CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: สำรวจอาณาจักร และวิวัฒนาการของ Google ที่ว่าระดับโลกใหญ่ขนาดไหน ทำอะไรมาแล้วบ้าง
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Business > สำรวจอาณาจักร และวิวัฒนาการของ Google ที่ว่าระดับโลกใหญ่ขนาดไหน ทำอะไรมาแล้วบ้าง
Business

สำรวจอาณาจักร และวิวัฒนาการของ Google ที่ว่าระดับโลกใหญ่ขนาดไหน ทำอะไรมาแล้วบ้าง

CTD admin
Last updated: 2024/04/26 at 10:09 AM
CTD admin Published April 26, 2024
Share

ในตอนนี้ Google กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างร้อนแรงจากข่าวอดีตผู้บริหารหญิงเมาแล้วขับ ซึ่งทาง Google ประเทศไทยก็ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า ผู้บริหารคนดังกล่าวได้ลาออกไปตั้งแต่เดือนมกราคม ในบทความนี้ ราไม่ได้จะมาพูดถึงตัวข่าว แต่เราจะพาไปสำรวจกันดูว่า Google ที่ว่าเป็นบริษัทระดับโลกนี้ยิ่งใหญ่ขนาดไหน ทำอะไรบ้างและเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างจากวันแรกสู่วันนี้

ในยุคดิจิทัลแบบนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก Google แล้ว เพราะตลอดช่วง 20 กว่าปีมานี้ Google เป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนเทคโนโลยีสำคัญ ๆ ของโลกนี้มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Search Engine อัจฉริยะที่กลายมาเป็นอันดับหนึ่ง ระบบคลังข้อมูลขนาดยักษ์ การพัฒนาซอฟต์แวร์ออนไลน์ต่าง ๆ ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงแทบไม่ได้ แต่บางคนที่ไม่ได้ตามข่าวสารฝั่งธุรกิจหรือเทคโนโลยีเป็นประจำ ก็อาจจะยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว Google มีอะไรดีมากกว่านั้น

บริษัทเริ่มก่อตั้งในปี 1996 โดยสองนักศึกษาสแตนฟอร์ด แลร์รี่ เพจ และ เซอร์เกย์ บริน ในโปรเจกต์การจัดอันดับเว็บไซต์เพื่อการค้นหาที่ง่ายขึ้น จนในปี 1998 ก็มาใช้ชื่อ Google จากคำว่า “Googol” 

หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ พัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ และเปิดตัวบริการที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง 

Gmail เปิดตัวในปี 2004 กลายมาเป็นบริการอีเมลอันดับ 1 ของโลกด้วยผู้ใช้งานกว่า 1.8 พันล้านคน แซงหน้ารุ่นพี่อย่าง Yahoo ได้หลังเปิดตัวไม่นาน

Google Maps เปิดตัวในปี 2005 เข้ามาช่วยให้การเดินทางในชีวิตประจำวันง่ายขึ้น ซึ่งปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่กว่า 200 ประเทศ ข้อมูลแผนที่ 220 ล้านไมล์ ช่วยประหยัดเวลาการเดินทางได้มากกว่า 1.5 พันล้านชั่วโมงต่อปี 

Google Translate เปิดตัวปี 2006 ด้วยการแปลแบบอาศัยสถิติ และพัฒนามาใช้การแปลจำลองการคิดแบบสมองมนุษย์ด้วยการใช้ AI เข้ามาช่วยให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ปัจจุบันรองรับกว่า 133 ภาษา มีคนใช้งานมากที่สุดในโลกกว่า 500 ล้านคนต่อวัน 

ซื้อ Android มาพัฒนาต่อในปี 2005 และ ซื้อ YouTube ในปี 2006 ซึ่งกลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญของ Google

Google Chrome เปิดตัวในปี 2008 และกลายเป็นบราวเซอร์อันดับหนึ่งที่มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 66% 

Google Drive เปิดตัวปี 2012 ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบคลาวด์ที่ปลอดภัย เข้าถึงง่าย และสะดวกมาก ๆ มีการอัปโหลดกว่า 8 พันล้านไฟล์ทุกวัน

Google Assistant เปิดตัวในปี 2016 เป็นก้าวแรกก้าวสำคัญของการเข้าสู่ตลาด AI ด้วยการเป็นผู้ช่วยในอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้บริการของ Google 

Google Meet  เปิดตัวในปี 2020 ปรับตัวตาม New Normal ที่เกิดขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่ง Google Meet ก็ได้นำความสะดวกที่ขาดไม่ได้มาสู่ระบบนิเวศน์ของ Google เองด้วย

Bard – Gemini เมื่อเข้าสู่ยุคของ AI ทางบริษัทก็เดินหน้าแข่งขันอย่างเติมกำลัง เปิดตัว Bard ในปี 2022 ก่อนที่จะพัฒนาเพิ่มเติมและเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Gemini ในปี 2023 ซึ่งก็นับว่าเป็น AI ที่อัจฉริยะมาก จนทั้ง Samsung และ Apple เลือกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง

ซึ่งที่ Google ยังเติบโตและสร้างสรรค์นวัตกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องได้ขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะการ IPO เข้าตลาดหุ้น Nasdaq ตั้งแต่ปี 2004 ระดมเงินทุนกว่า 23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ราคาต่อหุ้นที่ 85 ดอลลาร์ ถือเป็นการ IPO ที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในช่วงนั้น 

ในปี 2016 ก็ได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจ ก่อตั้งบริษัท Alphabet ขึ้นมาเป็นบริษัทแม่ ดูแลธุรกิจในเครือทั้งหมด เพื่อให้ Google สามารถโฟกัสกับธุรกิจของตัวเองได้เต็มที่

ทุกวันนี้ Alphabet หรือ Google กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดอันดับ 4 ของโลก ด้วย Market Cap กว่า 1.950 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 72 ล้านล้านบาท ราคาหุ้นที่ประมาณ 157 ดอลลาร์ต่อหุ้น มีรายได้ปีล่าสุด 2023 รวมกว่า 307 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถ้าอิงสัดส่วนรายได้จากเอเชียแปซิฟิก 17 % และเทียบว่าไทยมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็น่าจะมีรายได้จากไทยปีละหลายพันล้านดอลลาร์เลย

You Might Also Like

PTG โชว์ยอดขาย Non-Oil โต 32.2% กาแฟพันธุ์ไทย ขยายสาขาได้เฉลี่ย 1.5 สาขา/วัน

AOT ราคาเท่าไหร่ถึงเรียกว่าถูก?

เอพี ไทยแลนด์ โชว์ผลประกอบการ Q1/68 ยอดขายพุ่งทะลุ 12,110 ล้าน ย้ำศักยภาพทางการเงินแข็งแกร่ง

SET – Nasdaq ลงนาม MOU เสริมศักยภาพตลาดทุนไทยด้วยเทคโนโลยี

TAGGED: AI, Gmail, Google, NASDAQ, YouTube, เทคโนโลยี

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin April 26, 2024
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article Merkle Capital เปิดตัวกลยุทธ์เชิงรุก M-ACT ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล 100 อันดับแรกเปิดทำการ 30 เม.ย. นี้
Next Article SET ลุ้นปัจจัยบวกใหม่ จับตาหุ้นปันผลสูง
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?