ตอนนี้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนคู่ขนาน หรือ dual circulation เป็นนโยบายเศรษฐกิจที่รัฐบาลจีนเร่งพัฒนา เน้นการบริโภคภายในประเทศควบคู่ไปกับการส่งออก
แม้จีนจะบอกว่าระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนคู่ขนานไม่ใช่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจใหม่ เป็นเรื่องที่จีนคิดไว้นานแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าแรกเริ่มเดิมทีในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา จีนมุ่งผลิตเพื่อการส่งออกเป็นหลัก จีนสร้างชาติและสร้างความมั่งคั่งด้วยการเป็นประเทศผู้ผลิต ทำให้แรงงานจีนเข้าสู่ห่วงโซ่การผลิตมากมายหลายร้อยล้านคน แต่เมื่อตอนนี้จีนเจอสงครามเศรษฐกิจ เจอการกีดกันทางการค้าที่นับวันยิ่งรุนแรงมากขึ้น แถมวิกฤติโควิด-19 ที่ยังไม่สงบจบลง ทำให้โรงงานจีนจำนวนมากเจอปัญหา โรงงานจำนวนไม่น้อยต้องปิดตัวและกระทบถึงแรงงานในภาคอุตสาหกรรมทั้งหมดด้วย
รัฐบาลจีนจึงต้องปฏิรูปนโยบายทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เพื่อให้ธุรกิจน้อยใหญ่ในประเทศดำเนินต่อไปได้ โดยจีนจะยึดกระแสการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก แค่การบริโภคภายในแผ่นดินจีนก็มหาศาลแล้ว สมัยก่อนเศรษฐกิจของคนจีนในประเทศยังไม่ดี คนจีนยังไม่มีกำลังซื้อมากพอ แต่ตอนนี้จีนมีเศรษฐีและชนชั้นกลางเพิ่มขึ้นมากกว่าแต่ก่อนมาก
รัฐบาลจีนกำลังเร่งปรับปรุงกฎเกณฑ์ด้านการลงทุนโดยลดข้อจำกัดหรือข้อห้ามสำหรับนักลงทุนจากต่างประเทศลงหลายรายการ มณฑลล่าสุดที่รัฐบาลจีนลุ้นกันสุดลิ่มทิ่มประตูเพื่อให้เป็นเมืองการค้าเสรีระดับโลกคือ ไห่หนาน หรือที่ไทยคุ้นเคยคือ ไหหลำ รัฐบาลจีนยิ่งเร่งทั้งผลักทั้งดันไห่หนานในทุกรูปแบบ แผนพัฒนามณฑลไห่หนานของจีนเมื่อกลาง พ.ศ.2563 คือเร่งพัฒนาไห่หนานให้เป็นเขตทดลองการค้าเสรี ทั้งการปลอดภาษีการโอนย้ายเงินทุน การเคลื่อนย้ายประชากร ฯลฯ
จีนยังมีแผนพัฒนาท่าเรือการค้าเสรีไห่หนานให้เป็นท่าเรือการค้าเสรีระดับสูง เพื่อให้มีอิทธิพลระดับโลกให้ได้ภายในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษนี้ จีนเป็นประเทศที่ไม่ทำอะไรเล็กๆ ทำแต่ใหญ่ๆ โครงการท่าเรือการค้าเสรีไห่หนานที่ว่านี้เพิ่งลงนามการลงทุนใน 35 โครงการไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา โดย 8 ใน 35 โครงการ มีเงินลงทุนจากต่างประเทศ มูลค่ารวมทั้งหมด 6.4 พันล้านหยวน หรือประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท
รัฐบาลจีนต้องการจะเนรมิตให้ท่าเรือการค้าเสรีไห่หนานกลายเป็นสวรรค์ของการซื้อขายสินค้าปลอดภาษี ตอนนี้รัฐบาลอนุญาตให้เพิ่มวงเงินในการซื้อสินค้าปลอดภาษีจาก 3 หมื่นหยวน หรือ 1.33 แสนบาท เป็น 1 แสนหยวน หรือ 4.4 แสนบาทต่อคนต่อปี และขยายประเภทสินค้าให้มีความหลากหลายขึ้น
นอกจากเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพแล้ว รัฐบาลจีนเข้าใจดีว่า ตอนนี้ไห่หนานยังไม่ใช่เมืองที่มีความเป็นสากลอย่างเซี่ยงไฮ้หรือฮ่องกง ผู้คนในไห่หนานส่วนใหญ่ยังไม่ถนัดในการใช้ภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ จีนจึงออกแผนพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศให้กับข้าราชการจีนที่จะทำงานในท่าเรือการค้าเสรีไห่หนาน
ปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเยือนไห่หนาน 1.42 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลจีนตั้งเป้าไว้ก่อนวิกฤติโควิด-19 ว่า ภายใน พ.ศ.2563 จะต้องดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในไห่หนานให้ได้ถึง 2 ล้านคน นอกจากนั้น
จากรายงานเมื่อเดือนมกราคม 2563 ของทางการจีนทำให้ทราบว่าตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 มีแรงงานต่างชาติมีทักษะเข้าไปทำงานในไห่หนานแล้วเกือบ 8 พันคนจากปรากฏการณ์คนต่างชาติเริ่มเข้ามาไห่หนานมากขึ้นบวกกับความต้องการพัฒนาท่าเรือการค้าเสรีไห่หนาน รัฐบาลจีนจึงตั้งเป้าไว้ว่า เมื่อสิ้น พ.ศ.2568 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า ข้าราชการพลเรือนจีนที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี จะต้องพูดคุยสื่อสารกับชาวต่างชาติได้ สำหรับคนที่ทำงานด้านการต่างประเทศจะต้องสื่อสารด้านอุตสาหกรรมเฉพาะทางด้วยภาษาต่างประเทศได้อย่างน้อย 1 ภาษา “หมุนเวียนคู่ขนาน” เป็นชื่อระบบเศรษฐกิจที่จีนใช้ปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศเพื่อให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมอย่างเร็วที่สุด
หากสนใจลงทุนในหุ้นต่างประเทศ
นักลงทุนสามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศกับ eToro ได้ ที่นี่ เพราะ eToro เป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือโดยได้รับความไว้วางใจภายใต้การกำกับของ FCA และ CySec และนักลงทุนสามารถมั่นใจได้ว่าเงินทุนของท่านได้รับการคุ้มครองด้วยโปรโตคอลความปลอดภัยชั้นนำของอุตสาหกรรมอย่างมั่นคงปลอดภัย นอกจากนั้นคุณจะได้รับความเป็นส่วนตัวระดับสูง เพราะ เราจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
ที่มา:https://www.thairath.co.th/news/foreign/1907437?cx_testId=0&cx_testVariant=cx_0&cx_artPos=0#cxrecs_s
#CISThai
Line Official: https://lin.ee/jO65rNq
Website: https://connectthedotsth.com/
FB Fanpage: https://www.facebook.com/CreativeInvestmentSpace