หลังจากการเผชิญหน้ากับโรคระบาดและการปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตในรูปแบบที่เปลี่ยนไป เทรนด์การตลาดในปี 2566 ที่จะถึงก็มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย นอกจากจะน่าสนใจแล้วก็ควรทำความเข้าใจทั้งในส่วนของผู้บริโภคและหาโอกาสทางธุรกิจหากเป็นผู้ให้บริการ
เทรนด์เหล่านี้มีอะไรบ้างนะ?
1. TikTok + Instagram Reels จะยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง
TikTok ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ 1 พันล้านคนและมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น ส่วน Instagram Reels ก็มีคนใช้งานมากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเข้าถึงผู้ใช้
แพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Snapchat, Instagram Reels จำกัดผู้คนไว้กับคอนเทนต์เพียงไม่กี่ วินาที/นาที ดังนั้นจึงเป็นโอกาสสำคัญที่ควรโพสต์โฆษณาหรือวีดีโอสาธิตแบบสั้น ๆ ในแพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ใช้งาน
ขนาด Google ยังตอบรับเทรนด์นี้ด้วยการแสดงวิดีโอขนาดสั้นในผลการค้นหาเช่นกัน
เมื่อผู้บริโภคมองหาแบรนด์และสินค้าที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนบนแพลตฟอร์มเหล่านี้มากขึ้น การเพิ่มเนื้อหาวิดีโอแบบสั้นจึงเป็นเทรนด์ที่จำเป็นในปี 2566
2. แบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมจะประสบความสำเร็จ
ธุรกิจที่มีแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนและมุ่งให้ความสำคัญต่อผู้คนอย่างเท่าเทียมกันจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคเจนมิลเลนเนียลเต็มใจที่จะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อผลิตภัณฑ์ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น
ผู้บริโภค 2 ใน 3 เชื่อว่านอกจากเรื่องของความยั่งยืนแล้ว บริษัทควรมีจุดยืนในประเด็นทางสังคมและการเมืองที่ถูกต้อง เมื่อลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขามีค่านิยมที่สอดคล้องกับบริษัทก็จะรู้สึกไว้วางใจและมีแนวโน้มที่จะซื้อหรือใช้บริการมากขึ้น
ยิ่งบริษัทแสดงให้เห็นว่าธุรกิจนั้นยืนหยัดเพื่ออะไร ความไว้วางใจต่อบริษัทก็จะยิ่งพัฒนามากขึ้นเท่านั้น
3. การตลาดแบบ influencer ยังคงโดดเด่น
คุณอาจเพิ่มความสนใจต่อธุรกิจของคุณมากขึ้นได้โดยการใช้กลยุทธ influencer โดยอาจจ้างให้ influencer โพสต์บนโซเชียลมีเดียของเขา โดยใช้ผลิตภัณฑ์ หรือแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จริงๆ แต่อาจเพิ่มแฮชแท็ก หรือใส่ลิงค์เพื่อซื้อสินค้าหรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมเอาไว้
ที่สำคัญการใช้ “ไมโครอินฟลูเอนเซอร์” (ผู้ติดตามระหว่าง 1,000-10,000 คน) กำลังมีความสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ มากขึ้น
บริษัทอาจสร้างการติดตามออนไลน์และดึงดูดผู้คนให้เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งให้รางวัลลูกค้าและขอรูปภาพหรือรีวิวกลับมาเพื่อทำการตลาดต่อ เป็นต้น
4. การตลาดเชิงสนทนา การตอบสนองยิ่งรวดเร็วก็ยิ่งดี
ประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นปัจจัยสำคัญในการให้คะแนนความพึงพอใจของลูกค้า ยิ่งการซื้อของออนไลน์ลูกค้าคาดหวังการบริการที่คล่องตัว การมีกล่องแชท ผู้ช่วยเสมือนจริง หรืออีเมล์/ไลน์ที่ตอบกลับในไม่ช้า ช่วยเพิ่มความพึงพอใจได้มากขึ้น
การตลาดแบบสนทนาจึงเป็นหัวข้อที่ควรใส่ใจ การสื่อสารด้วยมนุษย์จริงหรือแชทบอทก็มีความแตกต่าง แต่ละแบบก็ประสิทธิภาพและคุ้มค่าในการให้บริการลูกค้าแตกต่างกัน
5. การตลาดแบบเฉพาะตัว
Gen Z และ Millennials ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของนักการตลาด และผู้บริโภคเหล่านี้ต้องการประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ผ่านข้อมูลที่ผู้บริโภคแชร์กับแบรนด์ บริษัทต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อปรับแต่งโฆษณาและประสบการณ์ของลูกค้า
จากการศึกษา 90% ของผู้บริโภคบอกว่าพวกเขาเต็มใจที่จะแบ่งปันข้อมูลพฤติกรรมของพวกเขา
หากมีการมอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่ทำให้การซื้อของถูกหรือง่ายขึ้น แต่มีเส้นบาง ๆ ระหว่างการใช้สิทธิประโยชน์ส่วนบุคคลกับการหลอกล่อให้ซื้อสินค้าหรือบริการ ดังนั้นบริษัทจึงต้องหาวิธีมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งในแบบที่ผู้บริโภคยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นการตอบสนองแบบส่วนตัว คำแนะนำเฉพาะบุคคล หรือข้อเสนอเฉพาะบุคคล นักช็อป Gen Z และ Millennial ต้องการให้แบรนด์สร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
6. เนื้อหาที่สร้างโดยผู้ใช้งานจริง หรือ รีวิวเป็นสิ่งสำคัญ
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าจะมีความสำคัญมากกว่าในอดีต เพราะความความสัมพันธ์เหล่านี้จะนำไปสู่การตลาดแบบปากต่อปาก ยิ่งการใช้อินเตอร์เน็ตสามารถเข้าถึงผู้คนนับล้านทั่วโลก จึงต้องให้ความสำคัญกับสิ่งที่ลูกค้ารีวิวสินค้าหรือการใช้บริการจากคุณออนไลน์
รีวิวออนไลน์สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่หรือทำลายธุรกิจของคุณได้ ไม่ว่าบริษัทจะโปรโมทผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนได้อย่างสวยหรูเพียงใด แต่ผู้ใช้จริงทั้งหลายสามารถให้คำวิจารณ์ที่แท้จริงและเป็นกลาง การมีรีวิวจำนวนมากจากแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้จะทำให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นกว่าคู่แข่ง
แม้บางธุรกิจจะได้คะแนนระดับ 5 ดาวทั้งหมด แต่ธุรกิจที่มีรีวิวน้อยก็ยังไม่ได้รับความสนใจเท่ากับธุรกิจที่มีรีวิวมาก แม้ว่าจะมีบางรีวิวที่ไม่ดีอยู่บ้างก็ตาม
7. ความสำคัญของการให้ข้อมูล
ในปี 2023 เบราว์เซอร์จำนวนมากขึ้นจะบล็อกโฆษณาและคุกกี้ของบุคคลที่สามก็ไม่น่าสนใจ ผู้คนเริ่มเบื่อหน่ายกับโฆษณาที่ป๊อบอัพขึ้นมาขณะใช้งาน นอกจากนี้กฎหมายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลมีความเข้มงวดมากกว่าเดิม และผู้บริโภคก็ตระหนักถึงความเสี่ยงของข้อมูลที่มอบให้บุคคล
ที่สามเพิ่มมากขึ้น บริษัทจึงต้องหาหนทางอื่นที่ทำให้ลูกค้าเต็มใจมอบข้อมูลส่วนตัวให้
ข้อมูลที่ลูกค้าเต็มใจให้จะมีประสิทธิภาพมากกว่า และจะช่วยให้บริษัทช่วยสร้างประสบการณ์ทางการตลาดส่วนบุคคลที่ผู้บริโภคกำลังมองหาได้