หนึ่งในธีมการลงทุนที่มาแรงในช่วงที่ผ่านมาคือกระแสของปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ โดยผู้นำคือ ChatGPT ที่สามารถทำงานได้หลากหลายประเภทไม่ต่างจากมนุษย์ จนทำให้หุ้นของ Microsoft ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ปรับตัวขึ้น ตามมาด้วย Alphabet ที่ประกาศท้าชิงในสนามเอไอด้วยการเปิดตัว Bard ซึ่งเป็นปัญญาประดิษ์ที่ซุ่มพัฒนามาระยะหนึ่งแล้ว
•
แต่หุ้นที่ได้ผลบวกมากที่สุดน่าจะเป็น Nvidia ผู้ผลิตการ์ดประมวลผลที่ได้รับประโยชน์เต็มๆจากการมาของเอไอเนื่องจาก GPU คือฮาร์ดแวร์สำคัญที่ใช้ในการขับเคลื่อนการประมวลผลเอไอที่ต้องใช้หน่วยความจำที่สูงกว่าอุตสาหกรรมอื่น ทำให้ในที่สุด Nvidia ก็สามารถเข้าสู่บริษัทที่มีมูลค่าตลาดหนึ่งล้านล้านดอลลาร์ได้ในที่สุด
•
รวมถึงหุ้นขนาดกลางอื่นๆที่ปรับตัวขึ้นจากการมาของกระแสเอไออย่างเช่นหุ้น C3 AI บริษัทซอฟท์แวร์ที่ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านเอไอกับบริษัทอื่นราคาหุ้นพุ่งกว่า 20% ภายในคืนเดียวหลังจากประกาศว่าจะพัฒนา Generative AI ของตัวเอง เช่นเดียวกับหุ้นในกลุ่มอื่นๆอย่างเช่น Adobe ราคาหุ้นก็ปรับตัวขึ้นจากการที่ประกาศนำเอไอเข้ามาใช้ในการสร้างงานอัตโนมัติให้กับลูกค้า
•
นายณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุน และคอลัมนิสต์จาก Connect the Dots ชี้ ความร้อนแรงของเอไอมีส่วนผลักดันให้ดัชนี NASDAQ สร้างผลตอบแทนได้มากกว่า 30% ตั้งแต่ต้นปี ทำให้ค่าเฉลี่ย P/E สูงกว่าระดับปกติ ถือได้ว่าเข้าข่ายที่ราคาหุ้นแพงไปแล้ว ประกอบกับดัชนีชี้วัดแสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นใน NASDAQ ปรับตัวขึ้นมากกว่าคาดการณ์ของผลประกอบการไปแล้ว
สิ่งเหล่านี้กำลังบอกว่าฟองสบู่ของหุ้นเอไอกำลังเกิดขึ้นแล้วใช่หรือไม่??
•
ในมุมมองของผม มีความเป็นไปได้ว่ากระแสของเอไอกำลังอยู่ในช่วง Hive ทำให้เกิดแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มนี้เข้ามาหนาแน่น แต่ไม่น่าจะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ที่รุนแรงมากนัก
•
เหตุผลคือการนำเอไอเข้ามาอยู่ในธุรกิจอย่างที่หลายบริษัททำอยู่สามารถสร้างผลตอบแทนในเชิงรายได้ทันทีอย่างเช่น Microsoft และ Alphabet ที่จะมีผู้ใช้งานโปรดักต์อย่าง Web Browser และ Search Engine มากขึ้น เนื่องจากมีฟีเจอร์ใหม่มาให้ใช้ ขณะที่ NVidia มียอดการสั่งซื้อ GPU เข้ามาจริง
กระแสของเอไอจึงต่างจากกระแสของเทคโนโลยีอื่นๆอย่างเช่นบล็อกเชนที่เข้าข่ายการเก็งกำไรเป็นหลักและหลายกรณีที่ยังไม่สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัททันทีด้วยซ้ำ เวลาที่ตลาดคริปโตเข้าสู่ภาวะหมีจึงสร้างความเสียหายให้กับบริษัทที่เข้าไปเกี่ยวข้อง
•
มีความเป็นไปได้ว่ากระแสของเอไอจะผลักดันหุ้นเทคโนโลยีให้เติบโตไปได้อีกระยะหนึ่งเลยทีเดียวและจะกลายเป็นมาตราฐานใหม่ในที่สุดแต่ในระยะสั้นอาจเป็นไปได้ว่าอาจจะเจอแรงเทขาย แต่สำหรับหุเนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเอไอยังมองเป็นโอกาสเข้าลงทุนระยะยาวได้ ทั้ง Nvidia Microsoft และ Alphabet
•
หุ้นที่ต้องระวังคือกลุ่มที่ยังไม่ได้มีโปรดักต์เกี่ยวกับเอไอแต่แค่ประกาศว่าจะพัฒนาเอไอตามกระแสกลุ่มนี้ถือว่ามีความเสี่ยงสูงเพราะยังไม่สามารถสร้างรายได้จากเอไอได้เลยแต่ราคาหุ้นวิ่งนำไปก่อน แบบนี้ถือว่าเป็นแค่หุ้นเกาะกระแสเฉยๆถือว่ามีความเสี่ยงพอสมควร
•
มีความเป็นไปได้สูงที่เอไอจะเป็นธีมการลงทุนที่จะอยู่ในกระแสไปอีก 2-3 ปีจากนี้เป็นจังหวะดีที่นักลงทุนจะศึกษาเทคโนโลยีนี้ตั้งแต่ตอนนี้
•
สามารถติดตามความเคลื่อนไหว connect the dots ได้ที่
Facebook : www.facebook.com/th.connectthedots
YouTube : www.youtube.com/@th.connectthedots
และทาง Spotify Podcast : connectthedotsth
#Connectthedots