โผล่อีกราย สาวโพสต์เผยวิธีบิดหนี้กยศ. อย่างภาคภูมิใจ ปิดท้ายว่า “บิดให้มันรู้สำนึกค่ะ กล้าปรับก็กล้าบิด ถ้าทุกคนรวมใจบิดมัน ไม่นานมันก็ล้มไปเอง องค์กรแบบนี้”
วิธีการที่สาวคนดังกล่าวใช้ในการหนีหนี้กยศ. รวมค่าปรับยอด 5 แสนกว่า คือการย้ายทรัพย์ก่อนโดนกยศ. ฟ้อง โดยในตอนแรกเธอย้ายทรัพย์ไปเป็นชื่อของป้าเธอ และหลังจากลูกสาวของเธออายุ 21 ปี สามารถทำธุรกรรมและนิติกรรมได้ ก็ย้ายทรัพย์มาเป็นชื่อลูกสาว รวมถึงทรัพย์ใหม่ก็ซื้อในชื่อลูกด้วย และรายได้จากธุรกิจก็นำไปเก็บเป็นทองคำแท่งไว้
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อทำให้เหมือนตัวเองไม่มีทรัพย์ ให้กยศ. ทวงไม่ได้ และต้องไปทวงที่คนค้ำต่อไป แต่ในกรณีนี้ ผู้ค้ำของเธอได้เสียชีวิตไปแล้ว และไม่ทิ้งมรดกให้ทายาท ทำให้ทายาทผู้ค้ำเองก็ไม่ต้องชดใช้อะไรเช่นกัน เท่ากับหนี้ก้อนนี้สูญไปเฉย ๆ
ทั้งนี้โพสต์ดังกล่าวก็ถูกลบไปแล้วจากกลุ่มเฟซบุ๊ก ทนายอาสาให้คำปรึกษากฎหมายฟรี โดยไม่ทราบตัวตนเจ้าของโพสต์ มีบางคนให้ความเห็นว่าน่าจะเป็นแอคเคาต์หลุมมาโพสต์ปั่นเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะปั่นหรือเรื่องจริง นี่ก็ไม่ใช่คอนเทนต์ที่ดีเลย เพราะนับเป็นการส่งต่อแนวคิดและทัศนคติที่เป็นภัยต่ออนาคตการศึกษาของชาติอย่างมาก ไม่ต่างอะไรกับกระแสยกหนี้กยศ. เมื่อสองปีก่อนเลย
ปัจจุบันสถานการณ์ของกยศ. เองก็นับว่าอยู่ในขั้นวิกฤติ เจอปัญหาสภาพคล่องเรื้อรังที่อาจทำให้ล้มได้ในอีกไม่ถึงปีหากยังแย่ลงกว่าเดิม และงบประมาณการกระแสเงินสดล่าสุดคาดว่าเงินสะสมจะติดลบในเดือนนี้กว่า 2 พันล้านบาท และลดลงเรื่อย ๆ
ทั้งนี้แม้ภาครัฐจะมีการเติมเงินสนับสนุนอยู่เรื่อย ๆ แต่ดูเหมือนว่าจะทำได้แค่ช่วยพยุงเอาไว้เท่านั้น และแม้ทางกยศ. เองจะได้มีนโยบายปรับโครงสร้างหนี้ให้ผู้กู้ยืมสามารถจ่ายคืนได้ง่ายขึ้นแต่การหวังให้ลูกหนี้จ่ายคืนมากขึ้นก็ยังเป็นเรื่องท้าทาย เพราะนอกจากเรื่องของความสามารถในการชำระหนี้แล้ว ก็คือเรื่องของทัศนคติของลูกหนี้ต่อการชำระหนี้ที่เป็นอุปสรรคสำคัญ
หนึ่งในไม้ตายสำคัญที่ง้างมานานตั้งแต่ปี 64 คือการส่งข้อมูลกู้ยืมกยศ. เข้าระบบเครดิตบูโร เพื่อให้สถาบันการเงินอื่น ๆ รับรู้ถึงประวัติการชำระหนี้ตั้งแต่การกู้ยืมกยศ. เลย ซึ่งหากลูกหนี้ต้องการมีประวัติการกู้ยืมที่ดีเพื่อการขอสินเชื่อในอนาคต ก็จำเป็นจะต้องชำระหนี้กยศ. ตามกำหนดให้ได้ด้วย
แต่สุดท้ายนี้ ไม่ว่าอย่างไรเชื่อว่าภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะทำทุกทางเพื่อไม่ให้กยศ. ล้ม เพราะนี่คือกองทุนกู้ยืมที่มีผลต่อการพัฒนาคนในชาติมากที่สุด หากกยศ. ล้มไป การศึกษาของไทยจะหยุดชะงักไปทันที ซึ่งส่วนที่สำคัญที่สุดในการกอบกู้องค์กรนี้คือลูกหนี้ทุกคน ที่จะส่งต่อโอกาสดี ๆ ที่เคยได้รับสู่เด็ก ๆ รุ่นต่อไป