หากใครได้เคยติดตามการให้สัมภาษณ์ของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก่อนเข้าสู่แวดวงการเมือง ในการเป็นผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หรือ ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคอนาคตใหม่ หรือ พรรคก้าวไกล ในปัจจุบัน คงเคยได้ยินเรื่องราวของเขาว่า เป็นนักเรียนไทยคนแรกที่ได้ทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
เป็นนักธุรกิจที่ปลดหนี้ 100 กว่าล้านให้กับธุรกิจของครอบครัว ด้วยแนวคิดและสไตล์การทำงานในแบบของตนเอง เคยเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด บริษัทผลิตผลิตผลทางการเกษตร ที่เริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตน้ำมันรำข้าวดิบและรำข้าวสกัดไขมัน ถือเป็นบริษัทผลิตน้ำมันรำข้าวดิบที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศไทย และติดอันดับ 5 ของโลก
สำหรับ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2548 ด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท เพื่อประกอบกิจการโรงงานผลิต โรงงานสกัด น้ำมันพืช น้ำมันรำข้าว
โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เคยนั่งเป็นกรรมการและผู้บริหารตั้งแต่ 5 ต.ค. 2549-6 มี.ค. 2560
และ ตั้งแต่ปี 2562 มีผู้ถือหุ้นต่างชาติสิงคโปร์เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 49% ของทุนจดทะเบียน 98 ล้านบาท และได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2563
ปัจจุบันกรรมการบริษัท 3 คนคือ นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นน้องชายนายพิธา , นายอาร์นี่ โอตะวะ ซาริมา และนายประสพโชค สุขสมบูรณ์
โดยผลประกอบการของบริษัท เนื่องจากไม่ได้ส่งงบการเงินมา 3 ปีแล้ว โดยงบการเงินปีล่าสุด คือปี 2562 มีรายได้รวม 106,064,719 บาท ขาดทุนสุทธิ 143.40 ล้านบาท ขาดทุนต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559
โดยบริษัทเคยมีรายได้สูงสุดในปี 2555 จำนวน 1,045 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 16.33 ล้านบาท โดยงบการเงินย้อนหลัง 5 ปีล่าสุด (2558-2562) ที่ยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ดังนี้
ปี 2558
ทรัพย์สินรวม 523,786,446 บาท รายได้รวม 675,457,764 บาท กำไรสุทธิ 433,009 บาท
ปี 2559
ทรัพย์สินรวม 426,450,143 บาท รายได้รวม 518,576,041 บาท ขาดทุนสุทธิ -145,637,779 บาท
ปี 2560
ทรัพย์สินรวม 351,527,074 บาท รายได้รวม 107,523,823 บาท ขาดทุนสุทธิ -98,986,981 บาท
ปี 2561
ทรัพย์สินรวม 298,976,423 บาท รายได้รวม 118,468,256 บาท ขาดทุนสิทธิ -89,393,676 บาท
ปี 2562
ทรัพย์สินรวม 189,862,430 บาท รายได้รวม 106,064,719 บาท ขาดทุนสุทธิ -143,403,259 บาท
นอกจากนี้ สำนักข่าวอิศรา พบว่า นายพิธา เคยเป็นกรรมการ บริษัท เกร็ทโอเชียนฟู้ด จำกัด จดทะเบียนวันที่ 10 ส.ค. 2548 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ประกอบการขายอาหารแช่แข็งประเภทเนื้อสัตว์ โดยนายพิธา ขณะอายุ 26 ปี และ นายภาษิณ ขณะอายุ 23 ปี จดทะเบียนเข้าเป็นกรรมการ เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2549 หลังการเสียชีวิตของบิดา คือ นายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ จดทะเบียนเลิกบริษัทเมื่อ17 ธ.ค. 2553 และจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อ 4 ส.ค.2554
ขณะที่ นายภาษิณน้องชายเป็นกรรมการ 6 บริษัท จำแนกเป็น เปิดดำเนินการ 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท พีเอสอาร์ พรอสเพอริที จำกัด บริษัท พีเอชแอนด์ที โอเชี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท พรพนา พาณิช จำกัด บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด บริษัท แนชเชอรัล แลบบอราทอรี จำกัด และ เลิกดำเนินการ 1 แห่ง คือ บริษัท เกร็ทโอเชียนฟู้ด จำกัด
ส่วนนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ มีข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ว่าก่อนเสียชีวิตเป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 7 แห่ง
ผลงานของนายพิธา ทำให้เมื่อครั้งเป็นผู้สมัครส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เขาถูกวางตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรที่จะเข้ามาแปรรูปและเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร โดยถูกวางตัวเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หากได้เข้าร่วมรัฐบาล
แต่ดูเหมือนว่า วันนี้ก้าวต่อไปของเขาคือ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทยคนต่อไปหรือไม่?
ที่มา :
https://www.isranews.org/…/isr…/118144-inves0999999.html
https://www.prachachat.net/politics/news-1275277
https://www.admissionpremium.com/business/news/2217
https://m.facebook.com/KiatnakinPhatra/photos/a.205563211150/10152290509076151/?type=3&__tn__=-UK*F