เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมาแฟนบอล Manchester United น่าจะได้ชมผลงานอันน่าประทับใจของทีมรักไปแล้ว จากการเอาชนะคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Liverpool ไปได้ 4-3 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ FA Cup เป็นที่เรียบร้อย ถือเป็นเรื่องน่ายินดีหลังจากได้เจ้าของร่วมคนใหม่อย่าง เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ (Sir Jim Ratcliff) เข้ามาบริหารงานด้านกีฬาของสโมสร
ดีลนี้ของเซอร์จิมมีมูลค่า 1.65 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6 หมื่นล้านบาท เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ไปเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยได้เข้าถือครองหุ้นของสโมสร 27.7% ในขณะที่พี่น้อง Glazers ยังถือหุ้นใหญ่อยู่ แต่ก็ทำให้ Manchester United เป็นสโมสรฟุตบอลที่ 3 แล้วที่เซอร์จิมเป็นเจ้าของ ต่อจาก Lausanne-Sport ใน Swiss Super League และ Nice ในลีกฝรั่งเศส
นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของทีมกีฬาหลากหลายประเภทและสนับสนุนอีเวนต์กีฬาอยู่บ่อยครั้งผ่านบริษัทของเขาอย่าง INEOS ซึ่งในฐานะชายที่มีแพชชั่นในกีฬาและรวยอันดับที่ 2 ของสหราชอาณาจักร ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 16.4 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 5 แสนล้านบาท นี่ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นเศรษฐีแสนล้านแบบเซอร์จิมคุณเองก็สามารถเป็นเจ้าของเศษเสี้ยวของสโมสรปีศาจแดงได้เช่นกัน เพราะหุ้นสามัญของสโมสรเปิดให้ซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ของอเมริกา หรือ NYSE ในชื่อ MANU มีราคาปัจจุบันที่ประมาณหุ้นละ 13.8 USD+ ซึ่งคุณสามารถซื้อผ่านโบรกเกอร์ไหนก็ได้ที่รองรับ ใครที่เสีย(ใจ)ไปเยอะกับทีมนี้ล่ะก็ นี่ก็อาจเป็นโอกาสในการทำกำไรคืนกลับมาก็ได้
อย่างไรก็ตามการลงทุนในหุ้น MANU อาจไม่ใช่ทางเลือกที่น่าดึงดูดดใจหากคุณไม่ได้มีศรัทธาในทีมอย่างแรงกล้า
เพราะหากสังเกตกราฟราคาหุ้น ก็ดูเสี่ยงอยู่ใช่เล่น และปัจจุบันร่วงหล่นมาจนต่ำกว่าราคาเสนอตอนเปิดขายครั้งแรกที่ 14 USD ในปี 2012 ด้วยซ้ำ มีช่วงที่ราคาขึ้นไป 16-20 USD อยู่บ้างแต่ก็เหวี่ยงกลับลงมาค่อนข้างแรง และไม่ได้อยู่ในทิศทางการเติบโตที่ยั่งยืนนัก
ซึ่งหากลองไล่ดูประวัติและดูผลการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของหุ้นทีมกีฬาที่เคยเปิดให้ซื้อขายในตลาดตลาดหุ้นอย่าง Cleveland Indians และ Florida Panthers มักมีราคาที่ขึ้นสุดลงสุดกันเป็นว่าเล่น และในภาพรวมแสดงให้เห็นว่าไม่สามารถทำผลตอบแทนได้ดีนักเมื่อเทียบกับตลาด แม้ราคาจะสูงขึ้นในช่วงท้ายแต่ก็ไม่สามารถชดเชยกับความเสียหายต่อเนื่องยาวนานได้
ตัวหุ้น MANU ก็ไม่มีการจ่ายเงินปันผลหรือให้สิทธิ์ควบคุมในการตัดสินใจของทีมมากนัก หุ้น Class A ที่เสนอขายให้กับสาธารณะมีอำนาจการโหวตน้อยกว่าหุ้น Class B ที่ถือโดยเจ้าของทีมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหมายความว่าครอบครัว Glazer จะยังคงควบคุมทีมอย่างเต็มที่ แม้จะมีเซอร์จิมเข้ามาถ่วงดุล แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะมากน้อยแค่ไหน
นี่จึงเป็นสิ่งที่เราควรระลึกไว้ก่อนตัดสินใจลงทุนในหุ้น MANU หรือหุ้นทีมกีฬาไหนก็ตาม ว่าอาจทำผลตอบแทนได้ต่ำกว่าตลาด และมีความเสี่ยงมากมาย ต่อให้จะลงทุนระยะยาวหรือจะเทรดเล่นไม้สั้น ก็ประมาทไม่ได้ เพราะถ้าเข้าจังหวะราคาผิดพลาด ไม่ว่าระยะสั้นหรือยาวก็อาจไม่คุ้มทั้งนั้น แต่ถ้าคุณใจเด็ดและเชื่อมั่นในทีมมากพอ นี่ก็อาจเป็นทางเลือกในการลงทุนที่กระตุ้นศรัทธาให้คุณเป็นส่วนหนึ่งกับทีมโปรดได้มากกว่าที่เคย (ที่สำคัญคือปลอดภัยในทางกฎหมายด้วยนะ)
สุดท้ายนี้หากคุณเป็นแฟนผีก็ลองคอมเมนต์บอกกันหน่อย คุณคิดว่า Manchester United ในมือและวิสัยทัศน์ของเซอร์จิมจะเป็นอย่างไร จะมาไถ่บาปของ Glazer ได้ไหม