ในปี 2022 คงไม่มีใคร จะไม่รู้จักคำว่า “Metaverse” โลกเสมือนจริง ที่เป็นแหล่งรายได้ใหม่ ระบบเศรษฐกิจแบบใหม่ ที่เป็น Metaverse Economy จะเกิดขึ้นเป็นภาคต่อยอดของ digital economy ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นได้เร็วและแรงกว่า digital economy แบบเดิม หรือการแพร่กระจายของสื่อสังคมออนไลน์ social media เดิมที่ใช้เวลาประมาณ 5-10 ปี ในการพลิกโฉมระบบเศรษฐกิจของหลายประเทศและหลายธุรกิจอุตสาหกรรมเต็มรูป
.
โดยมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าของ แพลตฟอร์ม META ยังกล่าวย้ำว่า จากนี้ไปจะต้องเป็น Metaverse-First ไม่ใช่ Facebook-First ยิ่งตอกย้ำความน่าสนใจของคำว่า Metaverse มากยิ่งขึ้น จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ในโลกของการลงทุนแล้ว บริษัทที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse ก็น่าจะได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
.
กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโลกเสมือนจริงนี้มีอุตสาหกรรมใด มาเกี่ยวข้องบ้าง แล้ว เราควรจะให้ความสนใจ หรือโอกาสในการลงทุนกับบริษัทต่างๆ เหล่านี้ได้หรือไม่
.
จากภาพ เราจะเห็นได้ว่า กลุ่มธุรกิจของ Metaverse มี หลากหลายกลุ่มธุรกิจบริษัท แต่เราสามารถ แยก ประเภทธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้อง แบ่งเป็น 7 ธุรกิจหมวดหมู่ เราจึงขอยกตัวอย่างหุ้นที่อยู่ใน กลุ่มธุรกิจที่เกียวข้องกับ Metaverse แต่ล่ะ ประเภท
1. Computing
กลุ่ม ธุรกิจประมวลผล หุ้นเกี่ยวกับผู้ผลิต Chipset ประมวลผล
Nvidia
ผู้ผลิตการ์ดจอ หรือหน่วยประมวลผลทางด้านกราฟฟิก
ข้อมูลบริษัท
• Ticker: NVDA
• Country: USA
จุดเด่นของบริษัท
• Nvidia เป็นผู้บุกเบิกการใช้หน่วยประมวลผลกราฟกหรือที่เรียกว่า GPI ซึ่งปัจจุปัน บริษัทเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ผู้ผลิตการ์ดจอ หรือหน่วยประมวลผลทางด้านองค์ประกอบที่สำคัญของโครงสร้างบน PC กราฟฟิก (GPUs) โดย CEO ได้มีความเชื่อมั่น ว่าโลกกำลังเข้าสู่ยุคของ Metaverse ผ่านเทคโนโลยีต่าง ๆ โดยบริษัทกำลังพัฒนา Nvidia Omniverse ซึ่งงเป็นแพลตฟอร์ม 3 มิติ จำลองการสร้างเครืองจักรในโลกเสมือนจริง รวมถึงอยู่ในกระบวนการทดลองใช้ Voyager เป็นออฟฟิศ ในรูปแบบ VR พนักงานสามารถทำงานผ่านกล้อง VR Headset และบริษัทเป็นหนึ่งในผู้ผลิตการ์ดจอสำหรับขุด Cryptocurrency ที่ใหญ่ ที่ สุดในโลกคาดว่าCryptocurrency และ Non-Fungible Token (NFT) จะถูกนำมาใช้ในโลกเสมือน
Roblox
แพลตฟอร์มเกมออนไลน์
ข้อมูลบริษัท
• Ticker: RBLX
• Country: USA
• Thematic Relevance: Gaming Platform
• Market Capitalization: $43.5 Billion
Roblox ธุรกิจแพลตฟอร์มเกมออนไลน์ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถสร้างเกมออนไลน์เชื่อมต่อกับผู้เล่นคนอื่น ได้ด้วย งมีสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกับโลก Metaverse โดยผู้เล่นแต่ละคนสามารถสร้างร่าง Avatar ของตนเอง และสามารถเลือกซซื้อและะจำหน่าย item ต่าง ๆ โดยใช้เงิน Robux เป็นสกุลเงินในเกมอีกทั้งยังมีการจัดคอนเสิร์ตเสมือนจริงอีกด้วย
2. ธุรกิจ Networking
การประมวลผลแบบคลาวด์คาดว่าจะมีบทบาทในการปรับใช้บริการ 5G
.
Ed Yardeni นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า “การมาถึงของ 5G น่าจะหมายถึงการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมายที่เราคาดไม่ถึง” “เพื่อให้เป็นไปได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีบอกว่าการประมวลผลแบบคลาวด์จะย้ายจากเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ที่อยู่ห่างไกลไปยังอุปกรณ์ที่ขอบเครือข่ายของเพื่อนบ้าน Edge Computing ควรเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูลต่อไป แต่ผู้ให้บริการจะต้องเปิดกระเป๋าเงินเพื่อให้เกิดขึ้นได้”
Amazon.com Inc. ( AMZN )
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ Amazon มุ่งเน้นที่จะขยายแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซไปสู่ ”ระบบนิเวศ” ซึ่งรวมการช็อปปิ้ง ความบันเทิง และบริการคลาวด์สำหรับผู้ใช้ อเมซอนมีแพลตฟอร์มการช็อปปิ้งออนไลน์ที่โดดเด่น และมีแนวโน้มที่จะสร้าง “ห้างสรรพสินค้าอเมซอน” บางเวอร์ชันใน metaverse ซึ่งผู้ซื้อสามารถโต้ตอบและซื้อสินค้าดิจิทัลได้ ในบล็อกโพสต์เมื่อเร็วๆ นี้ Vince Koh ของ Amazon ซึ่งเป็นผู้นำการค้าดิจิทัลทั่วโลกของบริษัท ได้กล่าวถึงนวัตกรรมต่างๆ เช่น การทดลองใช้งานเสมือนจริง ร้านค้าป๊อปอัปเสมือนจริง และเศรษฐกิจรูปจำลองเสมือนเป็นแนวคิดที่เปลี่ยนแนวการค้าปลีก สุดท้าย Amazon Web Services มีแนวโน้มที่จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน metaverse
.
Amazon Web Services ส่วนหนึ่งของ Amazon.com (AMZN) และ Alphabet(GOOGL) Google ยังจำหน่ายบริการโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ที่เกี่ยวข้องกับ 5G ด้วย AWS ในเดือนธันวาคมประกาศแผนการขายบริการเครือข่าย 5G ส่วนตัวให้กับลูกค้าองค์กร
.
บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งกำลังสร้างระบบนิเวศ 5G สำหรับเครือข่ายส่วนตัวที่ให้บริการแบบธุรกิจกับธุรกิจ กลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม 5G Americas คาดการณ์ว่าตลาดที่สามารถระบุตำแหน่งได้ซึ่งรวม 5G เข้ากับเครือข่ายธุรกิจส่วนตัวจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงห้าปีข้างหน้า เป็น 16.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 จาก 1.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020
3. Virtual platform
META Platforms (Facebook เดิม)
Platform สังคมออนไลน์อันดับหนึ่งของโลก
.
Meta Platforms หรือชื่อเดิมคือ Facebook ที่รีแบรนด์บริษัทเพื่อมุ่งเน้นธุรกิจ Metaverse อย่างเต็มตัว โดยบริษัทลงทุนกว่า USD10bnในธุรกิจนี้ พร้อมสร้างโลกเสมือนจริงผ่าน Platform ต่าง ๆ เช่นHorizon Home ที่ปรียบเสมือนบ้านใน Metaverse บริษัทมุ่งพัฒนาเทคโนโลยี Augmented Reality: AR และ Virtual Reality: VR มากขึ้น เพื่อเชื่อมต่อโลกเสมือนจริง ด้วยผลิตภัณฑ์ Oculus Quest 2 แว่น VRไร้สาย ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่โลก Metaverse อีกทั้งยังมีแผนที่จะลงทุนพัฒนาอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าสู่และเชื่อมโยงกันในโลกเสมือนจริงได้อีกด้วย
ข้อมูลบริษัท
• Ticker: FB
• Country: USA
• Thematic Relevance: Social Network
• Market Capitalization: $948.27 Billion
จุดเด่นของบริษัท
• Facebook คือเจ้าของ Facebook, Instagram, WhatsApp และ Messenger ซึ่งมีผู้ใช้รวมกัน
มากกว่า 2,700 ล้านคน หรือเกือบๆ 1 ใน 3 ของ
Key Statistics
• ในไตรมาสที่ 3 ปี 2021 มีรายได้ 29,010 ล้านดอลลาร์
4. Interchange Standard
Unity Software Inc. ( U )
Unity Software เป็นเจ้าของหนึ่งในสองเอ็นจิ้นวิดีโอเกม 3 มิติหลัก ซึ่งช่วยให้นักออกแบบสามารถปรับแต่งวิธีที่ผู้เล่นวิดีโอเกมเคลื่อนไหวและโต้ตอบภายในเกมของพวกเขา อันที่จริง 94 สตูดิโอพัฒนาเกมที่ใหญ่ที่สุด 100 แห่งใช้เอนจิ้น Unity ในการเรียกผลประกอบการไตรมาสสองของ Unity CEO John Riccitiello กล่าวว่าบริษัทจะ “สนับสนุนและกำหนดรูปแบบ metaverse” และจะ “เน้นการสร้างเนื้อหา การเข้าถึงข้ามแพลตฟอร์ม และลดระยะห่าง และลดความขัดแย้งระหว่างผู้สร้างและผู้บริโภค” ความสามัคคีอาจเป็นตัวกลางในการช่วยให้ธุรกิจสร้างสถานะ metaverse ที่ไม่เหมือนใคร – เทียบเท่ากับเว็บไซต์หรือหน้าโซเชียลมีเดียในปัจจุบันhttps://www.youtube.com/embed/R91KtPOS_SY
ออโต้เดสก์ อิงค์ ( ADSK )
ธุรกิจประมาณ 70% ของ Autodesk มาจากซอฟต์แวร์การออกแบบสำหรับสถาปัตยกรรม วิศวกรรมและการก่อสร้าง หรือ AEC วิศวกรและสถาปนิกใช้แอปพลิเคชันของ Autodesk เพื่อออกแบบอาคาร 3 มิติและโครงการโครงสร้างพื้นฐานแบบเสมือนจริง ตอนนี้ Autodesk มีชุดผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการสร้างแอนิเมชั่นและสิ่งปลูกสร้าง 3 มิติเสมือนจริงและความจริงเสริม ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้าง metaverse ในไตรมาสที่สอง รายได้จากกลุ่ม AEC ของ Autodesk เพิ่มขึ้น 21% เป็น 397 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่รายรับจากกลุ่มสื่อและความบันเทิงเพิ่มขึ้น 10% เป็น 53.3 ล้านดอลลาร์ เป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นว่าทำไม Autodesk จึงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับนักพัฒนาที่สร้าง metaverse ในยุคแรก
หากคุณต้องการดูตัวอย่างว่าหุ้น metaverse ทำอะไรได้บ้างเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม “ในชีวิตจริง” ให้ลองดู Matterport ( MTTR , $22.04)
.
MTTR เป็นบริษัทซอฟต์แวร์และจับภาพวิดีโอที่ช่วยให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์สามารถสร้างอาคารเสมือนจริงของตนได้ จากที่นี่ ผู้ซื้อหรือผู้เช่าที่คาดหวังสามารถเดินผ่านอพาร์ทเมนท์ บ้าน หรือพื้นที่เชิงพาณิชย์เสมือนจริงได้จากห้องนั่งเล่นที่สะดวกสบาย ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและพลังงานเมื่อเทียบกับการออกล่าตามบ้าน และในยุคของ COVID-19 นั้น ถือได้ว่าเป็นมาตรการป้องกัน
.
ชัยชนะคือ Matterport เริ่มใช้คู่แฝดดิจิทัลเหล่านี้สำหรับอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่นกัน
.
ผู้ค้าปลีกกำลังวางแผนแนวคิดร้านค้าใหม่ตามการถือครองอสังหาริมทรัพย์ สถาปนิกกำลังออกแบบพื้นที่และผู้จัดการการจัดจำหน่ายประกันภัยกำลังใช้แพลตฟอร์มเพื่อลดความเสี่ยง เปิดใช้งานการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ใช้และค่าใช้จ่ายจะลดลง
.
มีหลายวิธีที่ Matterport ทำเงินได้ นอกเหนือจากการจับภาพวิดีโอเบื้องต้นแล้ว MTTR ยังจัดเก็บพื้นที่เสมือนไว้ในคลาวด์และขายเครื่องมือและฮาร์ดแวร์ต่างๆ ที่จำเป็นต่อการออกแบบและทำงานร่วมกันในพื้นที่นั้น และดูเหมือนว่าแพลตฟอร์มเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยในไตรมาสที่ 3 มีการสร้างและ ภาพเสมือนจริง มากกว่า 6.2 ล้านคู่ไปยังแพลตฟอร์มของ Matterport สมาชิกทั้งหมดเพิ่มขึ้น 116% เมื่อเทียบเป็นรายปีและรายรับจากการสมัครเพิ่มขึ้น 36%
.
ตอนนี้ MTTR เป็นสตาร์ทอัพที่เปิดตัวสู่สาธารณะผ่านบริษัทจัดหากิจการพิเศษ (SPAC)ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 และยังไม่ใกล้เคียงกับการทำกำไร อย่างไรก็ตาม มีการเติบโตที่นั่น และบริษัทเป็นตัวอย่างที่สำคัญของวิธีที่ metaverse สามารถนำมาใช้ในทางปฏิบัติได้
Matterport น่าจะเป็นหุ้นที่เสี่ยงที่สุดในบรรดาหุ้น metaverse แต่อาจคุ้มค่ากับการรอคอยสำหรับนักลงทุนระยะยาวhttps://static.matterport.com/mp_www/MP_ListingDay_Pro-Res_NoEndCard_4-3.mp4