14 มีนาคมที่ผ่านมา พี่กอล์ฟ FHERO สร้างปรากฎการณ์ให้วงการดนตรีอีกครั้ง แต่ไม่ใช่แค่ในไทยเท่านั้น แต่เป็นคลื่นลูกใหญ่ที่สะเทือนไกลถึงญี่ปุ่นและสากล จากการปล่อยเพลง “Leave It All Behind” ที่ได้ร่วมงานกับ BABYMETAL ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปจากญี่ปุ่น และยังร่วมกับศิลปินร็อกระดับตำนานของไทยอย่าง BODYSLAM ด้วย ตัวเพลงออกมามีเสน่ห์ลงตัวมาก ๆ จนต่างชาติทำวิดีโอรีแอคชั่นเพลงนี้ออกมามากมาย และต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “สุดยอด” จนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพลงก็มียอดผู้ชมทะลุ 1,000,000 วิวบน YouTube แล้ว
ความพิเศษของการคอลแลปส์ในครั้งนี้คือการร่วมงานกับ BABYMETAL ศิลปินแนวเมทัลที่ร็อกได้น่ารักมาก ๆ พวกเธอนำเอาเสน่ห์ของความเป็นเกิร์ลกรุ๊ปมาผสานเข้ากับดนตรีที่หนักหน่วงของ Heavy Metal ได้อย่างลงตัว จนทำให้พวกเธอไม่เพียงได้รับการยอมรับในแค่ญี่ปุ่นหรือเอเชียเท่านั้น แต่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และจัดทัวร์ระดับโลกมาแล้วหลายครั้ง
ก่อนหน้านี้ถ้าใครยังจำกันได้ ศิลปินฮิปฮ็อปเบอร์ใหญ่ของไทยอย่าง FHERO ก็เคยมีโอกาสได้ร่วมงานกับ BABYMETAL มาแล้วเมื่อ 4 ปีก่อน ในเพลง “PA PA YA” ซึ่งก็ถือเป็นโอกาสสำคัญของพี่กอล์ฟ และแม้ว่าช่วงแรกจะได้รับกระแสวิจารณ์ที่ไม่ดีนักแต่ในภาพรวมก็ออกมาน่าทึ่ง และต่อมาก็กลายเป็นหนึ่งบทเพลงที่น่าจดจำของ BABYMETAL อีกด้วย
และความสำเร็จมันก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น แต่กลับยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีกเมื่อ FHERO ได้รับคำเชิญอีกครั้งจากวงสาวร็อก จึงได้ต่อยอดไปสู่การสร้างปรากฎการณ์ด้วยการดึงตำนานวงร็อกเพลงไทยแห่งยุคอย่าง BODYSLAM ซึ่งมีพี่ยอด มือกีตาร์ที่เป็นแฟนคลับของวง BABYMETAL อยู่แล้วด้วย ทำให้การร่วมงานครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการสร้างสรรค์ผลงานสุดพิเศษแล้ว ยังเป็นการสานฝันให้พี่ยอดแกอีกต่างหาก
โดยหลังจากปล่อยเพลงออกมาได้เพียง 4 วันก็ทำยอดวิว 1,000,0000 แตกไปแล้ว เป็นอีกครั้งที่ตอกย้ำถึงศักยภาพของศิลปินไทยที่สร้างสรรค์ผลงานระดับโลกได้ดีไม่แพ้ใคร และนี่ไม่ใช่แค่โอกาสอีกครั้งของ FHERO หรือใบเบิกทางของ BODYSLAM เท่านั้น แต่ยังเป็นการปูทางให้ศิลปินอื่น ๆ อีก ที่ต่างชาติจะหันมาให้ความสนใจศิลปินไทยมากขึ้น
ก่อนหน้านี้จริง ๆ FHERO ก็เป็นราชาแห่งการ Collab มาตลอด และร่วมงานกับศิลปินดังอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น แบมแบม อดีตเมมเบอร์ชาวไทยในวง K-POP แถวหน้าอย่าง GOT7 ด้วย รวมถึงศิลปินเกาหลีอย่าง Tiger JK และ Yoonmirae ส่วนทาง BODYSLAM ก็เคยออก World Tour แล้วเช่นเดียวกัน แม้จะเพียงไม่กี่ประเทศ แต่นี่คือโอกาสครั้งใหม่ที่จะทำให้พวกเขาเข้าถึงตลาดใหม่และกลุ่มคนดูที่มากขึ้น จากอิทธิพลของ BABYMETAL ทั้งการไปจัด World Tour ในญี่ปุ่น และการร่วมงานกับศิลปินระดับโลกคนอื่นอีกมากมาย เพราะการร่วมงานกับศิลปินระดับนี้ เหมือนการได้รับการยืนยันแล้วว่า “เรามีของดีพอ”
นอกจากนี้ สิ่งที่พ่วงมาเป็นของแถมนอกจากความนิยมในตัวศิลปินคือความนิยมในความเป็นไทย เพราะจากคอมเมนต์ของเพลงและหลายสื่อที่ทำรีแอคชั่นก็มีความสนใจอยากเรียนรู้วัฒนธรรมไทยเพิ่มเติมและอยากมาเที่ยวประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งนี่ก็จะกลายเป็นโอกาสของธุรกิจอื่น ๆ อีกต่อไป
โดยรวมแล้วจะเห็นได้ว่าการร่วมงานในครั้งนี้ไม่เพียงแค่เป็นการยืนยันให้ทั้งโลกได้เห็นว่าศิลปินไทยมีศักยภาพแค่ไหน แต่ยังเป็นการส่องสปอตไลท์มาที่ไทยมากขึ้น ทำให้ผลงานชาวไทยได้ออกสู่สายตาชาวโลกมากกว่าที่เคย ซึ่งจะกลายเป็นโอกาสในการสร้างรายได้มหาศาลในทุก ๆ ทาง ศิลปะอย่างดนตรีจึงไม่ใช่เพียงเครื่องจรรโลงใจที่ได้มาแค่คุณค่าเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อการสร้างมูลค่าด้วย