CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: มาตรการอสังหาฯ ปลดล็อควิกฤตกำลังซื้อแค่ไหน?
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Business > มาตรการอสังหาฯ ปลดล็อควิกฤตกำลังซื้อแค่ไหน?
Business

มาตรการอสังหาฯ ปลดล็อควิกฤตกำลังซื้อแค่ไหน?

CTD admin
Last updated: 2024/04/30 at 4:53 AM
CTD admin Published April 30, 2024
Share

สถานการณ์ตลาดบ้านและคอนโดมิเนียมเหลือขายในตลาด ทำไมยังออกอาการน่าเป็นห่วง

ความกังวลเกี่ยวกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญของการเคลื่อนตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของประเทศที่กำลังติดกับดัก “สต็อกคงค้าง” ด้วยตัวเลขบ้านและคอนโดมิเนียมเหลือขายมากถึง 2 แสนหน่วย นำมาสู่การออกมาตรการกระตุ้นเมื่อ 9 เมษายน 2567 ผ่าน 5 มาตรการที่สำคัญ​

  • ลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาฯจาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนอง อสังหาฯ จาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับบ้านและคอนโดราคาไม่เกิน 7 ล้าน
  • คนสร้างบ้านบนที่ดินตัวเอง หักลดหย่อนภาษีได้ 1 หมื่นบาทต่อค่าก่อสร้าง 1 ล้านบาท แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 1 แสนบาท เริ่มมีผลถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568
  • สินเชื่อบ้าน Happy Home วงเงินโครงการ 20,000 ล้านบาท โดยธนาคารอาคาร สงเคราะห์ (ธอส.)เริ่มมีผลแล้วถึง 30 ธันวาคม 2568 4. โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Life 
  • สินเชื่อบ้าน Happy Life วงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท โดย ธนาคารอาคาร สงเคราะห์ (ธอส.)ธอส.
  • สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ประกอบการ เป็นระยะเวลา 3 ปี วงเงิน ไม่เกิน 100% ของเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและทุบหมุนเวียน) เพื่อโครงการสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท 

สต็อกล้น กำลังซื้อฝืด

มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ดังกล่าวสร้างความคึกคักและส่งสัญญาณที่ดีให้กับตลาดในภาพรวม เมื่อมีสต็อกล้นตลาดที่ยังรอขายการออกอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 2 แสนหน่วย

โดยตัวเลขที่น่าสนใจสะท้อนจากศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) นำเสนอที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จ แต่ไม่มีคนพักอาศัยมากถึง 1,309,551 หน่วย ในจำนวนนี้อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลไปแล้วเกินครึ่ง หรือ 617,923 หน่วย

ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว ราคา 5-10 ล้านบาท 23,085 หน่วย บ้านแฝดราคา 3-5 ล้านบาท 14,747 หน่วย ทาวน์เฮาส์ ราคา 2-3 ล้านบาท 42,051 หน่วย และคอนโด ราคา 2-3 ล้านบาท  28,285 หน่วย

ขณะที่ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) สรุปข้อมูล ไตรมาส 4 ปี 2566  เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีอุปทานที่อยู่อาศัยที่เสนอขายทั้งหมด 228,102 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 1,264,325 ล้านบาท 

จากตัวเลขดังกล่าว ผู้ที่อยู่ในแวดวงอสังหาฯ ได้ให้มุมมองว่าคงต้องใช้เวลาค่อนข้างมากกว่าจะระบายสต็อกจำนวนมากที่มีอยู่ในตลาดออกไปได้หมด ขณะเดียวกันก็ยังมีจำนวนบ้านและคอนโดสร้างใหม่ของปี 2567 ที่จะทยอยเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

ขอสินเชื่อยาก-หนี้ครัวเรือน

การสร้างผลกระทบทางบวกของมาตรการอสังหาฯ ยังคงเป็นคำถามสำหรับดีเวลอปเปอร์และธุรกิจเกี่ยวเนื่องว่าจะแรงพอที่จะฟื้นภาพรวมตลาดที่นิ่งสลับกับถดถอยมาตั้งแต่สถานการณ์โควิดคลี่คลาย

เนื่องจากยังมี 2 ข้อจำกัดใหญ่ที่ทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ยากขึ้น นั่นคือ หนี้ครัวเรือน และ การปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์

ภาพรวมหนี้ครัวเรือนไทยอยู่ที่ 16.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.3% ที่มาจากทั้งการผ่อนชำระที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว ผ่อนรถยนต์ การศึกษา และค่าใช้จ่ายส่วนตัว

อัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน ทั้งดอกเบี้ยบัตรเครดิต และดอกเบี้ยที่อยู่อาศัย ส่งผลให้ค่างวดบ้านสูงขึ้น แต่ตัดเงินต้นได้น้อยลง กลายเป็นภาระที่หนักอึ้ง ทั้งคนที่ซื้อบ้านแล้วและอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ และคนที่กำลังวางแผนซื้อบ้านที่ต้องชะลอการตัดสินใจออกไป

นอกจากนี้ การระบายสต็อกของอสังหาฯ ในภาพรวมยังต้องเจอกับความท้าทายจากสถาบันการเงินที่เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อซื้อบ้าน โดยมีอัตราการปฏิเสธสูงกว่า 50%

LTV-ลดดอกเบี้ย คือทางรอด

การแบ่งเบาภาระผู้ที่วางแผนซื้อที่อยู่อาศัยผ่านมาตรการกระตุ้น ทั้งลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และจดจำนองลงเหลือรายการละ 0.01% ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท รวมถึงมาตรการสินเชื่อบ้านของสถาบันการเงินที่ออกมามีทั้ง แบงก์ออมสิน ที่ สนับสนุนสินเชื่อสำหรับบุคคลทั่วไป เพื่อซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ห้องชุด หรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก ร้อยละ 2.95 ต่อปี นับเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง

อย่างไรก็ดี สิทธิประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ดังกล่าวอาจไม่จูงใจมากพอที่จะตัดสินใจซื้อบ้านและคอนโด โดยเฉพาะกลุ่มกำลังซื้อบ้านต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่เปราะบางกับปัญหาธนาคารพาณิชย์ปฏิเสธสินเชื่อ ประวัติเครดิตบูโร และหนี้ครัวเรือน

ความเห็นจากดีเวลอปเปอร์และนักวิชาการที่มีต่อข้อจำกัดนี้สะท้อนไปในทิศทางเดียวกันถึงข้อดีของการนำมาตรการ LTV (Loan-to-value ratio) ที่สิ้นสุดลงเมื่อ 31 ธันวาคม 2566 กลับมาใช้ใหม่ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและตลาดอสังหาฯ ในภาพรวม

โดยมาตรการ LTV ที่สิ้นสุดไปแล้ว เปิดโอกาสให้คนซื้อที่อยู่อาศัยไม่เกิน 10 ล้านบาท ขอสินเชื่อได้ 100% และขอเพื่อตกแต่งเพิ่มได้อีก 10% ส่วนคนที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 ราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท ขอสินเชื่อได้ 70-90% ขณะที่ซื้อบ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ขอสินเชื่อได้ 70-90%

รวมทั้งการผ่อนปรน ไม่นำประวัติเครดิตบูโรของผู้ขอสินเชื่อบ้านมาพิจารณา และการลดดอกเบี้ย

จับตาหนทางฟื้นตลาดอสังหาฯ จาก 5 มาตรการที่ปล่อยออกมา กับความคาดหวังถึงอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง และ มาตรการ LTV

“ตัวช่วย” ไหนจะปลดล็อคสต็อกบ้านและคอนโดล้นตลาดได้จริง ทั้งหมดนี้ยังต้องพิสูจน์กันในอีก 2 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้

You Might Also Like

เอพี ไทยแลนด์ โชว์ผลประกอบการ Q1/68 ยอดขายพุ่งทะลุ 12,110 ล้าน ย้ำศักยภาพทางการเงินแข็งแกร่ง

SET – Nasdaq ลงนาม MOU เสริมศักยภาพตลาดทุนไทยด้วยเทคโนโลยี

การบินไทยเผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 สะท้อนการเติบโตต่อเนื่อง เตรียมออกจากแผนฟื้นฟู พร้อมกลับเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์

ก.ล.ต. นับ 1 ไฟลิ่ง MASTEC พร้อมขาย IPO 79 ล้านหุ้น เข้าตลาด SET

TAGGED: condo, คอนโด, บ้าน, อสังหาริมทรัพย์

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin April 30, 2024
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article เหลี่ยมคนไทย ไม่แพ้ชาติไหนในโลก “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” กับ “บริการรับจ่ายบิล” เสี่ยงโกง เสี่ยงหนี้ เสี่ยงทุกอย่าง แต่ทำไมยังทำ?
Next Article “โกลเบล็ก” คัดหุ้นเด่นรับนโยบาย Digital Wallet
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?