กลายเป็นที่ฮือฮาและสั่นสะเทือนอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยทันที เมื่อสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงแถลงการณ์จากกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซียที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (7 มิ.ย.) ระบุว่า “อีซูซุ” มีแผนเตรียมโยกการผลิตรถยนต์จากไทยบางส่วนไปยังอินโดนีเซีย
•
โดยนายอากัส กูมิวัง คาร์ตาซัสมิตา รัฐมนตรีอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย กล่าวว่า บริษัท อีซูซุ มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น มีแผนจะ โยกย้ายการผลิตรถยนต์ จากโรงงานแห่งหนึ่งใน ประเทศไทย ไปยัง อินโดนีเซีย โดยจะเริ่มการผลิตอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า (2567)
•
พร้อมกับระบุว่า
“เราชื่นชมการตัดสินใจของอีซูซุ และเราจะยื่นข้อเสนอที่จูงใจ และให้การสนับสนุนกระบวนการโยกย้ายการผลิตดังกล่าว” นายอากัสกล่าว หลังเข้าพบกับฝ่ายบริหารของอีซูซุที่กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา
•
ปัจจุบันอินโดนีเซียเป็นฐานการผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นหลายค่าย อาทิ ฮอนด้า มิตซูบิชิ ซูซูกิ รวมทั้ง อีซูซุมีโรงงานผลิตรถยนต์ 1 แห่งที่เมืองคาราวัง และอินโดนีเซียกำลังผลักดันตนเองให้ก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากมีวัตถุดิบจำนวนมาก
•
ข่าวนี้ทำให้หุ้นกลุ่มยานยนต์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (7 มิ.ย.2566) ปรับตัวลดลงทันที โดยเฉพาะบริษัทที่มีลูกค้าหลักคือ อีซูซุ ทั้งบริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH ปิดตลาด 36.50 บาท ลดลง 2.75 บาท หรือ ลดลง 7.01% โดยราคาต่ำสุดอยู่ที่ 27.75 บาท หรือลดลงเกือบ 10 บาท และสูงสุดที่ 37.75 บาท
บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT ปิดตลาด 20 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง แต่ระหว่างวัน ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 18 บาท ลดลง 2 บาท และสูงสุดอยู่ที่ 20.20 บาท
•
ส่วน บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) หรือ NYT ปิดที่ 4.16 บาท ลดลง 6 สตางค์ หรือ ลดลง 1.42% ต่ำสุดอยู่ที่ 3.86 บาท หรือลดลงกว่า 40 สตางค์ และสูงสุดอยู่ที่ 4.28 บาท
•
ข่าวที่เกิดขึ้น แม้ภายหลัง บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ออกแถลงการณ์ถึงสื่อมวลชน ยืนยันว่า ข่าวการย้ายฐานการผลิตจากไทยไปอินโดนีเซีย ไม่เป็นความจริง และ ไม่ใช่การประกาศอย่างเป็นทางการจาก บริษัท อีซูซุมอเตอร์ แต่อย่างใด
•
และระบุด้วยว่า ถึงแม้ว่าประเทศอินโดนีเซียจะเป็นตลาดที่สำคัญแห่งหนึ่งของอีซูซุก็ตาม เราไม่มีแผนที่จะย้ายฐานการผลิตจากประเทศไทยไปยังอินโดนีเซีย
•
รวมทั้ง นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ยืนยันว่า ได้สอบถามไปยังผู้บริหารอีซูซุในประเทศไทยแล้วได้รับคำยืนยันว่าหลังจากที่ตัวแทนในไทยได้สอบถามไปยังบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นแล้วอีซูซุไม่มีแผนย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศไทย
•
แต่ก็ทำให้มีความเห็นจากนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ แสดงความเห็นว่า นี่เป็นสัญญาณเตือนหากมีการย้ายฐานการผลิตเกิดขึ้นจะส่งผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย
•
เช่น นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มการเงินเกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า ปัจจุบัน อีซูซุใช้ไทยเป็นฐานการผลิต ปีละ 4 แสนคัน ดังนั้นหากย้ายฐานการผลิตทั้งหมดไปอินโดนีเซีย อีซูซุอาจต้องใช้เวลาหลายปี ถึงจะสามารถหาตลาด และผลิตรถ ได้ระดับ 4 แสนคันเหมือนประเทศไทย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า ประเทศไทย ไม่ได้เป็นจุดมุ่งหมายการลงทุนใหม่ๆ ของต่างชาติอีกต่อไป ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการย้ายฐานการผลิต หรือเป็นการหันไปลงทุนใหม่ในต่างประเทศ ในอาเซียนมากขึ้น ก็ถือเป็นสัญญาณที่น่ากังวล เพราะประเทศไทยกำลังสูญเสีย การลงทุน และขาดปัจจัยดึงดูดในการลงทุนใหม่
•
นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า หากเป็นการย้ายฐานการผลิตที่เกี่ยวกับรถขนาดใหญ่ เชื่อว่าอาจกระทบไม่มาก ต่อเศรษฐกิจไทย ต่อภาพการลงทุนไทย เพราะไทยไม่ได้เป็นผู้นำรถขนาดใหญ่
แต่หากเป็นการย้ายฐานการผลิตรถปิกอัพ เชื่อว่ากระทบต่อประเทศไทยเต็มๆ เนื่องจากอีซูซุ ถือเป็น 3 แบรนด์ใหญ่ของประเทศไทย นอกจากนี้ประเทศไทย ยังมีการส่งออกรถปิกอัพไปอาเซียนเกินครึ่ง
•
สำหรับบริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2509 ซึ่งปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนกว่า 8,500 ล้านบาท ประกอบธุรกิจประเภท การผลิตรถยนต์ส่วนบุคคลมีวัตถุประสงค์การผลิตรถยนต์บรรทุกและกระบะ
•
ปัจจุบันได้ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 57 ปี มีกำลังการผลิตรถอีซูซุ 385,000 คันต่อปี และมีการจ้างงานพนักงานประมาณ 6,000 คน โดยอีซูซุมีโรงงานผลิตรถยนต์ 2 แห่งในประเทศไทยที่จังหวัดสมุทรปราการและฉะเชิงเทรา
•
มีบริษัท อีซูซุมอเตอร์เอเชีย จำกัด ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 71.15% รองลงมาคือ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลล์ จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วน 27.29%
•
ปี 2561 รายได้รวม 186,774 ล้านบาท กำไรสุทธิ 15,303 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้รวม 184,584 ล้านบาท กำไรสุทธิ 15,676 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้รวม 169,450 ล้านบาท กำไรสุทธิ 10,375 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้รวม 164,116 ล้านบาท กำไรสุทธิ 9,281 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้รวม 222,107 ล้านบาท กำไรสุทธิ 17,182 ล้านบาท
•
นอกจากนี้ บล.ดาโอ ระบุว่า เนื่องจากปัจจุบันอีซูซุมียอดผลิตรถยนต์คิดเป็น 20% ของการผลิตรถยนต์รวมในประเทศ โดยโรงงานอีซูซุจะมีการผลิตเพื่อขายในประเทศประมาณ 60% และส่งออก 40% ขณะที่จะแบ่งเป็นการผลิตรถ pick up 80%, PPV 15% และ Truck 5%
•
แม้จะเป็นข่าวที่ยืนยันว่า ยังไม่มีการย้ายฐานการผลิต แต่ประเทศไทยซึ่งติดอันดับผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ในอาเซียน และมียอดการผลิตรถยนต์ประมาณ 2 ล้านคันต่อปี กำลังสั่นสะเทือน หากมีบริษัทยักษ์ใหญ่คิดย้ายฐานการผลิต
•
แต่ที่ผ่านมา จะมีบริษัทต่างชาติ ย้ายฐานการผลิตจากไทยไปประเทศอื่น ด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่นั่นก็ส่งผลไปถึงธุรกิจโดยรอบโรงงาน หลังจากตกงานของพนักงานและแรงงาน เช่น ร้านอาหาร ร้านขายของ ตลาดนัด หอพัก อพาร์ทเมนท์ ที่อยู่โดยรอบ และส่งผลต่อเศรษฐกิจระดับมหภาค คือประเทศ และเศรษฐกิจพื้นที่ เศรษฐกิจชุมชน
•
รวมทั้งข่าวการปรับค่าแรง 450 บาท ของรัฐบาลชุดใหม่ ที่ภาคเอกชน และบริษัทหลายแห่งส่งสัญญาณว่า จะย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น เช่น เวียดนาม สะท้อนถึงว่า แค่เพียงมีบริษัทใดส่งสัญญาณแบบนี้ ก็สะเทือนถึงระดับประเทศ และเป็นการบอกถึงศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ที่ประเทศไทยอาจจะไม่ใช่จุดหมายการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติอีกต่อไป โดยไม่สามารถใช้จุดเด่นเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ได้อีก
•
ดังนั้นประเทศไทยควรใช้โอกาสนี้ ในการทำให้ประเทศไทย มีความสามารถทางการแข่งขัน ยังเป็นที่ดึงดูดความน่าสนใจในการลงทุน เพราะมิเช่นนั้น ความเป็นผู้นำในการผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของอาเซียนและอันดับ 10 ของโลกต้องหลุดลอยไป และยากที่จะเรียกคืนกลับมา ในเมื่อประเทศเรายังต้องพึ่งพาการลงทุนจากต่างชาติ
•
อย่าปล่อยให้เพียงแค่ข่าวนี้จบลงด้วยการปฏิเสธว่าไม่มีอะไร แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดขึ้นจริง ความเสียหายทางเศรษฐกิจ อาจมากเกินกว่าที่เราจะคาดคิดได้
•
สามารถติดตามความเคลื่อนไหว connect the dots ได้ที่
Facebook : www.facebook.com/th.connectthedots
YouTube : www.youtube.com/@th.connectthedots
และทาง Spotify Podcast : connectthedotsth
#Connectthedots
•
ที่มา
https://autolifethailand.tv/isuzu-thailand-no-plan…/
https://www.efinancethai.com/Laste…/LatestNewsMain.aspx…
https://www.efinancethai.com/lastestnews/app.index.aspx…
https://www.bangkokbiznews.com/finance/investment/1072434
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1072460