CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: 4 วิธีหารายได้จากโลกคริปโทฯ
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Investment (Closed) > 4 วิธีหารายได้จากโลกคริปโทฯ
Investment (Closed)

4 วิธีหารายได้จากโลกคริปโทฯ

connectthedots admin
Last updated: 2023/07/01 at 5:34 AM
connectthedots admin Published March 14, 2022
Share

สิ่งที่จำเป็นมากที่สุดสำหรับการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี่นั่นคือ ‘ความรู้ทางด้านบล็อคเชน’ เพื่อที่จะได้รู้ว่าเทคโนโลยีฐานข้อมูลไร้ตัวกลางนั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง และหลังจากที่ Creative Investment Space ได้อธิบายถึงที่มามูลค่าของเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่, การทำงานของบล็อคเชน, สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) และระบบการเงินกระจายศูนย์อย่าง DeFi กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราจะมาดูกันว่าการสร้างรายได้ในโลกของคริปโตฯ มีวิธีใดบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบให้นักลงทุนพิจารณาดูว่าแนวทางใดที่เหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุด

Contents
การซื้อเหรียญคริปโทฯ เพื่อเก็งกำไรการขุดเหรียญ (Crypto Mining) ลงทุนใน Yield Farming ของ DeFi รับ Airdrop เหรียญจากการทดลองใช้งานแพลตฟอร์ม

การซื้อเหรียญคริปโทฯ เพื่อเก็งกำไร

วิธีการสร้างรายได้จากคริปโตเคอร์เรนซี่ ที่ง่าย และเป็นที่แพร่หลายมากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งสามารถซื้อขายได้ผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) หรือนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) โดยในปัจจุบันนั้นได้มีศูนย์ซื้อขาย และนายหน้าที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ในการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่หลายราย อย่างเช่น BITKUB, Zipmex, Satang Pro ที่ทำธุรกิจศูนย์ซื้อขาย และ Bitazza กับ KULAP ที่ทำธุรกิจทางด้านนายหน้า

แม้ว่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่จะเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2021 ที่ผ่านมา มูลค่ารวมของตลาดมีการเติบโตจาก 25 ล้านล้านบาท (1 มกราคม 2021) ทะยานไปสู่ 74 ล้านล้านบาท (31 มกราคม 2021) ซึ่งคิดเป็น 193% ในเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น แต่ก็หากเลือกลงทุนโดยไม่ศึกษาพื้นฐานของเหรียญ หรือข้อมูลของราคาย้อนหลังอาจทำให้คุณต้องสูญเงินเป็นจำนวนมหาศาลได้เช่นกัน เพราะเป็นตลาดคริปโทฯนั้นมีความผันผวนของราคาที่ค่อนข้างสูง การวางแผนการการลงทุน และการบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับตลาดคริปโทฯ 

การขุดเหรียญ (Crypto Mining) 

ย้อนกลับไปในปี 2009 ที่เหรียญคริปโทฯ ตัวแรกอย่างบิตคอยน์ (Bitcoin) ถือกำเนิดขึ้นมา นายซาโตชิ นาคาโมโตะ ได้สร้างระบบ ‘บิตคอยน์บล็อคเชน’ ระบบการเงินไร้ตัวกลางที่ให้ผู้คนในเครือข่ายคอยยืนยันความถูกต้องในการทำธุรกรรม โดยให้คนในเครือข่ายแข่งกันแก้สมการคณิตศาสตร์ขั้นสูงเพื่อที่จะได้แย่งชิงกันว่าใครจะเป็นผู้มีสิทธิ์ในการยืนยันธุรกรรม และเพิ่มบล็อคข้อมูลใหม่ลงไปยังระบบ ซึ่งรางวัลของผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในการยืนยันความถูกต้องคือเหรียญบิตคอยน์ส่วนหนึ่งที่ได้ถูกเพิ่มขึ้นมาในระบบ กระบวนการดังกล่างนั้นคือ ‘การขุดเหรียญ’ ที่เรารู้จักกันนั่นเอง

หากการซื้อขายเหรียญคือการได้มาของเหรียญคริปโทฯ ที่อยู่ในระบบอยู่แล้ว ‘การขุด’ ก็คือการเพิ่มเหรียญเข้าไปในระบบ ซึ่งตัวเรานั้นสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะเป็นผู้ยืนยันธุรกรรมของบล็อคเชนเครือข่ายใด ยกตัวอย่างเช่น หากเรายืนยันธุรกรรมของบิตคอยน์บล็อคเชน เราก็จะได้รับเหรียญบิตคอยน์มาเป็นรางวัล แต่หากเรายืนยันธุรกรรมของอีธีเรียมบล็อคเชน เราก็จะได้เหรียญอีธีเรียมมาแทน 

ซึ่งบล็อคเชนที่ใช้ระบบการยืนยันโดยการขุดเราเรียกว่าระบบ ‘Proof Of Work’ หรือการใช้กำลังไฟฟ้าเป็นตัวยืนยันความถูกต้องในการทำธุรกรรม ในปัจจุบันบล็อคเชนของเหรียญคริปโทฯ ที่ยังคงใช้ระบบ Prook of work ได้แก่ Bitcoin, Ethereum, Dogecoin, Litecoin และเหรียญอื่นๆ อีกมากมาย 

โดยการที่จะขุดเหรียญนั้นจำเป็นจะต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีโปรแกรมขุดเหรียญ ซึ่งแต่ละเหรียญก็จะใช้โปรแกรมที่แตกต่างกันออกไป และความเร็วในการประมวลผลนั้นขึ้นอยู่กับ ‘ความแรงของการ์ดจอ’ ที่การ์ดจอที่แรงกว่าก็จะให้ความเร็วในการประมวลผลที่มากกว่า หรือการใช้เครื่องขุดสำเร็จรูปอย่าง Application-Specific Integrated Circuit (ASIC) ก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน แต่แน่นอนว่ากำลังในการขุดก็จะน้อยกว่า และกินไฟมากกว่า อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการลงทุนในเครื่องขุดเองอย่าง Cloud Mining ที่ว่าจ้างให้คนอื่นขุดให้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย 

ผู้ที่จะลงทุนในเครื่องขุดจึงควรที่จะคำนวนต้นทุน และผลตอบแทนที่ได้รับให้ดีเพราะนอกจากจะต้องจัดเตรียมพื้นที่สำหรับเครื่องขุด และบิลค่าไฟที่จะตามมาอย่างมหาศาลแล้วนั้น เหรียญบางเหรียญยังได้ถูกออกแบบให้ลดรางวัลที่ได้จากการขุดตามเวลาที่มากขึ้นอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น บิตคอยน์ ที่จะมีเหตุการณ์ที่เรียกว่า ‘ฮาล์ฟวิ่ง (Halving)’ หรือการลดผลตอบแทนที่ได้จากการขุดครึ่งหนึ่งทุกๆ 4 ปี ส่งผลให้การได้มาของบิตคอยน์นั้นยากขึ้นกว่าเดิม โดยการฮาล์ฟวิ่งครั้งล่าสุดนั้นเกิดขึ้นในปี 2020 ที่ให้ลดผลตอบแทนจาก 12.5 เหลือ 6.25 บิตคอยน์ต่อหนึ่งบล็อค แต่นั่นก็เป็นกลไกที่ทำให้ราคาของบิตคอยน์พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน เพราะปริมาณของบิตคอยน์ได้ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่วันแรกที่มันถือกำเนิดว่าจะมีเพียงแค่ 21 ล้านบิตคอยน์ทั่วโลกเท่านั้น

ลงทุนใน Yield Farming ของ DeFi 

ระบบการเงินไร้ตัวกลางหรือ DeFi นั้นกำลังส่งสัญญานเตือนไปธุรกิจการเงินดั้งเดิม ว่า ‘เทคโนโลยี DeFi นี่แหละที่อาจจะมาเป็นปฏิวัติวงการการเงิน’ ด้วยการใช้งานสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ที่ตัดความผิดพลาดของมนุษย์ (Human Error) ออกไปได้อย่างสมบูรณ์ จนทำให้เกิดแอพลิเคชั่นไร้ตัวกลางทางด้านการเงิน ที่มีเพียงโค้ดคำสั่งที่ซื่อตรง และนักพัฒนาที่คอยกำหนดทิศทางของแพลตฟอร์มเท่านั้น แม้ว่าจะไม่ได้กระจายศูนย์อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็มากกว่าธุรกิจการเงินในแบบดั้งเดิม

บริการหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนคือการฝากเหรียญคริปโทฯ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับแพลตฟอร์มเพื่อรับผลตอบแทน หรือที่เรียกว่า Yield Farning นั่นเอง โดยแพลตฟอร์มอย่าง Anchor ของ Terra Chain สามารถให้ผลตอบแทนได้ถึง 20% ต่อปีเลยทีเดียว 

รับ Airdrop เหรียญจากการทดลองใช้งานแพลตฟอร์ม

หลังจากที่ DeFi ได้รับความนิยมอย่างมากในแวดวงของผู้คนที่ลงทุนในคริปโทฯ ทำให้เกิดแอพพลิเคชั่นไร้ตัวกลาง (Decentralize Application) เกิดขึ้นมากมาย ส่งผลให้บางแพลตฟอร์มที่พึ่งเปิดให้บริการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดในการโปรโมต ด้วยการมอบเหรียญของแพลตฟอร์มบางส่วนให้กับผู้ที่ทำตามเงื่อนไขที่แพลตฟอร์มกำหนด อย่างเช่นการลองเข้าไปใช้บริการแพลตฟอร์ม หรือถือครองเหรียญของแพลตฟอร์มในระยะเวลาที่กำหนด โดยในภาษาของโลกคริปโทฯ วิธีการดังกล่าวเรียกว่า ‘การรับ Airdrop เหรียญ’

ซึ่งเหรียญที่ได้รับมานั้นจะมีมูลค่าที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริการของแพลตฟอร์มว่าจะโดดเด่นมากน้อยเพียงใดไหน โดยมีตั้งแต่ Airdrop หลักร้อยไปจนถึงหลักล้านเลยทีเดียว อย่างกรณีที่เกิดขึ้นกับ dYdX แพลตฟอร์มที่ให้บริการซื้อขายอนุพันธ์ไร้ตัวกลางของ Ethereum Blockchain ที่จะมอบเหรียญ dYdX ให้กับผู้ที่ได้เข้าไปทดลองใช้บริการของแพลตฟอร์ม โดยผู้ใช้งานระดับต่ำสุดจะได้รับ 310 โทเคน และผู้ใช้งานระดับสูงสุดจะได้รับอยู่ที่ 9,529 โทเคน ซึ่งในวันแรกของการเข้าตลาด ราคาของเหรียญ dYdX ได้ทะยานไปอยู่ที่ 14.24 ดอลลาร์สหรัฐฯ นั่นหมายความว่าผู้ใช้งานระดับต่ำสุดจะได้รับเงินเกือบ 150,000 บาท และผู้ใช้งานระดับสูงสุดได้รับมากถึง 4,500,000 บาท เลยทีเดียว การติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการรับ Airdrop เหรียญจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

จะเห็นได้ว่าในโลกของคริปโทเคอร์เรนซี่ ผู้ที่ศึกษาเทคโนโลยีบล็อคเชนอย่างถ่องแท้ จะสามารถเข้าถึงโอกาสในการสร้างรายได้จากโลกคริปโทฯ ได้มากกว่าการซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ทั้งนี้อยากให้นักลงทุนลองพิจารณาดูถึงแนวทางทั้ง 4 ที่ Creative Investment Space ได้ลองเสนอไปว่า วิธีการลงทุนในโลกคริปโทฯ แบบใดที่เหมาะกับคุณ เพราะการลงทุนในสิ่งที่คุณเชี่ยวชาญย่อมที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับคุณได้มากที่สุด แต่การศึกษาถึงแนวทางอื่นก็เป็นทางเลือกที่สร้างโอกาสให้คุณได้อีกมากมายมหาศาลได้อีกเช่นกัน

ที่มา:

https://www.sec.or.th/digitalasset

https://mgronline.com/stockmarket/detail/9650000002483

https://moneymint.com/best-cryptocurrency-to-mine/

https://siamblockchain.com/

https://www.finnomena.com/

You Might Also Like

“เอกา โกลบอล” ประเมินธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร รับมือนโยบาย ‘ทรัมป์’

Bitcoin ช่วยป้องกันเงินเฟ้อได้ดี ท่ามกลางการจัดระเบียบโลก

นโยบายประชานิยม กับดักความจน ตัวการพังเศรษฐกิจไทย?

YLG ชี้ทองคำแกว่งตัวกรอบบน รับดอลลาร์อ่อนค่า ลุ้นแตะ 3,000 ดอลลาร์

TAGGED: Crypto, crypto101, Cryptocurrency, DeFi, การลงทุน, การลงทุนโลก, คริปโท, นักลงทุน, บิทคอยน์, ลงทุน, สินทรัพย์, เศรษฐกิจ

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
connectthedots admin March 14, 2022
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article หุ้นไหนใครใหญ่? ดูได้จากไหน?
Next Article NFT คืออะไร
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?