AOT จากวันที่ 17 ก.พ. ที่ราคาปิด 43.50 บาท วันนั้น ราคาลดลงมา 3.50 บาท ลดลงมา 7.45% ถึงวันนี้ AOT ไหลลงมาอีกสิบบาท ลงไปแตะราคาต่ำสุดที่ 33.75 บาท ปิดตลาด ณ วันที่ 15 พ.ค. 2568 ที่ 35 บาท
มองจากประเด็นลูกหนี้การค้า ( King Power ) ที่อาจต้องตั้งสำรองหนี้สูญ บวกกับ LTF Redemption ทำให้ยังหา Sentiment ที่ดีไม่เจอ ทั้ง ๆ ที่มีการประเมินว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวปีนี้น่าจะดีขึ้นเเล้ว
เลยชวนมาลองตั้งสมมติฐานกันสนุก ๆ เเบบคิดไว ๆ
#มองจากมุมกระเเสเงินสด
เอาเรทพันธบัตรสิบปี 2.3% เป็นตัวตั้ง เเล้วเอา Free Cash Flow Yield มาเทียบ
สมมติ Capex ไม่เพิ่ม เเละวางเรื่องไฟเเนนซ์ออกไปก่อน
AOT หาเงินสดได้ไตรมาสละ 3,300 ล้านหรือตกปีละ 13,000 ล้าน
ราคาหุ้น 40 บาทจะได้ FCF Yield ที่ 2.2%
ราคาหุ้น 30 บาทจะได้ FCF Yield ที่ 3%
ราคาหุ้น 20 บาทจะได้ FCF Yield ที่ 4.5%
ถ้า Terry Smith มามองหุ้นไทยคงออกบอกว่าเรารอหุ้นคุณตัวนี้ประมาณ 20 บาทละกัน ไม่ก็รอให้กระแสเงินสดมันนิ่งกว่านี่หน่อย ปัญหาเยอะเหลือเกิน
#มองจากมุมกำไร
หากลองคิดว่ากำไรต่อหุ้นไตรมาสละ 30 สตางค์หนึ่งปีก็ 1.2 บาท เอา PE เฉลี่ยของ Sector 28 เท่าคูณเข้าไปได้ที่ราคา 33.6 บาท
เเต่ถ้ามองโหดกว่านั้นเอา PE SET 17 เท่าเป็นตัวตั้งเพื่อหา Margin of Safety จะได้ราคาประมาณ 20 บาท
หรือลองตั้งสมมติฐานจาก PEG Ratio ของ AOT ที่วันนี้อยู่ประมาณ 0.63 เท่า ถ้าจะให้มันกลับขึ้นมากกว่าหนึ่งเท่าตามสูตร ก็เเปลว่า EPS Growth Rate ต้องมากกว่า 33.6% ซึ่งเเทบมองไม่เห็นจากวันนี้ เพราะยังไม่รู้ผลการประมูลเป็นยังไง กระทบรายได้และกำไรเเค่ไหน เพราะฉะนั้นการเอา PE ลงมาเเทนการดัน EPS ขึ้นไป มันง่ายกว่าเยอะ เเปลว่าราคาลงมาเยอะ ๆ ถือเป็นเรื่องที่ดีแล้ว
แต่ถ้ามองเเบบ PE Fund ที่ยอมจ่ายเเพงในราคาสิบเท่า EBITDA เเปลว่ามูลค่าตลาดไม่ควรเกินสี่เเสนล้าน คำนวณราคากลับมาก็ประมาณ 28 บาท
หรือจะมองในมุม DCF สมมติ Annualized EPS 1.2 บาท / ให้ Growth Rate 4% มากกว่า GDP หน่อย / เอา WACC เฉลี่ยที่ 10% คำนวณกลับมาก็จะเห็นว่า MCAP ไม่ควรเกินสามเเสนล้านบาทถึงจะมองว่าถูกจริง
นี่เเค่ตัวอย่างบางส่วนที่อยากชวน ‘คิดเอง’ ก่อนบทวิเคราะห์จะออก เพื่อให้เราได้ลองลับคมความคิดไปเรื่อย ๆ ผิดถูกช่างมัน เเต่ลองตั้งคำถามไปเองก่อน
ทั้งหมดทั้งมวลต้องบอกว่าราคาหุ้น AOT วันนี้ต่ำกว่าราคาช่วงโควิดเเล้ว ใครมาบอกเราช่วงปีที่เเล้วว่าราคาหุ้นสนามบินจะลงต่ำกว่าช่วงโควิดเราคงไม่เชื่อ
เเต่ Valuation Game มันสนุกตรงนี้ครับ มันไม่ได้มีความเเน่นอน 100% ตัวเลขมันเปลี่ยนได้ตลอด เเถม Sentiment ตลาดยังทำให้ราคาชี้นำความคิดเราได้อีก
เกมการตีราคามันเลยเอาไว้ ‘ลับคม’ ความคิดของเราเองในฐานะเจ้าของธุรกิจในการมองเข้าไปในกิจการจริง ๆ เเล้วฝึกสังเกตว่าถ้าเราเองเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่อยากลงธุรกิจเเบบนี้เเต่มันอยู่นอกตลาดเราจะยอมจ่ายที่เท่าไหร่
#AOTรอUnlockAssetValue
ใช่ครับมาวันนี้ Sentiment ท่องเที่ยวที่เเย่ลงมันเป็น Overhang อยู่เเล้ว ยิ่งมาเจอประกาศงบวันนี้ ยิ่งไปกันใหญ่ โดนสถาบัน Underweighted เข้าไป เงินยิ่งไหลออกไปหาตัวอื่น พอดูงบสามเดือน รายได้ Flat เเต่กำไรหายไปเยอะ เเปลว่าเเบก Operating Cost ไม่น้อย
ดูจาก Factsheet ล่าสุด ตีตัวเลขกลม ๆ ROE 16% ROA 14% สมมติ WACC 10% จะได้ Profit Gap ประมาณ 4-6% จริงๆถือว่าโอเคในเชิงมาร์จิ้น
เเต่จากการคาดเดาของผู้เขียน คิดว่าในระยะยาวตลาดจะกลับมาให้พรีเมี่ยม AOT จริง ๆ น่าจะต้องมีแผนธุรกิจในการเพิ่ม Asset Turnover ด้วยส่วนนึง เพราะด้วยสเตจที่อิ่มตัวของธุรกิจ เเละถ้าช่วง Peak Margin ผ่านไปเเล้ว พอไม่มี Reinvestment Runway จากนี้ชัด ๆ มูลค่าหุ้นมันก็ไปอยู่กับการ Divest ไม่ก็ปันผลไปเลย
เพราะฉะนั้นถ้ายังไม่มีความชัดเจนในการเเก้ปัญหาปัจจุบัน ยังไม่มีแผนธุรกิจใหม่ในการเพิ่มกำไร อาจต้องให้ราคาไหลลงมาจน Yield on Cost หรือ Free Cash Flow Yield มากกว่า 3% ถึงจะน่าสนใจ
ผมไปเปิดดูใน SETSMART เเวบนึงเพื่อเทียบ Peer Comparison เห็น Book Value ของ AOT ประมาณสี่เท่าเทียบกับ Peer อย่าง BEM ยังอยู่เเถวสองเท่า ทำให้บุ๊คของ AOT ยังสูงกว่าทั้ง Sector ค่อนข้างมาก ( เเต่อย่างว่าครับ ตัวสินทรัพย์ + ใบอนุญาต + โมเดลธุรกิจของ AOT ไม่เเปลกที่บุ๊คจะสูงกว่าชาวบ้านเค้า )
ช่วยลุ้นต่อครับว่าประเด็นการพัฒนาที่ดินรอบสนามบินจะเป็นยังไงต่อเพื่อ Unlock Asset Value เเบบจริง ๆ จัง ๆ เเละถ้าทำได้จริงจะตีกลับมาเป็นกำไรให้ AOT ได้เเค่ไหน ต้องตามกันอีกทีครับ
Punyawe Chantarakajorn
The Investment Connector