองแบรนด์จัดว่าเป็นคนละแบรนด์ มีตลาดและกลุ่มลูกค้าต่างกัน และดำเนินการโดยคนละบริษัท
กระทิงแดงผลิตและจัดจำหน่ายโดยกลุ่มธุรกิจ TCP ซึ่งมี ‘สราวุฒิ อยู่วิทยา’ พี่น้องต่างแม่ของคุณเฉลิม เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เน้นกลุ่มผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อต่ำกว่า เพราะมีราคาที่ไม่สูงนัก เน้นผู้ใช้แรงงานหรือพนักงานที่ต้องการแรงฮึดเพื่อลุยงานต่อ เน้นขายในไทยและโซนเอเชีย ซึ่งนอกจากนี้กลุ่มธุรกิจ TCP ยังมีสินค้าในเครืออีกมาก ทั้ง Red Bull (เวอร์ชันของไทย) Ready เครื่องดื่มเกลือแร่ Sponsor เครื่องดื่ม Man Some ฯลฯ
ส่วน Red Bull GmbH ที่อยู่ในมือของคุณเฉลิม และหุ้นส่วนต่างประเทศ เน้นการทำตลาดโลกและฝั่งยุโรป เจาะกลุ่มนักกีฬาเอ็กซ์ตรีม และกลุ่มวัยรุ่นมากกว่า และราคาก็สูงกว่าผลิตภัณฑ์ของกระทิงแดงหลายเท่า ซึ่งราคาจำหน่ายในไทยของ Red Bull อยู่ที่ 65 บาทเลย ในขณะที่กระทิงแดงขายขวดละ 12 บาท
ในปัจจุบันนี้ Red Bull จัดเป็นเครื่องดื่มชูกำลังที่ขายดีที่สุดในโลก ปีล่าสุด 2022 ขายไปแล้วกว่า 11,582 ล้านกระป๋อง ใน 171 ประเทศ กวาดรายได้ไปกว่า 9,684 ล้านยูโร หรือกว่า 374,000 ล้านบาท และแม้ว่าตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาจะถูกบริหารโดยชาวต่างชาติ แต่ก็ต้องยกเครดิตให้กับต้นกำเนิดจากไทยอย่างกระทิงแดงจริง ๆ
ไม่ใช่แค่ผุ้ถือหุ้นใหญ่ของ Red Bull เท่านั้น แต่คุณเฉลิมยังเป็นผู้ก่อตั้ง ‘สยาม ไวเนอรี่’ ในปี 2525 ด้วย ซึ่งผลิตและจำหน่าย ‘สปาย ไวน์คูลเลอร์’ ที่ขายดีกว่า 180 ล้านขวดต่อปี เป็นที่นิยมมากในกลุ่มผู้บริโภคหญิง หลังจากนั้นก็ได้เปิดตัว ‘มอนซูน แวลลี่ย์’ ในปี 2545 ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “New Latitude Wines” ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากล และกลายเป็นผู้ผลิตไวน์แถวหน้าในเอเชียด้วย
และนอกจากธุรกิจเครื่องดื่มแล้ว คุณเฉลิมยังถือหุ้นและบริหารงานในอีกหลายบริษัท
จะเห็นได้ว่าความมั่งคั่งของคุณเฉลิม อยู่วิทยา เป็นผลมาจากธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่งอย่าง Red Bull เป็นหลัก แต่นอกจากนั้นก็ยังมีธุรกิจไวน์ที่เขาตั้งใจปั้นขึ้นมากับมือเหมือนกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยความสำเร็จของธุรกิจเหล่านี้ก็ทำให้คุณเฉลิมอยู่วิทยา ร่ำรวยเป็นอันดับ 2 ของไทย ด้วยทรัพย์สินรวมกว่า 1.16 ล้านล้านบาท