นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าในช่วงต้นปี 2568 นี้ ราคาทองคำได้ค่อย ๆ ปรับตัวขึ้น ในกรอบทิศทาง Sideway up และขึ้นไปทำระดับสูงสุดไว้ที่ระดับ 2,698 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยซ์ออนซ์ ซึ่งนับว่าไม่ไกลจากระดับสูงสุดเป็นประวัติกาลที่เคยทำเอาไว้ที่ระดับ 2,790 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยซ์ออนซ์
โดยสิ่งน่าสังเกตคือ การแกว่งตัวของราคาทองคำในช่วงเวลาดังกล่าว นั้นไปในทิศทางเดียวกันกับดอลลาร์สหรัฐ จึงเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งกลายมาเป็นกำลังซื้อหลักในการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในช่วงนี้ ทั้งนี้ ยังมีหลายปัจจัยสำคัญที่มากระทบ ดังนี้
[1.] การกลับเข้าซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ของธนาคารกลางจีน (PBOC) โดยได้ทำการซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 3.30 แสนทรอยออนซ์ ในเดือน ธ.ค. สู่ระดับการถือครองรวมทั้งสิ้น 73.29 ล้านทรอยออนซ์ หลังจากก่อนหน้านั้นได้หยุดทำการซื้อไป 6 เดือน แสดงให้เห็นว่า PBOC ยังมีความต้องการทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงของทุนสำรอง แม้ว่าราคาจะยังย่อตัวลงมาจาก All Time High ไม่มากก็ตาม
[2.] นักลงทุนเริ่มจับตาต่อความเสี่ยงในการเกิดการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลกครั้งใหม่ หลังจากที่ “คริสตาลินา กอร์เกียวา” กรรมการจัดการของ IMF ได้กล่าวว่า “เศรษฐกิจโลกในปี 2568 จะเผชิญกับความไม่แน่นอนสูงจากนโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะทิศทางนโยบายการค้าของสหรัฐฯ
[3.] สิ่งที่ตลาดกำลังจับตามากที่สุด เป็นในช่วงที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” กำลังเตรียมเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค. โดยเฉพาะนโยบาย “การตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้า”
ในขณะที่ ในวันที่ 14 ม.ค. สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ทีมเศรษฐกิจของ “โดนัลด์ ทรัมป์” กำลังหารือเกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษี “อย่างค่อยเป็นค่อย” ซึ่งจะส่งผลช่วยให้สหรัฐฯ สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในอัตราเงินเฟ้อที่อาจพุ่งขึ้นจากนโยบายดังกล่าวได้ จนเป็นหนึ่งในปัจจัยบวกที่สำคัญของทองคำในระยะนี้
นอกจากนี้ นายทรัมป์ ยังได้มีการกล่าวสุนทรพจน์ ที่แสดงความประสงค์ในการ ควบรวมดินแดนต่าง ๆ ทั้งแคนาดา ปานามา และกรีนแลนด์ ซึ่งถึงแม้แนวคิดนี้จะยังไม่มีความชัดเจน แต่ก็ทำให้ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นที่จับตามอง
อย่างไรก็ดี ในช่วงการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองนี้ จะเป็นที่น่าจับตาของตลาดอย่างมาก เนื่องจากจะมีกระแสข่าวที่มีความผันผวน อาทิ จากสำนักข่าว CNN ที่เคยได้รายงานว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” มีแผนที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ เพื่อปิดทางใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษีในทันที จนเป็นปัจจัยกดดันให้ทองคำผันผวน และถูกขายทำกำไรอยู่ช่วงหนึ่ง
ทั้งนี้ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำช่วงนี้ YLG แนะนำสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น ด้วยการหาจังหวะเข้าซื้อที่แนวรับ 2,652-2,634 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และขายทำกำไรระยะสั้นที่แนวต้าน 2,684-2,705 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
ส่วนทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ มองเคลื่อนไหวในกรอบ 43,250-44,400 บาทต่อบาททองคำ โดยทองคำแท่ง 96.5% จะได้อานิสงส์ในเชิงบวกมากขึ้น เนื่องจากได้ปัจจัยหนุนจากราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้น พร้อมการอ่อนค่าของค่าเงินบาท
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในทองคำในช่วงเทศกาลต้อนรับปีใหม่นี้ ทางด้าน YLG ก็มีโปรโมชั่นให้กับลูกค้าเปิดบัญชีใหม่ รับฟรี 3 ต่อ
1. รับแรก ฟรีกระปุกออมสิน สำหรับลูกค้าเปิดพอร์ตที่วางเอกสารครบและวางเงินขั้นต่ำ 50,000 บาท
2 .รับสอง ฟรี! แก้วน้ำเก็บความเย็น YLG เมื่อซื้อขายทองคำทั้งทองคำแท่ง 96.5% ขั้นต่ำ 100 บาททองหรือทองคำแท่ง 99.99% ขั้นต่ำ 2 กิโลกรัม
3. Friend get Friend รับเลยแก้วน้ำเก็บความเย็น YLG ฟรี! สำหรับลูกค้าเก่าที่แนะนำเพื่อนเปิดพอร์ต และมีเอกสารครบรวมถึงวางเงินขั้นต่ำ 50,000 บาท ระยะเวลาโปรโมชั่นตั้งแต่ 16 ธ.ค. 2567 – 31 มี.ค. 2568 สนใจโทร 02 – 687 9888 # 1
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด