CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: Love Wins “สมรสเท่าเทียม” จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยอย่างไร? มองโลกมองไทย
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Opinion > Love Wins “สมรสเท่าเทียม” จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยอย่างไร? มองโลกมองไทย
Opinion

Love Wins “สมรสเท่าเทียม” จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยอย่างไร? มองโลกมองไทย

CTD admin
Last updated: 2024/09/17 at 8:24 AM
CTD admin Published June 28, 2024
Share

ทุกวันนี้เวลาสังคมไทยพูดถึงเรื่อง “สมรสเท่าเทียม” ทั่วไปก็จะเป็นเรื่องมิติสังคมการเมืองอย่างเรื่องสิทธิเป็นหลัก อย่างไรก็ดี จริง ๆ แล้วมิติสำคัญมากที่ภาครัฐน่าจะมองในการ “อนุญาต” ให้คนเพศเดียวกันแต่งงานได้ จริง ๆ แล้วมันเป็นเรื่องมิติทางเศรษฐกิจ และมีการพูดคุยกันมาเยอะมาก

ในสหรัฐอเมริกาหลังจากศาลสูงสุดตัดสินว่าการห้ามคนเพศเดียวกันแต่งงานกันเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญในปี 2015 หลังจากนั้นการแต่งงานระหว่างคนเพศเดียวกันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด 50 รัฐในสหรัฐอเมริกา จริง ๆ นี่ไม่ใช่เรื่องประหลาด เพราะตอนนั้นรัฐส่วนใหญ่ถึง 37 รัฐก็อนุญาติให้มีการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันอยู่แล้ว ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงให้มีการสมรสเพศเดียวกันจึงเพิ่มมาเพียง 13 รัฐเท่านั้น

แต่สิ่งซึ่งก็น่าสนใจว่าหลังจากนั้นเค้าก็มีการประเมินว่ามันมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอันเกี่ยวเนื่องกับการอนุญาตให้คนเพศเดียวกันแต่งงานกันทั้งประเทศเท่าไร? และเค้าก็ประเมินว่า 3 ปีหลังการสมรสเพศเดียวกันถูกกฎหมายในทุกรัฐ มีเม็ดเงินไหลเวียนในเศรษฐกิจอันเนื่องจากการให้มีการสมรสเพศเดียวกันถึง 2,600 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว โดยในรอบ 5 ปี เค้าก็ประเมินว่าการสมรสเพศเดียวกันสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไปรวมๆ เกือบ 4,000 ล้านเหรียญเลยทีเดียว

ซึ่งแน่นอน ตัวเลขพวกนี้เล็กน้อยมากในระบบเศรษฐกิจที่มูลค่าผลผลิตประชาชาติสูงระดับ 10,000,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี แต่ประเด็นคือนี่ก็ไม่ใช่ตัวเลขน้อย ๆ เลยถ้านับว่านี่เป็นแค่ “รายได้ทางตรงที่นับได้” เพราะนี่คือเค้าประเมินจากแค่เงินที่หมุนเวียนจาก “งานแต่งงานเพศเดียวกัน” ที่เกิดขึ้น หรือพูดง่าย ๆ คือประเมินจากงบงานต่างงานเพศเดียวกันทั้งอเมริกา และสิ่งเกี่ยวเนื่อง เช่นภาษีไปจนถึงรายได้จากการท่องเที่ยวในรัฐที่เกิดจากแขกที่เดินทางมางานแต่งใช้เงินจับจ่าย

เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ สถิติพวกนี้มีน้อย เพราะนี่เป็นเรื่องใหม่มาก อย่างไต้หวันที่เพิ่งออกกฎหมายให้แต่งงานเพศเดียวกันได้ในปี 2019 ผลคือไม่นาน “โควิด” ระบาด งาน “อีเวนต์” ทั้งหลายถูกเลื่อนไปหมด งานแต่งงานก็เช่นกัน และก็คงจะไม่เป็นธรรมนักที่จะประเมินว่าธุรกิจตระกูลอีเวนต์เติบโตดีแค่ไหนในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาที่ใต้หวัน

อย่างไรก็ดี ในกรณีไทย ก็ค่อนข้างชัดเจนว่า “สมรมเท่าเทียม” ที่ออกมาจังหวะนี้ก็มีเหตุผลด้านการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแน่ ๆ

หลายคนอาจไม่รู้ แต่ในเชิงการท่องเที่ยว มันมีคำว่า “ท่องเที่ยวเชิงแต่งงาน” (Wedding Tourism) อยู่แล้ว ซึ่งมันก็คือการท่องเที่ยวที่เกิดจากการจัดงานแต่งงานในประเทศ ซึ่งในกรณีไทย การท่องเที่ยวเชิงแต่งงานคือสร้างรายได้ให้ประเทศหลักพันล้านเหรียญต่อปีอยู่แล้ว โดยชาติที่สร้างรายได้หมวดนี้ให้ไทยเยอะ ก็ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อินเดีย และเกาหลีใต้ และทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็มีงบสนับสนุนการท่องเที่ยวแบบนี้อยู่แล้วโดยมีการออกไปโปรโมตประเทศไทยในฐานะปลายทางของการแต่งงานมานานแล้ว

ซึ่งด้านหนึ่ง ตัวเลขนี้ก็น่าจะพอทำให้พอเห็นภาพว่า “สมรสเท่าเทียม” ผ่าน น่าจะทำให้เกิดรายได้ในธุรกิจแต่งงานแต่ไหน ซึ่งถ้าจะพูดง่าย ๆ ก็คือ ตัวเลขเต็มที่ก็น่าจะอยู่หลักร้อยล้านบาทต่อปีทั้งประเทศ

แน่นอนนี่เป็นตัวเลขที่เล็กมากในรายได้มวลรวมประชาชาติของไทยที่ปัจจุบันอยู่ราวๆ 17 ล้านล้านบาทต่อปี แต่สิ่งที่ภาครัฐคาดหวังก็น่าจะไม่ใช่แค่นี้แน่

แต่รัฐจะคาดหวังอะไร? คือต้องเข้าใจก่อนว่า อย่างน้อยประเทศที่คนสามารถสมรสเพศเดียวกันในประเทศตัวเองได้อยู่แล้วที่เป็นตลาดใหญ่ของไทยคือสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย (ประเทศแรกเเริ่มทำได้ในปี 2015 ที่เล่ามาตอนต้น ส่วนประเทสหลังเริ่มทำได้ปี 2017) ซึ่งการมี “สมรสเท่าเทียม” ก็น่าจะยิ่งเพิ่มบรรยากาศให้คนจากประเทศเหล่านี้ยิ่งอยากมา “จัดงานแต่งงาน” ที่เมืองไทย เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชาติที่มาแต่งก่อนหน้าแล้ว

แต่สิ่งที่น่าสนใจและท้าทายของตลาดการแต่งงานก็คือในกรณี จีน อินเดีย และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นชาติที่กฏหมายชาติตัวเองล้วนไม่ยอมรับการสมรสเพศเดียวกัน คนจากประเทศนี้จะมา “ทำพิธีแต่งงาน” ในเมืองไทยหรือไม่? อันนี้เป็นสิ่งที่ต้องดูกันต่อไป

แต่อีกด้านที่น่าสนไม่แพ้กันก็คือ การเปลี่ยนบรรยากาศให้เมืองไทยเป็น “พื้นที่ปลอดภัย” ของคนรักเพศเดียวกันทั่วโลกโดยสมบูรณ์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ คนเหล่านี้อาจมองว่าประเทศไทยเป็นที่ที่อยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัย ซึ่งข้อได้เปรียบอีกประการของเมืองไทยคือบริการทางการแพทย์ที่ราคาย่อมเยา ซึ่งนี่เป็นบริการด้านสุขภาพที่จำเป็นมาก สำหรับกลุ่ม “คนข้ามเพศ” ทั้งหญิงข้ามเพศและชาวข้ามเพศ

และคำถามก็คือนี่จะเป็นไปได้หรือเปล่าที่มันจะทำให้เกิด “ตลาดผสม” เช่น ตลาด LGBTQ+ สูงอายู หรือพูดง่าย ๆ มันเป็นไปได้ที่สมรสเท่าเทียมจะเปิดช่องให้ LGBTQ+ สูงอายุจากโลกตะวันตกอยากมาใช้ชีวิตวัยเกษียณอยู่เมืองไทยมากขึ้น

ซึ่งอะไรพวกนี้ก็น่าจะเป็นลักษณะเฉพาะของเมืองไทยจริง ๆ ที่มีอัตสาหกรรมด้านสุขภาพโดดเด่นด้านราคาถูกและคุณภาพดี ซึ่งไทยจะโตเป็น “Hub วัยเกษียณของ LGBTQ+” ได้หรือไม่ ก็อาจต้องดูกันต่อไป และสิ่งเหล่านี้ก็อาจไม่ได้ต้องการแค่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มันอาจต้องมีการเปลี่ยนระเบียบวีซ่าระยะยาวให้ของ่ายขึ้น หรือกระทั่งการเปลี่ยนมาตรการต่าง ๆ ให้สัญชาติไทยสามารถขอได้ง่ายขึ้นสำหรับชาวต่างชาติที่อยากมาอยู่ที่นี่

เขียนโดย
อนาธิป จักรกลานุวัตร

You Might Also Like

วัดกำลังอสังหาฯ ยามพบศึกหนัก แผ่นดินไหว vs สงครามการค้า บ้านแนวราบโต แต่ตลาดคอนโดตึกสูงสั่นคลอน

ไม่ใช่แค่แรงงานไทยมักง่าย แต่นายจ้างเกาหลีก็อยากได้ผีน้อย

ไม่เอาแอปจีน! รัฐเท็กซัสประกาศแบนทั้ง DeepSeek, RedNote, Lemon8 

แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ปี 2568 คาดยอดจัดส่งรถยนต์ EV โต 17%

TAGGED: LGBTQ+, Wedding Tourism, ท่องเที่ยวเชิงแต่งงาน, สมรสเท่าเทียม

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin June 28, 2024
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article Bitget ยืนหนึ่ง พ.ค.เงินไหลเข้าสูงสุด ในแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
Next Article งานสัมมนา “จัดทัพลงทุนลุ้นดอกเบี้ยลด ท่ามกลางความขัดแย้งในเวทีโลก”
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?