ในปี 2566 ข่าวใหญ่ในวงการข่าวโทรทัศน์ ต้องมีกรณีการลาออกของพุทธอภิวรรณ องค์พระบารมี หรือ คุณพุทธ หรือ คุณเอก ที่คุณผู้ชมข่าวแนวดราม่า แนวอาชญากรรม ชื่นชอบ หลังออกจากสังกัดเดิมคือ อมรินทร์ทีวี ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งทีวีดิจิทัลในปี2557 ทั้งการเป็นขุนพลข่าว ผู้ประกาศข่าว และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ในช่วงปลายปี 2565
•
ก่อนจะตามมาด้วยการเปิดดีล ซึ่งสื่อบันเทิง และเพจดังด้านสื่อ ต่างให้ข่าวว่า มีทั้งช่องย่านพระราม 4 ช่องย่านหมอชิต บางที่เสนอเงินซื้อตัว 30 ล้านบาท สุดแล้วแต่จะมีข้อมูล หรือ เขาเล่าว่า ก่อนที่สุดท้ายคำเฉลยมาอยู่ที่ช่อง 8 ของเฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ แห่ง บมจ.อาร์เอส พร้อมกับจักรวาลพุทธอภิวรรณ ทั้งผู้ประกาศคู่ขวัญอย่างจิตดี ศรีดี และไอซ์-สารวัตร กิจพานิช ตามมาร่วมงานในรายการลุยชนข่าว และรายการข่าวช่อง8 ตั้งแต่หลังสงกรานต์ที่ผ่านมา
•
ความจริง พุทธอภิวรรณ เดิมมีชื่อและนามสกุลจริงว่า วีรวัฒน์ เนียมนัด แต่ชื่อพุทธอภิวรรณ เกิดจากเพื่อนไปหาหมอดูเพื่อเปลี่ยนชื่อ และหมอดูขอเรียกเงิน 5,000 บาท แต่คุณเอกในวันนั้น ไม่เชื่อว่า ชีวิตคนเราจะดีขึ้นด้วยการเสียเงินเพื่อเปลี่ยนชื่อ เลยเดินไปสำนักงานเขต และเปลี่ยนชื่อนามสกุลที่ตั้งเอง นั่นคือ ชื่อ “พุทธอภิวรรณ” มาจากไหว้พระและนับถือศาสนาพุทธ และ นามสกุล “องค์พระบารมี” มาจากการไหว้องค์พระขอให้บารมีคุ้มครอง เพื่อแสดงให้เห็นว่า ชีวิตเรากำหนดได้ด้วยตัวเรา แม้เพื่อนจะบอกว่า อย่าท้าทาย และชีวิตจะตกอับ
•
แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่า แนวทางการเล่าข่าวคล้ายกับสรยุทธ สุทัศนะจินดา แต่คุณเอก หรือ คุณพุทธ ผ่านสนามข่าวตั้งแต่สมัย INN เป็นนักข่าวสายอาชญากรรม จัดรายการวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน จัดรายการทางทีวีดาวเทียมอย่าง ไอเอ็นเอ็นนิวส์ เอ็มบีแชนแนล ไทยทีวีดี ทีนิวส์
•
ขณะที่แนวข่าวที่คนในยุคนึัเข้าใจว่าเขาถนัด คืออาชญากรรม ดราม่า และกระแส แต่คุณพุทธ เคยให้สัมภาษณ์ในนิตยสารแพรว ฉบับวันที่ 10 ธันวาคม 2556 ว่าความจริงเขาสนใจข่าวการเมือง ซึ่งแพรวระบุสไตล์ของเขาไว้ว่า “ถ้าเปรียบเป็นนักข่าวเป็นนักรบ พุทธอภิวรรณก็ถูกจัดอยู่ในประเภทนักรบแนวหน้าที่มีสไตล์บู๊แหลก กล้าได้กล้าเสีย และกล้าชนแบบไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหม พร้อมกับคติที่ยึดไว้ตลอดว่า ถ้ากลัวนักการเมือง ก็ไม่ต้องมาเป็นนักข่าว”
•
รวมทั้งเขาได้บอกในบทสัมภาษณ์ว่า มีผู้ใหญ่บางช่องรวมถึงฟรีทีวีติดต่อให้ไปทำงานด้วย แต่ผมอยากอยู่เคเบิ้ลก่อน (ทีนิวส์ทีวีขณะนั้น) เพราะถ้าไปฟรีทีวีรู้เลยว่า คงนำเสนอการเมืองเต็มที่ไม่ได้ ข้อจำกัดของผม คือ ถ้าไม่ให้ตรวจสอบการเมืองก็จบ ผมทำให้ไม่ได้ และวันนี้ คนไทยต้องรู้ทันนักการเมือง ไม่อย่างนั้นประเทศจะฉิบหายวายป่วง นั่นคือบทสัมภาษณ์ของเขาเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว
•
ก่อนที่อีกไม่กี่เดือนหลังจากการให้สัมภาษณ์นิตยสารแพรว เขามาทำงานที่อมรินทร์ทีวี สื่อโทรทัศน์ของ บมจ. อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง หรือ ปัจจุบันคือ บมจ. อมรินทร์คอร์เปอเรชั่นส์ บริษัทแม่ของนิตยสารแพรว หลังได้ใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ในเดือนเมษายน 2557
•
แม้ในสมรภูมิทีวีดิจิทัล 20 กว่าช่องเวลานั้น พุทธอภิวรรณ และจิตดี ศรีดี ทำรายการทุบโต๊ะข่าว กับสโลแกน “พูดความจริงในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้าพูด” ก่อนที่เขาจะหายไปจากหน้าจอในช่วงต้นปี 2559 หลังมีข่าวเขาลาออกไปยังช่อง 3 SD ทีวีดิจิทัลของช่อง3 และอาจจะไปแทนสรยุทธ สุทัศนะจินดา ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ หลังจากหยุดทำหน้าที่ จากคดีระหว่างไร่ส้ม และ อสมท. แต่เพียง 3 วันเขาก็กลับมา และสยบข่าวลือที่ว่านี้ และนั่นก็ทำให้ชื่อของพุทธอภิวรรณ กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น ที่ถึงขนาดจะเทียบรัศมีของสรยุทธแล้ว
•
และรายการทุบโต๊ะข่าว กลายเป็นรายการข่าวกลางคืน ที่ทำให้การเล่าข่าวอาชญากรรม และข่าวกระแสไม่เหมือนเดิม จากสมัยก่อนไปเฝ้าการแถลงข่าวของตำรวจ ไปทำข่าวการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หรือ ข่าวอาชญากรรม กลายเป็นข่าวที่ไม่สำคัญเท่าการเมือง เศรษฐกิจ ทำให้ช่องทีวีดิจิทัลคู่แข่ง ต้องปรับตัวตาม แม้แต่การดำเนินรายการ Hard Talk แบบต่างคนต่างคิด ที่ถือว่าไม่แพ้พิธีกรรายการประเภทนี้คนไหนในประเทศนี้ ชนิดถามขยี้ได้ไม่ออกนอกประเด็น และบางคำถามหลายคนอาจจะมองว่าดูแรงได้เช่นกัน
•
รวมทั้งเขาทำให้รายการทุบโต๊ะข่าว มีเรตติ้งสูงกว่าละคร แม้แต่ละครช่อง7 ซึ่งมีเรตติ้งอันดับ 1 จากการเสนอข่าวคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เมื่อปี 2563 ทำให้อมรินทร์ทีวี ซึ่งเดิมมีแต่รายการแนวบ้านและสวน ตามอำเภอจาน ช่างประจำบ้าน ชีพจรลงพุง กลายเป็นมีหมัดเด็ดที่รายการข่าว และถึงขนาดเพลงต้องมีท่อนร้องว่า “พุทธอภิวรรณ คุณจิตดี เชียร์ที่ช่องอมรินทร์”
•
พุทธอภิวรรณ ยอมรับว่า เคยเป็นคนมีอีโก้สูงมาก มองคนอื่นไม่เก่ง และมองว่าตัวเราเก่งที่สุดในบริษัท แต่เมื่อนั่งสัมภาษณ์นักการเมืองออกรายการสด ที่ถามแรง และถูกสวนกลับว่า ไม่รู้กฎหมาย จากรู้สึกตัวใหญ่เท่าเช้า นาทีนั้นพุทธกลับรู้สึกตัวค่อยๆ ลดลง พร้อมน้ำตาร่วง ความคิดที่เคยคิดว่า เราเก่งที่สุด เราแน่ที่สุด มันไม่ใช่ เราควรคิดว่าเราโง่ที่สุดเพื่อวันหนึ่งเราจะรู้ให้มากที่สุด หลังจากนั้นจากที่เคยทำการบ้านแบบหลวมๆ เพราะคิดว่าอ่านข่าวทุกวันอยู่แล้ว จึงพัฒนาปรับปรุงทำการบ้านมากยิ่งขึ้น และอยากทำงานได้ทุกสาย ไม่ว่าจะสายเศรษฐกิจ บันเทิง การเมือง ซึ่งเขาตั้งต้นเลยว่าเขาพร้อมเรียนรู้ทุกอย่าง เพื่อรับโอกาสต่างๆ ให้ได้มากขึ้น
•
หลังจากพุทธอภิวรรณ ทำงานแทบจะเป็นโลโก้ของอมรินทร์ทีวีมา 9 ปี และมาเริ่มงานใหม่ที่ช่อง8 หลังสงกรานต์ที่ผ่านมา ทางช่องระบุว่า วันศุกร์ 28 เมษายน 2566 นีลเส็น ได้เปิดเผยตัวเลขเรตติ้งรายการ ลุยชนข่าว ออกอากาศทั่วประเทศอยู่ที่ 1.03% มีการเข้าถึงของผู้ชมอยู่ที่ 1.9 ล้านคน และกลุ่มผู้ชมอายุ 30+ ที่อยู่ในหัวเมืองและกรุงเทพมหานคร มีเรตติ้ง 2.01% ทั้งนี้ยังส่งผลให้ภาพรวมทั้งช่อง โดยเฉพาะผู้ชมในกรุงเทพมหานคร เพิ่ม 31%
•
รวมทั้งเฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐ์โชติศักดิ์ ก็มั่นใจว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 และครึ่งหลังในปีนี้ของอาร์เอสกรุ๊ป จะเติบโตตามเป้าหมาย และ 1 ในนั้นคือ การมีรายการข่าวช่อง8ที่นำทีมโดยพุทธอภิวรรณ และจักรวาลของพุทธอภิวรรณนั่นเอง
•
ขณะที่ก่อนไปร่วมงานกับช่อง8 บริษัทของพุทธอภิวรรณ คือ บริษัท วีนิวส์ มีเดีย จำกัด Creden Data รายงานว่า โดยรวมมูลค่าของบริษัทตอนนี้ที่ 111,807,122 บาท คิดเป็นร้อยละ 2,236.14 ของทุน ส่วนผลประกอบการ ที่รายงานโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะปี 2565 มีรายได้ทะลุ 100 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิถึง 51 ล้านบาท หรือ เรียกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้เป็นกำไร
-ปี 2560 รายได้รวม 9 ล้าน 2 แสนบาท กำไรสุทธิ 5 ล้านบาท
-ปี 2561 รายได้รวม 74 ล้านบาท กำไรสุทธิ 16 ล้านบาท
-ปี 2562 รายได้รวม 78 ล้านบาท กำไรสุทธิ 16 ล้านบาท
– ปี 2563 รายได้รวม 85 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21 ล้านบาท
-ปี 2564 รายได้รวม 97 ล้านบาท กำไรสุทธิ 47 ล้านบาท
-ปี 2565 รายได้รวม 105 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 51 ล้านบาท
โดยมีทรัพย์สินรวม 169 ล้านบาท
หนี้สินรวม 6 ล้านบาท
ส่วนของผู้ถือหุ้น 163 ล้านบาท
และนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท 3 ตุลาคม 2560 บริษัท วีนิวส์ มีเดีย จำกัด สร้างรายได้รวม 448 ล้านบาท และกำไรสุทธิรวมกว่า 156 ล้านบาท
•
ทั้งนี้สื่อมวลชนรายงานว่า การมาร่วมงานกับช่อง8 ของพุทธอภิวรรณ ดีลมาทั้งบริษัท โดยบริษัทของพุทธอภิวรรณ ได้เข้ามามีส่วนร่วม ในผลิตรายการข่าวให้กับทางช่อง 8 ด้วย เรียกว่าได้ทั้งขึ้นทั้งร่อง ทั้งค่าผลิตรายการข่าวและเงินเดือนในฐานะพนักงานประจำ คือ ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว
•
จากที่ไม่เคยรักในอาชีพสื่อสารมวลชน ทำให้จบๆ เลิกงานเสร็จไปดื่มเหล้าต่อ รอรับเงินเดือนสิ้นเดือนก็ได้ เปลี่ยนไปเมื่อเขาได้ไปลงพื้นที่จริงทำข่าวและทำให้เขาตระหนักได้ว่า ตัวเขาและอาชีพที่เขาทำสามารถช่วยอะไรให้กับสังคมได้บ้าง ทำให้เขาค้นพบว่า เขารักและเข้าใจในอาชีพนี้แล้ว และต้องการจะเป็นกระบอกเสียงเพื่อช่วยเหลือคนในสังคมให้ดีขึ้นต่อไป
•
รวมทั้งประโยคที่เขามักพูดเวลาได้รับรางวัลจากสถาบันต่างๆ นั่นคือ “สื่อมวลชนก็เหมือนหมาเฝ้าบ้าน เราสัญญาว่า เราจะเป็นหมาที่ซื่อสัตย์กับคนไทย ในการทำหน้าที่สื่อมวลชนต่อไป” และ”ผมอาจจะไม่สามารถทำข่าวให้ถูกใจคนไทยทั้งประเทศ แต่ผมสัญญาว่าผมจะทำความจริงให้คนทั้งประเทศเห็น”
•
สุดท้าย เมื่อพุทธอภิวรรณเปลี่ยนชื่อจาก วีรวัฒน์ เนียมนัด ในวันนั้น ส่วนเพื่อนที่เปลี่ยนชื่อตามหมอดูและเสียเงิน 5 พันบาท พุทธอภิวรรณตอบคำถามนี้ว่า ผ่านมา 10ปีจนถึงวันนี้ เพื่อนคนนั้นยังเป็นลูกน้องเขาอยู่ แต่ผมได้เป็นหัวหน้าแล้ว และนั่นคือคำตอบของเขาเมื่อปี 2556 หรือเมื่อ 10ปีที่แล้ว และจนถึงวันนี้ก็คือ 20 ปีถัดมา แต่ประโยคที่เขาตอบต่อมา และน่าจะใช้ได้จนถึงวันนี้นั่นคือ “เป็นสิ่งพิสูจน์ว่า อย่าฝากชีวิตกับคนอื่นเยอะ สู้ด้วยตัวเองบ้าง” และวันนี้คำว่าผู้ประกาศข่าวระดับร้อยล้านเป็นของเขาแล้ว “พุทธอภิวรรณ องค์พระบารมี”
•
สามารถติดตามความเคลื่อนไหว connect the dots ได้ที่
Facebook : Connect the Dots
YouTube : www.youtube.com/@th.connectthedots
และทาง Spotify Podcast : connectthedotsth
#Connectthedots
•
ที่มา
https://hilight.kapook.com/view/231690
https://thestandard.co/surachai-launches-buddha-8ch-news…/
https://thestandard.co/phuttha-apiwan-new-challenges…/
https://www.komchadluek.net/ent…/thai-entertainment/539869
https://www.facebook.com/100068246140844/posts/566647355620131/?mibextid=cr9u03
https://moneyandbanking.co.th/2023/36246/
https://www.rs.co.th/th/อาร์เอส-กรุ๊ป-ไตรมาส2/
https://mgronline.com/entertainment/detail/9660000033499
https://www.facebook.com/100070882765280/posts/247384520967638/?mibextid=cr9u03