กระแสเกมล่าเหรียญของแอป Jagat กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลายในสังคม ช่วงแรกมันเริ่มมาด้วยความตื้นเต้นและแปลกใหม่ กับเกมชิงรางวัลที่ไม่มีแอปไหนกล้าให้ขนาดนี้มาก่อน แต่หลังจากนั้นมันกลายเป็นความกังวลใจทั้งจากผู้ปกครองของเยาวชนที่ใช้แอปและจากผู้พบเห็น ทั้งเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัยในชีวิตจริง แต่สื่อไทยหลายแห่งกำลังนำเสนอข้อกังวลเหล่านี้คลาดเคลื่อนและทำให้คนแตกตื่นเกินไปอยู่หรือเปล่า?
แอปเกมหลอกลวง พนัน แชร์ลูกโซ่?
ตอนนี้หลายสื่อพาดหัวหรือใช้คำประมาณนี้ในการพูดถึงแอป Jagat ซึ่งเข้าใจได้ว่าอาจมาจากความไม่เข้าใจว่าแอปนี้มันคือแอปอะไรกันแน่ จริง ๆ แล้วแอปนี้ไม่ใช่เกมด้วยซ้ำ แต่มันคือโซเชียลมีเดีย (Social Media) หรือสื่อสังคมออนไลน์ ที่มีไว้ติดต่อพูดคุยกับผู้ใช้ด้วยกัน โดยเน้นไปที่คนสนิทใกล้ชิด อย่างคนรัก เพื่อน หรือคนในครอบครัว มากกว่าการติดตามคนดังหรือคนแปลกหน้า ซึ่งแอปมีฟีเจอร์เด่นในการติดตามตำแหน่งของเพื่อนในแอปตลอดเวลา โดยสามารถดูเปอร์เซ็นแบตเตอรี่อุปกรณ์และความเร็วในการเคลื่อนที่ของเพื่อนได้ จึงนิยมใช้ติดตามกันแค่คู่รักหรือคนในครอบครัวเท่านั้น
ส่วนเกมล่าเหรียญ คือหนึ่งในกิจกรรมโปรโมตแอป ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีมาหลายกิจกรรม ทั้งภารกิจคู่รัก บอกรักกัน 14 วัน ภารกิจชวนเพื่อนมาใช้แอป โดยจะได้รางวัลเป็นเงินสด คล้ายกับที่หลายแอปทำนั่นแหละ
ที่หลายสื่อนำเสนอคลาดเคลื่อนคือ ต้องจ่ายเงินก่อนจึงจะทำภารกิจหาเหรียญได้ จริง ๆ แล้ว แอปไม่ได้บังคับ แต่ผู้ใช้สามารถจ่ายเงินสมัครสมาชิกพรีเมี่ยมหรือซื้อคำใบ้ได้ ซึ่งจะช่วยให้ทำภารกิจง่ายขึ้น แต่ก็มีตัวช่วยที่ได้จากการดูวิดีโอโฆษณาด้วยเช่นกัน โดยรายได้การสมัครสมาชิกพรีเมี่ยมของผู้ใช้ และรายได้ค่าโฆษณาในแอป คือรายได้ของ Jagat ที่คาดว่าส่วนหนึ่งน่าจะถูกหมุนกลับมาเป็นเงินรางวัล (อ่านเพิ่มเติมเรื่องแอป Jagat ได้ที่: https://www.facebook.com/share/p/14pMrmaxzf/ )
เพราะฉะนั้น Jagat ไม่ใช่ทั้งแอปพนันหรือแชร์ลูกโซ่ เพราะถ้ามองแบบไม่อคติ มันเป็นกิจกรรมล่ารางวัลที่ไม่ต่างกับการเล่น Pokemon Go และไม่ได้บังคับจ่ายเงิน
ข้อมูลส่วนบุคคล
ความกังวลหลักเมื่อพูดถึงการใช้งานแอปพลิเคชันคือเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ ซึ่งแอป Jagat มีการขอสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลที่อ่อนไหวหลายอย่าง ทั้งรายชื่อผู้ติดต่อ โทรศัพท์ รูปภาพ/สื่อ/ไฟล์ พื้นที่เก็บข้อมูล กล้อง ไมโครโฟน ไวไฟ รหัสอุปกรณ์และข้อมูลการโทร และที่หลายคนกังวลเป็นพิเศษคือ ตำแหน่ง ที่มีการเข้าถึงตำแหน่งที่แม่นยำตลอดเวลาแม้ไม่ได้เปิดแอป
แต่ข้อมูลเหล่านี้นับเป็นพื้นฐานของโซเชียลมีเดียอยู่แล้ว โดยเฉพาะแอปประเภทติดตามตำแหน่ง ที่มีการแชร์ตำแหน่งอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ผู้ใช้อื่นที่เราอนุญาตสามารถเห็นตำแหน่งของเราได้ เทียบกับ iSharing และ GeoZilla ที่เป็นที่นิยม ก็ขอเข้าถึงแชร์ข้อมูลใกล้เคียงกัน
เรื่องความปลอดภัย บทความของ Beartai ก็ได้อธิบายไว้ว่า “การชำระเงินเป็นการชำระผ่านแพลตฟอร์มของร้านค้าแอปฯ ก็อาจสบายใจในส่วนของการเข้าถึงข้อมูลทางการเงินไปได้ส่วนหนึ่งด้วย….ทั้งนี้ จากการตรวจสอบก็ยังไม่พบว่า Jagat มีการตรวจพบจากแพลตฟอร์มตรวจมัลแวร์เจ้าต่าง ๆ และก็ยังไม่เคยมีข่าวว่าข้อมูลรั่วไหลแต่อย่างใด อาจจะเป็นเพราะมันเป็นแอปฯ น้องใหม่ที่ต้องรอเวลาพิสูจน์ตัวเองก็เป็นได้” ทั้งนี้ทางบทความก็ได้ตั้งประเด็นเรื่องการติดตามตำแหน่งตลอดเวลา ที่มาของรายได้และจุดประสงค์ในการแจกเงิน ซึ่ง Connect the Dots ได้อธิบายไว้แล้วด้านบน และในบทความก่อนหน้า
อีกทั้งยังมีคนเผยแพร่ข้อมูลผิด ๆ ว่าลบแอปไม่ได้ ทั้งที่จริง ๆ แล้วคุณสามารถลบได้ตามปกติ ทั้งแอปและข้อมูลในแอป เพราะมันไม่ใช่แอประบบแบบข่าว Fineasy และใน Play Store ก็มีบอกไว้
นอกจากนี้ การที่แอปไม่ได้ดำเนินการโดยบริษัทที่จดทะเบียนในไทยถือเป็นข้อพึงระวังได้แต่ไม่ใช่เรื่องควรกังวล เพราะ Play Store และ App Store เป็นแพลตฟอร์ม Global ผู้พัฒนาจากทั่วโลกสามารถเผยแพร่แอปข้ามประเทศและใช้งานในต่างประเทศได้เป็นธรรมดา หลายแอปยอดนิยมในไทยก็ไม่มีสำนักงานหรือจดทะเบียนในประเทศไทย
บุกรุก โดดเรียน เสี่ยงอันตราย
เรื่องที่ผู้ปกครองหลายคนกังวลที่สุด คือพฤติกรรมการออกล่าเหรียญของเยาวชนอย่างไม่เหมาะสม เนื่องจากมีข่าวพบเห็นเด็กนักเรียนโดดเรียนมาหาเหรียญ ออกมาหากันริมถนน พื้นที่เสี่ยงอันตราย และบุกรุกเข้าไปตามพื้นที่ส่วนบุคคล หรือแม้แต่สร้างความเสียหาย
แต่หากเราจะโทษว่ามันเป็นความผิดของแอปคงไม่ต่างกับกรณีที่มีเด็กคลุ้มคลั่งแล้วโทษว่าเล่นเกมรุนแรง จนหลายคนอาจหลงลืมไปว่าการดูแลให้เยาวชนปลอดภัยและสั่งสอนว่าอะไรควรไม่ควรมันเป็นหน้าที่ของผู้ปกครอง แอปอาจมีส่วนในการจูงใจ แต่แอปไม่สามารถกีดกันหรือบังคับผู้ใช้ได้ หากจะมัวแต่โทษแอป สุดท้ายแล้วปัญหาจริง ๆ ของเยาวชนเหล่านี้ก็จะไม่ถูกแก้ไข และถ้าที่บ้านไม่สอนเด็กให้ดี วันหนึ่งสังคมจะสอนพวกเขาเอง
ตอนหาเหรียญทางแอปได้มีการแจ้งเอาไว้ชัดเจนรวมทั้งมีประกาศอย่างเป็นทางการไว้แล้ว ว่าเหรียญจะไม่ฝังอยู่ในดิน ใต้น้ำ สถานที่ปิดทึบ พื้นที่ห้ามเข้า หรือศาสนสถาน รวมถึงขอความร่วมมือให้ผู้ใช้ “ระมัดระวังและหาเหรียญอย่างมีมารยาท และหลีกเลี่ยงการสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมหรือส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัย รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าโดยรอบ” ทั้งยังเตือนว่าหากมีการรายงานพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการค้นพบเหรียญ จะถือว่าเหรียญนั้นเป็นโมฆะ
ดังนั้นไม่ใช่ว่าทาง Jagat เมินเฉยและไม่ตระหนักถึงความเสี่ยงนี้ แต่เป็นผู้ใช้บางกลุ่มต่างหากที่สร้างความเดือดร้อนโดยไม่สนคำเตือน
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ยังน่าสงสัยอยู่คือการจ่ายเงินรางวัลผ่านบัญชีทรูมันนี่วอลเล็ตหลายบัญชี ทั้งที่โดยปกติทั่วไปการจ่ายเงินรางวัลจากบริษัทควรจะเป็นบัญชีเดียวกันตลอด ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางตำรวจไซเบอร์จะต้องสืบสวนต่อ ผู้ใช้จึงยังต้องระมัดระวังในการใช้งาน Jagat อยู่เสมอ
สรุปแล้วข้อกังวลใจเกี่ยวกับแอป Jagat และกิจกรรมล่าเหรียญที่หลายสื่อนำเสนอนั้น มีความคลาดเคลื่อนอยู่มากจนสร้างความแตกตื่นเกินควรด้วยความไม่เข้าใจ ทั้งนี้การใช้งานแอปพลิเคชันใดก็ตาม เป็นหน้าที่ของผู้ใช้ที่ต้องระมัดระวังการให้ข้อมูลและสิทธิ์การเข้าถึงอยู่แล้ว และการดูแลเยาวชนให้ปลอดภัย ไม่ทำพฤติกรรมเสี่ยงหรือรบกวนผู้อื่นก็เป็นหน้าที่ของผู้ปกครองที่ต้องใส่ใจ
สุดท้ายนี้เราไม่ได้กำลังบอกว่า Jagat ปลอดภัย 100% ไม่มีอะไรแอบแฝง ไม่ว่าจะเป็นแอปไหนที่เก็บข้อมูลผู้ใช้ละเอียดขนาดนี้ ถ้าข้อมูลหลุดไปก็เสี่ยงเกิดความเสียหายไม่น้อย เพียงแต่การรับสาร เสพข่าวจากที่ไหนก็ควรตรวจสอบให้แน่ใจอยู่เสมออย่าเผยแพร่ความเข้าใจผิด ๆ ให้คนอื่นแตกตื่นไปด้วยความ “ไม่รู้” และหากใครมีข้อมูล หรือรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอป Jagat ก็คอมเมนต์แลกเปลี่ยนกันได้เพื่อความเข้าใจถึงที่มาที่ไปของแอปนี้มากขึ้น